เอ่ยถึงแม่น้ำอิรวดีอันกว้างใหญ่ จากฟากฝั่งหนึ่ง มองไม่เห็นคนอีกฝั่ง ผืนน้ำกว้างใหญ่ราวกับท้องทะเล ที่ท่าเรือของเมืองพุกาม มีเรือโดยสารจอดเรียงรายกัน สำหรับพานักท่องเที่ยวล่องแม่น้ำอิรวดีในยามพระอาทิตย์อัสดง ในเวลาตอนเย็นหลังจากที่ได้นั่งรถม้าเที่ยวชมเจดีย์ใหญ่ภายในเมืองพุกามได้สัก 4-5 เจดีย์ สารถีคนขับรถม้าแนะนำให้มาชมอาทิตย์อัสดงที่แม่น้ำอิรวดี ซึ่งจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่แสงสุดท้ายของวันจะสวยมาก เป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากการชมอาทิตย์อัสดงบนเจดีย์ชเวซานดอว์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปอยู่แล้ว ข้อเสนอของเขาน่าสนใจ และพวกเราก็มีเวลาเที่ยวอยู่ในเมืองพุกามถึง 3 วัน จึงได้มาอยู่ที่ตรงนี้ วันนั้นคนยังไม่เยอะ ปริมาณเรือจึงมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว พวกเราจึงสามารถเหมาเรือลำใหญ่ได้ในราคาไม่แพง ดูแล้วก็เหมือนกับเรือสำราญที่มีผู้โดยสารซึ่งเป็นพวกเราเพียงแค่ 3 คน กับเด็กคนขับเรืออีก 1 คน พอเรือแล่นออกจากท่า เริ่มสัมผัสได้กับแม่น้ำอิรวดีที่กว้างใหญ่และยิ่งใหญ่ เป็นไปดังตำนานจริง ๆ ต้นน้ำมาจากการละลายของน้ำแข็งจากเทือกเขาหิมาลัย สายลมเย็น ๆ พัดผ่านตัว น้ำนิ่งเรียบมีระลอกคลื่นเบา ๆ มองไกลออกไปเห็นเรือนักท่องเที่ยวลำอื่นอยู่ไกล ๆ บางคนแวะลงตรงเกาะกลางแม่น้ำเพื่อไปถ่ายรูป แสงบนท้องฟ้าค่อยออกสีส้มระเรื่อ บรรยากาศดูค่อยโรแมนติกทีละน้อย แต่เรื่องกลับไม่ดำเนินไปทางนั้น เกิดเหตุการณ์หักมุมอย่างไม่คาดคิด เมื่อเรืออันแสนสบายที่แล่นออกไป จู่ ๆ เครื่องก็ดับนิ่ง ทีแรกก็คิดว่าเป็นเพราะคนเรือเขาไม่ต้องการให้เสียงเครื่องยนต์มารบกวนบรรยากาศ แต่ว่าเราคิดผิด ขณะที่อยู่กลางแม่น้ำอิรวดีอันกว้างใหญ่ เรือลำน้อยลอยเท้งเต้ง เด็กคนเรือซึ่งมีเพียงคนเดียว ได้ทำเสียงขลุกขลักอยู่ที่บริเวณเครื่องยนต์เรือ จากนั้นโดยไม่บอกกล่าว เขาก็กระโดดลงน้ำ และว่ายน้ำออกไปอย่างรวดเร็วคล่องแคล่วทั้งที่ยังสวมโสร่ง ปล่อยให้เราผู้โดยสารมองตาปริบ ๆ อยู่กันเอง 3 คน อ๋อ... เรือเสีย เครื่องดับ! แล้วตอนนี้คนขับกระโดดน้ำหนีไปแล้ว ยังไงดีล่ะทีนี้ ขณะที่จิตใจเริ่มหวั่นไหว พวกเราสามคน แต่ละคนเหมือนคิดตรงกัน ในใจคือรู้สึกกลัวแล้ว ทั้งที่อยู่ในน้ำนิ่งไม่ได้มีคลื่นลมเหมือนกลางทะเล แต่ความที่แม่น้ำใหญ่มาก และเรือก็ค่อยๆ ลอยละล่อง ดูไปก็ไร้จุดหมาย ถึงจะกลัวแต่ดีที่ว่าแต่ละคนสวมแว่นตากันแดด จึงสามารถปกปิดอาการขวัญเสีย ที่จะทำให้เกิดอุปาทานหมู่ได้ ได้แต่ลุ้นมองร่างเล็ก ๆ ปราดเปรียวว่ายน้ำจนขึ้นไปยังอีกฝั่ง อีกไม่นานนักก็เห็นเขาหยิบอะไรบางอย่าง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเครื่องมือช่าง เขานำมาเหน็บไว้ที่โสร่งรอบเอว จากนั้นก็กระโดดน้ำ ว่ายกลับมาที่เรือดังเดิม สักครู่เครื่องเรือก็ติด พร้อมกับแสงสีส้มเต็มท้องฟ้า พระอาทิตย์ดวงโตเปล่งประกายสะท้อนผืนน้ำ ได้ชมอาทิตย์อัศดงที่แม่น้ำอิรวดี ช่างสุดพิเศษเหมือนว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์กาลเวลาของแม่น้ำ ต้นกำเนิดอารยธรรมหล่อเลี้ยงผู้คนมากมายมาอย่างยาวนาน