หลายคนอาจสงสัยว่าสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดเช็คอินของเพชรบูรณ์มีแค่เขาค้อรึเปล่า? มีที่อื่นอีกไหม? วันนี้ผมจะมาแนะนำจุดเช็คอินฟิน ๆ ที่เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักหรือไม่ค่อยได้ยิน และพึ่งจะติดเทรนหน้าฟีดตอนนี้อย่าง “ภูทับเบิก” นั้นเองหากท่านสนใจขอเชิญทุกท่านไปรับชมได้เลยครับ ภูทับเบิกเป็นชื่อของยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพรชบูรณ์ ที่นี้แทบจะมีอากาศหนาวอยู่ตลอดทั้งปีเหมาะสำหรับสายทัวริ่งที่อยากวัดใจขึ้นเขาก็ได้ หรือจะเป็นครอบครัวใหญ่พาญาติพี่น้องมาท่องเที่ยว เคาท์ดาวน์ปีใหม่ก็ดี เพราะที่นี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการจัดเคาท์ดาวน์อยู่เสมอ จึงไม่ควรพลาดที่จะมารับลมหนาวสักครั้งในชีวิต หลายคนอาจสงสัยว่าภูทับเบิกสามารถมาเที่ยวได้แค่ช่วงปีใหม่เหรอ ขอตอบตรงนี้จากใจคนจังหวัดเพชรบูรณ์เลยว่า ทุกท่านสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีครับ ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูฝน คือตั้งแต่เดือน กรกฎาคม – กันยายน เป็นช่วงที่ทุกท่านจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกยามเช้าที่จะปรากฎอยู่เต็มน่านฟ้า ภูทับเบิกสุดลูกหูลูกตาเลยครับ หรือจะเป็นช่วงฤดูหนาว คือตั้งแต่เดือน ตุลาคม – กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่อากาศเย็นสุด ๆ พีคสุดในช่วงปีเลยก็ว่าได้ และยังมีดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่งที่จะบานไปทั่วทั้งภูเขา เลยทำให้ภูทับเบิกเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด และควรมาสักครั้งหนึ่งในชีวิตให้ได้ จะเที่ยวแล้วทุกท่านมีที่พักกันรึยังครับ ที่พักนั้นมีหลายแบบหลายเจ้าไม่ว่าเป็นรีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือจนกระทั่งจุดกางเต็นท์ต่าง ๆ ซึ่งคนส่วนมากมักจะเลือกการกางเต็นท์เป็นหลัก เพราะมีราคาไม่แพงและสามารถเลือกจุด ทำเลย์ที่ชอบหรือวิวที่ท่านต้องการได้ จึงทำให้การกาเต็นท์เป็นตัวเลือกแรก ๆ ของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนครับ ซึ่งส่วนตัวผมก็ชอบมันเช่นกัน มันทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันทำให้การมาเที่ยวของผมเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายที่ไม่ใช่แค่การมารับลมหนาวแล้วกลับไปมือเปล่าครับ ภูทับเบิก มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง หลายคนอาจสงสัยว่ามีแค่ที่พักรึเปล่าไปแล้วกลับเฉย ๆ หรือสามารถไปเที่ยวที่อื่นได้ไหม? ผมจึงได้คัดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวที่เหมาะแก่การเป็นจุดเช็คอินให้ทุกท่าน จะมีอะไรบ้างไปรับชมกันได้ ลำดับแรกที่เป็นไฮไลท์หลักของภูทับเบิก นั้นคือ ทะเลหมอกยามเช้าที่จะลอยอยู่ทั่วท้องฟ้าจนเหมือนเราติดอยู่ในโลกเทพนิยาย ซึ่งสามารถพบเห็นได้เกือบทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าตรู่ทุกท่านจะสามารถชม ทะเลหมอกสีขาวที่ปกคลุมทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่สวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์ ลำดับต่อมาดาวบนดิน นอกจากทะเลหมอกแล้ว ภูทับเบิกยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็น “ดาวบนดิน” หรือแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในตัวเมืองหล่มสักและหล่มเก่าในช่วงเวลากลางคืน สร้าง บรรยากาศโรแมนติกเหมือนราวกับว่าเรากำลังมองไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมายหลายล้านดวง และอันดับสุดท้ายวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาใกล้ ภูทับเบิก ภายในบริเวณวัด มีเจดีย์ผาซ่อนแก้วสิริราชย์ธรรนฤมิตที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องหลากสี เจดีย์สีทองทรง ดอกบัวซ้อน 7 ชั้น สูงเด่นสวยงามท่ามกลางภูเขา และพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ 5 พระองค์ ที่นั่งลดหลั่นซ้อนกันลงมา การเดินทางสู่ภูทับเบิกนั้นทุกท่านสามารถเดินทางได้หลายรูปแบบครับ รถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางไป ภูทับเบิกโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว เส้นทางที่นิยมใช้คือ กรุงเทพฯ – เพชรบูรณ์ – หล่มเก่า – ภูทับเบิก ควรใช้ ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเส้นทางขึ้นเขามีความคดเคี้ยวและลาดชัน รถทัวร์ หากท่านไม่สะดวกขับรถสามารถใช้บริการรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปยังหล่มสักหรือหล่มเก่า จากนั้นก็ต่อรถสองแถวหรือรถ รับจ้างขึ้นภูทับเบิก ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทางและจำนวนผู้โดยสาร ข้อเสนอแนะและการเตรียมตัวไปเที่ยวภูทับเบิก สำหรับท่านใดที่วางแผนมาเที่ยวภูทับเบิกควรเตรียม เสื้อกันหนาว หนาๆ และใส่มาหลาย ๆ ชั้นเนื่องจากอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่อุณหภูมิต่ำลงมาก ๆ นอกจากนี้ ควรเช็กสภาพรถให้พร้อม โดยเฉพาะระบบเบรก เพราะเส้นทางขึ้นเขามีความโค้งมากๆและ ลาดชันสูงสุด ๆ อีกทั้งควรรักษาความสะอาดและไม่ทิ้งขยะนะจ้ะ เพื่อให้ภูทับเบิกยังคงความงดงามต่อไปนาน ๆ จ้าาาา!!!! ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดย ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !