เอ่ยถึงเชียงของ มีใครพอจะคุ้นชื่อนี้กันบ้างไหมครับ เชื่อว่าหากไม่ใช่คนในพื้นที่ หรือนักท่องเที่ยวแล้ว อาจทึกทักเอาได้ว่า เชียงของนี้เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศลาวหรือเปล่าน่ะ จริงๆ แล้วเชียงของเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย เป็นดินแดนเหนือสุดของประเทศ ติดชายแดนแขวงบ่อทรายของประเทศลาวผมและครอบครัวเดินทางไปเยื่อนที่นั่นเมื่อกลางปี 2565 ก็อยากนำความประทับใจที่ได้รับมาเล่าสู่กันอ่านในที่นี่ครับ พร้อมแล้วเราก็ลุยกันเลยทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2565 ครับ ครอบครัวเราเดินทางขึ้นเหนือเพื่อเยี่ยมบ้านเกิด ใช่แล้วครับเชียงของคือบ้านเกิดเมืองนอนของผมเอง ก่อนจะย้ายมาตั้งรกรากทำหากินอยู่ที่สมุทรปาการในปัจจุบัน โอกาสเดินทางกลับเชียงของในปีๆ หนึ่งน้อยมาก บางปีแค่หนึ่งครั้ง หรือนานสองสามปีครั้งก็มีเราเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแทนเครื่องบิน เพราะเราต้องการใช้รถยนต์ในการท่องเที่ยวด้วย และไม่ต้องการใช้เช่ารถยนต์ที่สนามบินครับ (เพื่อความประหยัดและความปลอดภัย) ใครที่สะดวกเดินทางด้วยเครื่องบินก็จะต้องเดินทางต่อไปเชียงของอีกประมาณ 100 กิโลเมตรครับแน่นอนระยะทางจากสมุทรปราการถึงเชียงของถือเป็นระยะทางมหาโหดทีเดียว ด้วยระยะทางไกลเกือบ 1000 กิโลเมตร เราเดินทางออกจากสมุทรปราการประมาณตีสามแล้วก็ถึงโรงแรมกันเกือบสามทุ่ม เรียกว่าจอดพักกันตลอดทาง ช่วงที่เดินทางเจอฝนมาเป็นระยะ ผมเลือกใช้เส้นทางถนนหมายหนึ่งแทนเส้นทางที่ตัดเข้าพิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่เราเลือกพักกันที่ โรงแรมน้ำโขง ริเวอร์ไซต์ อ้าวก็ไหนบอกว่าเป็นบ้านเกิดแล้วไปนอนโรงแรมทำไม? (เผื่อมีใครสงสัย) บ้านก็ยังอยู่ครับ แต่ว่าปล่อยจนรกร้างเข้าอยู่ไม่ไหวจริงๆ แล้วเราก็ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ด้วย เพราะครอบครัวเรามีทั้งเด็กสาววัยรุ่นและคุณสูงอายุมาด้วยโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่กลางอำเภอเชียงของติดริมแม่น้ำโขงสามารถนั่งชมวิวแม่น้ำทั้งวันเลย เราชอบมากๆ เปิดประตูออกมาก็เจอสนามหญ้าถัดจากสนามหญ้าก็วิวแม่น้ำแล้ว มีทางลงไปยังถนนเลียบแม่น้ำ คุณจะเลือกเดินเล่น วิ่ง หรือปั่นจักรยานเลาะริมแม่น้ำ เพื่อเก็บรูปสวยได้ตามชอบเลยวันแรกของเราที่เชียงของ ไม่มีอะไรมากไปกว่าเดินทางเยี่ยมบ้านญาติพี่น้อง กินข้าวบ้านโน้น เที่ยวบ้านนี้ รู้สึกดีมากที่ได้อู้กำเมืองแบบเต็มๆ อีกครั้ง (ปกติก็พูดกันอยู่สองคนกับพ่อ) แต่เมื่อเราหันซ้ายหันขวาแล้วเจอแต่คนอู้กำเมือง มันเหมือนกับว่าเราได้ย้อนวันวานเมื่อวัยเด็กยังไงยังงั้นในเชียงของจริงๆ เราแทบจะไม่ได้เที่ยวเลย มีขับรถเลาะไปชมสะพานมิตรภาพไทย-ลาวช่วงสั้นๆ วันนั้นเราเจอขบวนรถเทลเลอร์ยาวเป็นกิโลเมตร พวกเขากำลังรอจะข้ามสะพานเพื่อไปส่ง-รับสินค้าจากจีนอ้อ ผมอยากแนะนำว่า ถ้าชอบวิวป่าเขาเลาะเลียบแม่น้ำโขง หรืออยากหาอาหารอร่อยกินพลางชมวิวแม่น้ำไปพลาง ให้ขับรถตามถนนหมาย 1155 หรือปักหมุดที่ “จุดชมวิวห้วยเอียน” รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ ผมก็แวะไปทานต้มยำปลาคัง ปลาที่ยกขึ้นจากแม่น้ำมาสดๆ รสชาดเด็ดจริงครับวันที่สองเราปักหมุดกันที่ พระตำหนักดอยตุง บอกไปจะมีใครเชื่อไหม ผมกับพ่อเป็นคนเชียงรายแท้ๆ ยังไม่เคยมีโอกาสไปเยือนเลยสักครั้งนับแต่เปิดให้เข้าเที่ยวเมื่อปี 2531 ผมมองย้อนกลับไปก็ยอมว่าเป็นเรื่องยากมากจริงๆ ที่จะมีโอกาสเทียวแบบนั้น ด้วยฐานะทางบ้านและการเดินทางไม่อำนวยเลยสักอย่างพระตำหนักดอยตุงตั้งอยู่บนเทือกดอยนางนอน อำเภอแม่ฟ้าหลวง ห่างจากอำเภอเชียงของประมาณ 100 กิโลเมตร ต้องเดินทางด้วยรถประจำทางอย่างเดียว กินเวลาอย่างน้อยก็ครึ่งวันแล้ว ต้องรอถึง 34 ปีจึงมีโอกาสพาครอบครัวและพ่อขึ้นไปเที่ยวสักครั้งอย่างที่บอกเราเที่ยวในจังหวะที่ไม่ใช่ฤดูหนาวจึงไม่ต้องเบียดเสียดกับคนอื่น วันนั้นท้องปิดมีฝนตรงพร่ำตลอดทั้งวัน การขึ้น-ลงเขาต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก พอขึ้นถึงยอดดอยอากาศดีมาก กลางปีแท้ๆ แต่อุณภูมิอยู่ระดับ 22-24 องศาเท่านั้นความงดงามของพระตำหนักและความสวยงามของสวนดอกไม้เป็นตามที่เคยอ่านตามหนังสือท่องเที่ยวมาจริงๆ เราใช้เวลากันนานมากในการเดินชมบรรยากาศและเก็บภาพความประทับใจ ให้สมกับเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตขากลับโรงแรมมีเรื่องตื่นเต้นกันเล็กน้อย ด้วยความไม่ชินเส้นทางทำให้เราวิ่งตามถนนหมายเลข 1290 (ตามเจ้า Google map) เป็นถนนแปดเลนที่วิ่งทำความเร็วได้ดีมาก แต่แล้วก็แคบลงเหลือสี่เลนแบบวิ่งสวนทางกันจากนั้นมันก็พาเราไปเจอเส้นทางที่โหดโคตรๆ เมื่อถนนขาขึ้นสูงชัน ขาลงก็ดิ่งแบบหน้าทิ่ม แล้วก็โค้งแบบเลื้อยกันเป็นงู บางจุดเป็นโค้งหักศอกเสียด้วยถือว่าเราโชคดีมากที่มาถึงจุดนั้นในเวลาประมาณห้าโมงเย็น ฟ้ายังสว่าง ไม่มีฝน ถนนและวิวสวยมาก แต่ก็สยองใจสุดๆ เหมือนกัน ถ้าฟ้ามืดเรากลัวเรื่องอบุติเหตุที่สุด เพราะความไม่คุ้นเคยเส้นทางนั้นเอง สังเกตุรถเจ้าถิ่นจะวิ่งกันแบบซิลมากใครที่ชอบเส้นทางแปลกๆ สวยๆ ก็ปักหมุดกันที่ “จุดชมวิวห้วยทรายมาน” เลยครับ ลองแวะไปดูกันน่ะ บางจุดเลาะริมแม่น้ำโขง มีคาเฟ่ร้านอาหารให้บริการด้วย แต่อารมย์ผมตอนนั้นอยากจะให้พ้นเส้นทางนั้นให้เร็วที่สุดมากกว่าครับเช้าวันที่สามเราก็เดินทางกลับสมุทรปราการเป็นอันสิ้นสุดทริปเล็กๆ ของเราครับเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ จากทริปเที่ยวบ้านเกิดครับ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ ขอบคุณครับเครดิตภาพ โดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !