นางาโนะเป็น 1 ใน 9 จังหวัดของภูมิภาคจูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางเกาะฮอนชูของประเทศญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่โอบล้อมด้วยภูเขาซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,000 เมตร จึงมีทัศนียภาพที่งดงามและเหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติและชื่นชอบความสงบ สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจแห่งหนึ่งของจังหวัดนางาโนะคือทะเลสาบโนจิริซึ่งตั้งอยู่เมืองชินาโนะ เป็นทะเลสาบเก่าแก่ที่ขุดพบฟอสซิลของช้างแมมมอธ (นอแมน) และถูกโอบล้อมด้วยป่าไม้และเทือกเขานางาโนะทางตอนเหนือ รวมทั้งมีกิจกรรมมากมายให้ได้เพลิดเพลินตั้งแต่การล่องเรือ/แพ การพายเรือคายัก/เรือแคนู/เรือแจว การเดินป่า การเก็บผักป่าหรือเห็ด การตกปลา และการตั้งแคมป์ โดยช่วงที่เหมาะกับการไปเที่ยวคือเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมซึ่งแม้จะเป็นฤดูร้อนแต่อากาศเย็นสบาย ถนนเล็ก ๆ แค่รถสวนกันรอบทะเลสาบที่สองข้างทางเป็นป่าสนสูงให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์ต้นไม้ ทะเลสาบมองจากที่พักผ่านต้นไม้ที่เหลือเพียงกิ่งก้านเพราะผ่านช่วงฤดูใบไม้ร่วงและเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวในปลายเดือนพฤศจิกายน โดยรอบทะเลสาบมีสะพานไม้ทอดยาวจากฝั่งลงสู่ทะเลสาบเป็นระยะ ๆ ช่วงน้ำลดจึงมองเห็นเสาสะพานซึ่งดูคลาสสิกไปอีกแบบ ทะเลสาบยามไม่มีคลื่นลม น้ำนิ่งเรียบเหมือนกระจกจนมองเห็นเงาสะท้อน ความสุขที่หาไม่ได้ง่าย ๆ กับการเดินเล่นริมทะเลสาบพร้อมสูดหายใจให้เต็มปอด ที่พักรอบทะเลสาบส่วนใหญ่เป็นเกสต์เฮ้าส์ ผู้เขียนพักเกสต์เฮ้าส์ LAMP เพราะมีผู้แนะนำว่าบรรยากาศดีเยี่ยมและแค่ข้ามถนนก็ลงไปเดินเล่นรอบทะเลสาบได้ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะอยู่กลางป่าสนและเงียบสงบ เป็นเกสต์เฮ้าส์บ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นบนทำเป็นห้องพักมีหลายแบบทั้งนอนรวมและส่วนตัว และใช้ห้องน้ำรวม ชั้นล่างของ LAMP มีออนเซ็น 2 ห้อง แยกชายหญิง มีห้องสมุดและห้องนั่งเล่น ห้องอาหารอยู่ชั้นล่างตกแต่งสวยงามมาก และที่ถูกใจสุด ๆ เห็นจะเป็นอาหารมื้อเย็นสไตล์ยุโรปที่อร่อยถูกปากทุกเมนู ส่วนอาหารเช้าเป็นอเมริกันเบรคฟาสท์ธรรมดา ๆ หิมะแรกโปรยปรายมาแต่เช้ามืด ทะเลสาบมีหมอกจาง ๆ ลอยอยู่ผิวน้ำ เสียดายที่ลงไปเก็บภาพไม่ได้เพราะฝนตกมาตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ยอมหยุด การเดินทางไปทะเลสาบโนจิริค่อนข้างจะลำบาก จากตัวเมืองนางาโนะต้องใช้ทั้งรถไฟฟ้าและรถประจำทางหลายต่อ เมื่อมาถึงเมืองชินาโนะก็ไม่มีรถโดยสารผ่านต้องใช้แท็กซี่เท่านั้น คณะของเราจึงเช่ารถขับกันเองโดยแวะเที่ยวรายทางมาเรื่อย ๆ (ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน "ชีพจรลงเท้า")