สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านบทความนี้ผมจะมารีวิวรถไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างประเทศมาเลเซีย 🇲🇾 ว่าจะมีความหรูหราและทันสมัยมากแค่ไหน ทั้งๆ ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทยเราแท้ๆ จะเป็นยังไงบ้างติดตามได้จากบทความนี้เลยครับ รถไฟฟ้าระหว่างเมืองของประเทศมาเลเซียมีชื่อเรียกว่า KTM สามารถใช้เดินทางตั้งแต่บริเวณภาคเหนือของประเทศคือ สถานีรถไฟฟ้าปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นส่วนที่ติดกับอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประเทศไทย ไปจนถึง KL Sentral ที่เป็นสถานีรถไฟฟ้ากลางของกรุงกัวลาลัมเปอร์ การจะใช้บริการสามารถจองได้ที่ https://www.ktmb.com.my/komuter.html โดยส่วนมากคนไทยจะใช้บริการในการเดินทางไปยังเมืองหลักๆ คือ ปีนัง, อิโปห์, กัวลาลัมเปอร์ ฯลฯ วันนี้ผมจะเดินทางจาก อิโปห์ ไปยัง ปาดังเบซาร์ มีความประทับใจแรกตั้งแต่การออกรถไฟที่ตรงเวลามาก และการเข้ามาชานชาลาก็มีระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติเหมือนรถไฟฟ้าบีทีเอสบ้านเราเลย รถไฟฟ้า KTM จะเป็นแบบต้องเลือกที่นั่ง มีเครื่องปรับอากาศทุกโบกี้ แสดงถึงการพัฒนาของระบบขนส่งมวลชนของประเทศมาเลเซียได้เป็นอย่างดี ที่นั่งก็เป็นเบาะนุ่มสบาย แต่จะได้นั่งแบบหันหน้าชนกัน แถมยังมีทีวีด้านบนเปิดภาพยนตร์ให้ชม และเมื่อใกล้ถึงสถานีก็จะขึ้นเตือนล่วงหน้าบนหน้าจอ ความปลื้มอีกหนึ่งอย่างคือการที่มีที่ชาร์จแบตบนรถไฟนี่แหละ มีทั้งระบบปลั๊กเสียบและ USB เหมาะกับการเดินทางนานๆ มาก สำหรับคนไทยเราต้องเอาหัวปลั๊กมาเปลี่ยนด้วยนะครับ ส่วนด้านหน้าที่นั่งก็เหยียดได้สบาย แถมยังมีชั้นวางของและกระเป๋าใส่ของด้านหน้าและที่แขวนของด้านบน เป็นการเดินทางโดยรถไฟที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งเครื่องบินจริงๆ ส่วนการเดินไปมาระหว่างโบกี้ก็มีประตูกระจกแบบใช้นิ้วไปสแกนตรงปุ่มเหลืองก็เปิดอย่างอัตโนมัติ ป้องกันการสัมผัสในช่วง Covid-19 ดีมากๆ เลย เมื่อถึงที่หมายก็ทำเวลาได้ตรงเวลาและเดินออกมามีทั้งบันไดเลื่อนและบันไดธรรมดา ตอบโจทย์คนทุกรูปแบบดีสุดๆ อีกทั้งยังมี Lift สำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นและมีป้ายบอกห้องน้ำและทางออกชัดเจนทั้งภาษามลายูและภาษาอังกฤษ สะดวกสบายสำหรับทุกคน ทั้งหมดนี้ก็คือการรีวิวรถไฟฟ้าระหว่างเมืองของประเทศมาเลเซีย มันน่าเหลือเชื่อตรงที่ว่าความทันสมัยสะดวกสบายในการเดินทางของระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า อยู่เพียงแค่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย เท่านั้น ไม่ต้องไปไกลถึงประเทศเอเชียตะวันออกเลย ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ท่องเที่ยว”