ในภาวะที่ชีวิตผู้คนต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย การมีโอกาสได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์นับว่าเป็นการสร้างความรู้สึกอุ่นใจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เดินทางได้สะดวก ด้วยระบบขนส่งสาธารณะใจกลางเมืองก็ยิ่งทำให้การเดินทางไปสักการะเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น อย่างการสักการะเจ้าแม่อุมาเทวี ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือที่คนไทยเรียกกันง่าย ๆ ว่าวัดแขก (สีลม) นั่นเอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีการก่อตั้งขึ้นมาในปีพ.ศ. 2453 - 2454 โดยกลุ่มชาวอินเดียที่มาตั้งรกรากในกรุงเทพ ภายในวัดแห่งนี้มีเจ้าแม่ศรีมหาอุมาเทวีเป็นองค์ประธาน และยังประกอบไปด้วยองค์เทพและเทวีองค์อื่น ๆ รวมทั้งพระพิฒเนศ ซึ่งเทพและเทวีแต่ละองค์นั้นได้นำมาจากประเทศอินเดียโดยตรง จึงนับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรหาโอกาสมาสักการะสักครั้ง อย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นสิริมงคลผู้ที่เดินทางไปสักการะควรทราบข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ ที่แตกต่างจากวัดพุทธอยู่บ้าง ดังนี้ - ห้ามสักการะด้วยของคาว หรือเนื้อสัตว์ทุก ๆ ชนิด การสักการะเทพ และเทวีในวัดแห่งนี้ต้องใช้เพียงดอกไม้ ผลไม้ นม หรือขนมหวานเท่านั้น ห้ามใส่สิ่งที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์โดยเด็ดขาด หากใครไม่ได้เตรียมมาก็สามารถซื้อจากทางวัดได้ - ผู้หญิงที่มีประจำเดือนไม่ควรมาไหว้ เนื่องจากตามความเชื่อในศาสนาฮินดูนั้นหญิงสาวที่มีประจำเดือนถือว่าเป็นหญิงที่มีร่างกายไม่สะอาด การเข้าไปสักการะจะกลายเป็นการหลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แทนได้ จึงควรหลีกเลี่ยงไม่เข้าวัดในช่วงเวลาดังกล่าว - ห้ามบนบานศาลกล่าว เนื่องจากการประทานพรตามความเชื่อในศาสนาฮินดูมีความแตกต่างจากทางศาสนาพุทธ เกิดจากการดลบันดาลขององค์เทพ หรือเทวีเอง การบนบานศาลกล่าวซึ่งเปรียบเหมือนการติดสินบนองค์เทพ จึงเป็นข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ - การเจิมหน้าผาก เมื่อกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแล้ว จะมีนักบวชของทางวัดเจิมหน้าผากให้ การเจิมหน้าผากของผู้หญิงจะใช้สีแดง ส่วนการเจิมหน้าผากของผู้ชายจะใช้สีส้ม การเจิมเป็นเหมือนเครื่องหมายว่าผู้มาเยือนได้ดำเนินการสักการะองค์เทพและเทวีต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว และทำให้ผู้เดินทางไปสักการะได้รับพรจากทุกองค์แล้ว รูปภาพโดยธนพร ชูโชติรส