กลึมี Klu Mi แค้มป์ปิ้ง โฮมสเตย์กลางหุบเขาในบ้านเลาวู อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เห็นวิวดอยหลวงสุดอลังการ ใครมีแพลนเที่ยวเชียงใหม่ช่วงหน้าหนาวนี้ เราขอแนะนำที่พักที่สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้จากมุมไกลๆ และสวยมากๆ ที่นี่คือ กลึมี Klu Mi แค้มป์ปิ้ง เป็นโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาใน อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ หลายคนอาจไม่คุ้นกับชื่อ อ.เวียงแหงสักเท่าไหร่ เพราะต้องขับรถไกลจากตัวเมืองเกือบๆ จะถึงชายแดนไทย-พม่าอยู่แล้ว แต่ถึงจะไกลไปหน่อย แต่พอเห็นบรรยากาศวิวหลักล้านแบบนี้ ความเหนื่อยที่มีหายไปหมดเลย >< กลึมี Klu Mi แค้มป์ปิ้ง ตั้งอยู่ในเขต หมู่บ้านเลาวูของชาวลีซู ระยะทางห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่มาถึงที่นี่ก็ราวๆ 150 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-3.5 ชั่วโมง ด้วยความที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ทำให้ยังมีความเป็นธรรมชาติ ต้นไม้สูงใหญ่ ทิวเขาสลับซับซ้อนตรงหน้าทำให้รู้สึกว่ามนุษย์ก็เล็กจิ๋วเดียว เราขับรถผ่าน ป้ายประสู่เวียงแหง ซึ่งเป็นเหมือนหน้าอำเภอ เข้ามาตามเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ถนนดีมีแค่บางช่วงเท่านั้นที่ขรุขระ รถเก๋งสามารถขับขึ้นมาได้สบายๆ อากาศวันนี้ท้องฟ้ายังแจ่มใส แต่มีเมฆมาก การเดินทางขึ้นไปยังที่พัก จะต้องใช้เส้นทางผ่านหมู่บ้านที่ค่อนข้างแคบและชัน ทางที่พักแนะนำว่าหากจะเข้ามา เมื่อมาถึงหน้าหมู่บ้านให้โทรมาแจ้ง ทางเจ้าของที่พักจะลงมารับเพราะจะต้องคอยนำทางเข้ามา เกรงว่าจะเกิดอันตรายเพราะเส้นทางที่จะเข้าไปเป็นถนนแคบๆ รถไม่สามารถสวนกันได้ กลึมี Klu Mi แค้มป์ปิ้ง ตั้งอยู่บริเวณใกล้กันกับ จุดชมวิวฮาดู่บิ ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยหลวงเชียงดาว ผ่านเลเยอร์ภูเขาหลายลูกที่สลับซับซ้อน ข้างบนนี้ไม่มีไฟฟ้า ส่วนสัญญาณโทรศัพท์มีแค่บางจุดและบางเครือข่ายเท่านั้น บ้านพักสร้างจากไม้ไผ่มุงด้วยหลังคาจาก ทรงหน้าจั่ว ด้านในมีพื้นที่สำหรับนอนอย่างเดียวมีฟูกที่นอนให้ มีหมอน มีผ้าห่ม และน้ำดื่มให้ 2 ขวด ไม่มีผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์ใช้ส่วนตัวต้องนำมาเอง ทุกหลังจะมีระเบียงที่หน้าบ้านไว้นั่งรับลม บ้านพักมีห้องน้ำในตัว สามารถอาบน้ำได้แต่จะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าต้องการอาบน้ำอุ่นจะต้องเดินไปอาบที่ห้องน้ำรวม ซึ่งเค้าแยกชาย-หญิงไว้ให้ น้ำอุ่นเป็นระบบแก๊ส บ้านพักทุกหลังหันหน้าไปทางดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งแต่ละห้องก็จะมีวิวคล้ายๆกัน ด้วยความเป็นโฮมสเตย์ของชาวบ้านก็จะไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากเท่าไหร่ ไม่มีไฟฟ้า แต่มีโคมไฟจากโซลาร์เซลล์ตอนกลางคืนให้ในห้องพักนะคะ ไม่มีพัดลม แต่อากาศก็ไม่ร้อน แอบหนาวนิดหน่อยด้วย เพราะช่วงที่เราไปฝนตกช่วงตอนกลางคืน แนะนำว่าถ้าอยากมาเที่ยวแล้วฟ้าเปิดอากาศดีๆ ให้มาช่วงปลายตุลา ถึงกุมภา เพราะจะได้เห็นทะเลหมอกและฟ้าใสๆ ตอนเช้าที่จริงทางที่พักมีบริการพาไปชมวิวทะเลหมอกที่จุดชมวิวด้วยนะคะ เสียดายที่ช่วงที่เราไปฝนตก ถนนลื่นเลยต้องงดกิจกรรมนี้ไปแบบน่าเสียดายจริงๆ แต่แค่วิวรอบที่พักก็สวยมากๆแล้ว เราจองที่พักผ่าน Facebook กลึ มี แคมป์ปิ้ง - Klu mi Camping ใน ราคา 2 คน 1,500 บาท พร้อมอาหารเช้า 1 มื้อ มื้อเย็นสามารถสั่งชุดหมูกะทะมาทานหรือสั่งอาหารจากในครัวได้ค่ะ ส่วนมื้อเย็นของเราวันนี้ ขอฝากท้องไว้กับอาหารง่ายๆ ฝีมือเจ้าของที่พักเลย กับเมนูผัดกะหล่ำปลีและไข่เจียว กินกับข้าวหอมมะลิที่ปลูกบนดอย รู้สึกว่าเป็นข้าวหอมมะลิที่นุ่มเหนียว อร่อยกว่าข้าวในเมือง 5555 ส่วนมื้อเช้าทางที่พักเสิร์ฟเป็นต้มฟักไก่ กับไข่เจียว และน้ำพริก กินข้าวท่ามกลางสายหมอกที่มาทักทายแต่เช้า วิวหลักล้านเลยทีเดียว ถ้าใครกำลังมองหาที่พักท่ามกลางธรรมชาติ อยากตื่นมาดูหมอกและภูเขาแบบเต็มตา ขอแนะนำ กลึมี แคมป์ปิ้ง เลยค่ะ ที่นี่เหมาะกับคนที่เข้าใจวิถีโฮมสเตย์ อาจไม่ได้สะดวกสบายเหมือนโรงแรม เพราะอยู่กลางป่า อาจมีมดหรือแมลงมาทักทายบ้าง แต่ก็เป็นเสน่ห์เล็กๆ ของการได้อยู่ใกล้ธรรมชาติจริงๆ ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขกับการเดินทางนะคะ ^^ กลึ มี แคมป์ปิ้ง - Klu mi Camping พิกัด : Google Map เบอร์ติดต่อ : 093 284 6675 ค่าบริการ : อาจเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาการเข้าพัก แนะนำตรวจสอบกับที่พักโดยตรง ภาพปกและภาพทุกภาพโดยผู้ขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !