ก่อนอื่นท้าวความก่อนเลยนะครับว่าครั้งที่แล้วผมได้เขียนบทความการท่องเที่ยวมาเลเซีย ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ และเมืองปุตราจายา ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจเที่ยว สามารถไปตามอ่านกันได้นะครับ ส่วนสำหรับวันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวของผมในเมืองรองของมาเลเซียกันบ้างครับ ซึ่งเมืองรองนี้ก็ไม่ได้น้อยหน้าเมืองหลักอย่างกัวลาลัมเปอร์เลยครับ เมืองรองที่ผมพูดถึง และผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวนั่นก็คือ เกาะปีนังครับ พอพูดมาขนาดนี้หลายคนก็คงจะอ๋อเลยใช่ไหมครับ เมืองนี้หลายๆ คนอาจจะคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว แต่ยังอาจจะไม่รู้จัก หรือยังไม่เคยได้มีโอกาสไปเที่ยว ผมเลยจึงขอใช้โอกาสนี้ได้แชร์จากประสบการณ์ของผมที่ได้ไปเที่ยวมาในบทความ " เที่ยวเมืองรองในมาเลเซีย "ปีนัง" 1 วันก็เที่ยวได้" โดยผมต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าผมได้เที่ยวในกัวลาลัมเปอร์แล้วเเละบทความนี้เป็นบทความแยก เที่ยวเฉพาะเมืองรองของมาเลเซียครับ เพราะฉะนั้นระยะเวลาในการเที่ยวเมืองนี้ผมจะไม่เที่ยวนานครับ เหมาะกับคนที่มีเวลาเที่ยวน้อยครับ หรือถ้าใครจะมาจากหาดใหญ่ นอนเที่ยวสัก 1 คืนก็ได้ไม่มีปัญหาเลยครับ ทริปของผมจะมีรายละเอียดอะไรกันบ้างมาดูกันเลยครับ อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้นครับว่าผมเที่ยวอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ ดังนั้นทริปปีนังของผมจะต้องเริ่มที่กัวลาลัมเปอร์ครับ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังปีนัง รวมทั้งหมดเกือบ 6 ชั่วโมงเลยครับ ตามในรูป อาจจะมีเวลาที่รถแวะพักด้วยครับ ผมเดินทางในช่วงกลางคืนครับ เพื่อที่จะได้ไปเช้าที่ปีนังเลยครับ จะได้ไม่ต้องไปเสียค่าโรงแรมฟรีอีกคืน แต่สำหรับใครที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์แล้วอยากมาเที่ยวปีนังเหมือนกับผม ถ้าไม่อยากนั่งรถก็สามารถนั่งเครื่องไปได้นะครับ เพราะเกาะปีนังมีสนามบินครับ ราคาที่เห็นในรูปน่าจะเป็นช่วงโควิดเลยแพงครับ ช่วงที่ผมไปตั๋วเครื่องเริ่มที่ 700 บาทไทยเองครับ เเต่ที่ผมไม่เลือกไปคือต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน และไกลจากตัวเมืองมากครับ ขี้เกียจแบกกระเป๋าไปขึ้นเครื่อง เลยเลือกขึ้นรถแล้วนอนบนรถ 1 คืนดีกว่าครับ รอบรถผมออก ประมาณ 5 ทุ่ม ไปถึงที่ปีนังก็ประมาณตี 5 เกือบ ๆ 6 โมงเช้าครับ รถจอดหลายที่นะครับ ให้ถามย้ำกับคนขับว่าลงที่ จอร์จทาวน์ นะครับ สำหรับผมที่นี่คือดาวทาวน์ครับ เพราะมีทุกอย่างครับในย่านนี้ครับ ต้องยอมรับนะครับว่าเกาะปีนังนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อสายจีนอาศัยอยู่ครับ คนมาเลเเท้จริง ๆ จะอยู่แผ่นดินใหญ่ครับ และที่นี่อย่างที่สมคำร่ำลือคือสถาปัตยกรรม และภาพวาดบนกำแพงที่มีทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง มห้เราได้เลือกถ่ายภาพได้ตามใจชอง เลือกได้ว่ามีทุกซอยครับ เรียกได้ว่าถ่ายกันจนเบื่อเลยทีเดียว ไปดูรูปบางส่วนที่ผมเอามาฝากกันครับ และมุมมหาชน บ้านเมืองที่ปีนังดูสะอาดสะอ้านครับ ด้วยความที่ไม่มีสายไฟมารกตา ผู้คนในเมืองก็ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดีครับ พอเดินเล่นในเมืองเบื่อแล้วก็ไปชมวิวกันบ้างครับ สถานที่ที่เราจะไปนั้นก็เป็นสถานที่ยอดฮิตของปีนังเลยครับ ถ้ามาที่ปีนังแล้วต้องไปเลยครับ ที่นั่นคือ ปีนังฮิลล์ครับ ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเกาะปีนังได้ 360 องศาเลยก็ว่าได้ครับ จุดที่เราต้องไปขึ้นรถ ให้เพื่อน ๆ จำไว้เลยครับว่า Komta กอมต้า เป็นตึกสูงถ้าเดินในจอร์จทาวน์ยังไงก็เห็นครับ มันเป็นห้างครับ ตุดขึ้นรถจะอยู่ชั้น G เลยครับ มีหลายสายมาก ๆ รถบัสสาย 204 นะครับ ถามคนแถวนั้นได้ครับ ส่วนผมหาแล้วแต่คนเยอะมาก เพราะช่วงนั้นคนไปเที่ยวเยอะ เลยมองหากับเพื่อนว่าไม่อยากยืนไปเพราะมันค่อนข้างนาน จึงตัดสินใจเรียก Grab กันครับ ราคาไม่แพงเท่าที่คิดไว้นะครับ แถมได้นั่งตากแอร์ไปสบาย ๆ ครับ พอถึงทางเข้าปีนังฮิลล์ ซึ่งมันจะเป็นตีนเขาครับ เราจะต้องขึ้นรถรางขึ้นไป ราคาประมาณ 30 RM บาทครับ ณ ตอนนั้น ไม่มีส่วนลดบัตรนักศึกษาครับ ผมถามแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นแค่ช่วงนั้นหรือตลอด เพราะบางคนรีวิวว่าได้ ส่วนผมนั้นขอไม่ได้ครับ และพอขึ้นไปถึงข้างบนก็เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดครับ สวยงามสมกับค่ารถมาจริง ๆ ไปดูกันครับ พอพรอาทิตย์ตก ก็พากันกลับครับ ไปเดินเล่น ๆ ในเมืองต่อ แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากครับ เพราะมาเลเซียถ้ามืดแล้วไม่ค่อยออกบ้านกัน ผมไม่รู้จะกินกัน เลยไปจัดอาหารตามที่พี่คนขับ Grab บอกนั่นคือ โล๊ก โล๊ก Lok Lok ไม่รู้ว่าผมพิมพ์ถูกรึเปล่านะครับ หน้าตามันจะเป็นแบบนี้ครับ วิธีการกินก็คือ จะได้จานมา 1 ใบครับ และเลือกหยิบตามใจชอบเลยครับ จากนั้นนำไปต้มจะมีหม้อต้มให้ มีน้ำจิ้มให้เลือกตามใจชอบเลยครับ ผมนี่กินแบบรัว ๆ เลย เพราะอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ไม่มีหมูกิน แต่ที่นี่มี เลยจัดไปชุดใหญ่ ๆ เลยครับ ยืนกินนะครับ ได้อารมณืดี แบบยืนเลือกตรงนั้น ต้มเองตรงนั้น ทานเองตรงนั้น ก็ไม่ความรู้สึกแปลกไปอีกแบบ พออิ่มก็จ่ายเงินคิดตามสีที่ป้ายไว้ตามไม้ที่เรากินไปครับ ผมเสียไปแค่ ร้อยกว่าบาท แต่กินไปเยอะมาก ๆ จนฝรั่งที่ยืนกินด้วยกันมอง พอกินเสร็จก็กลับห้องครับ รอกลับหาดใหญ่วันรุ่งขึ้น จุดที่เราไปซื้อตั๋วและขึ้นรถกลับหาดใหญ่ ก็ไปที่เดิมครับ ห้างกอมต้า ที่ขายตั๋วจะเป็นออฟฟิตเล็ก อยู่ทางด้านหลังของห้างครับ จะมีป้ายเขียนไทยชัดเจนครับ หาไม่ยาก บอกว่าไปหาดใหญ่ พูดอังกฤษก็ได้ ไทยก็ได้ เพราะคนขายตั๋วพูดได้ครับ สำหรับคนที่มาซื้อตั๋วไว้ก่อน ให้รถไปรับที่โรงแรมก็ได้นะครับ ส่วนผมโรงแรมอยู่ใกล้เลยเดินมากันเองครับ หลังที่ขึ้นรถก็หลับยาว ๆ เลยครับ อันนี้เป็นสะพานที่ข้ามจากเกาะปีนัง ข้ามมาฝั่งที่เป็นแผ่นดินใหญ่ครับ ถือว่าเป็นสะพานที่ยาวมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้นะครับ แอบไปสืบมาคือยาวเกือบ 10 กิโลเมตร เป็นสะพานที่ยาวที่สุดอันดับ 2 ของมาเลเซีย และเป็นสะพานที่ยาวอันดับ 5 ของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ผมว่าละคือแอบงีบไปพักหนึ่ง ยังข้ามไม่ถึงฝั่งเลยมันยาวเป็นสิบ ๆ กิโลเมตรนี่เอง จากนั้นก็เดินทางถึงอำเภอหาดใหญ่ ประเทศไทย โดยได้เวลาคืนมาอีก 1 ชั่วโมงครับ (เวลาที่มาเลเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ ทริปเที่ยวเมืองรองในมาเลเซีย "ปีนัง" 1 วันก็เที่ยวได้ โดนใจเพื่อน ๆ บ้างไหมครับ อย่างที่ผมบอกไปว่าผมมีเวลาค่อนข้างกัด ทริปนี้จึงเหมาะกับคนที่ไปเที่ยวเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์มาแล้ว และมาเเวะเที่ยวอีกที่เหมือนผม หรือกับคนที่ไม่มีเวลาที่สามารถเที่ยวได้วันหรือสองวัน เเต่ผมว่าก็น่าจะพอครับ เที่ยวที่ปีนังไม่ค่อยมีอะไรน่าห่วงครับ เมืองดูปลอดภัยกว่าที่กัวลาลัมเปอร์ด้วยซ้ำครับ เพราะฉะนั้นปีนังถือเป็นอีกสถานที่ที่ใกล้บ้านเรามาก ๆ จะควรที่จะไปเที่ยวพักผ่อนครับ เดินทางไม่นาน ที่เที่ยวก็ครบครัน ถือว่าคุ้มครับถ้่าได้มา สุดท้ายนี้ผทขอขอบคุณทุกคนที่อ่านกันจนจบครับ เช่นเคนหากใครมีข้อสงสันในเรื่องต่าง ๆ หรือมีข้อมูลที่อยากจะแชร์กันก็สามารถแบ่งปันกันได้ครับ วันนี้ขอบคุณและสวัสดีครับ ภาพประกอบทั้งหมดเป็นของนักเขียน -ปีกแมลงไหม-