สวัสดีค่ะ ทุกคนพับกบ พบกับ! goodmood อีกเช่นเคยวันนี้ฉันจะมาเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวคนเดียวย่านกรุงเก่าอย่าง ปากคลองตลาด-สะพานพุทธ ให้ฟังกันค่ะ โดยทริปนี้เป็นทริปไปกลับ ไม่มีรถส่วนตัวนะคะ ไหนใครกลัวการไปเที่ยวคนเดียวมั่งคะ ขอเสียงหน่อย แล้วคุณจะเปลี่ยนใจหลังจากอ่านบทความนี้จบแน่นอนค่ะ เพราะการเดินทางก็สะดวก แถมสนุกสนานไปกับการถ่ายรูปสุดๆ ทริปนี้ฉันได้พกกล้องฟิล์มคู่ใจไปด้วยค่ะ มีรูปฟิล์มมาฝากคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคนด้วยนะคะ งั้นเรามาเริ่มกันเลย อันดับแรกต้องขอบอกว่า ฉันเป็นคนรังสิตค่ะ จังหวัดปทุมธานีนั่นเองเริ่มจากฉันเดินทางโดยรถไฟฟ้าbts จากสถานีคูคตไปลงที่สถานีหมอชิตค่ะ แอบกระซิบ ฟรีค่ะ ปัจจุบันยังฟรีแบบไม่มีกำหนดด้วยนะคะ เอาล่ะชาวปทุมธานีอย่างเรามีหรือจะไม่พลาด พอถึงสถานีหมอชิต เราจะเดินทางโดยรถไฟฟ้าmrtกันค่ะ โดยสถานีปลายทางของเรานั่นก็คือลงที่สถานีสนามไชยค่ะ เริ่มจากการซื้อตั๋วจากสถานีจัตุจักร-สถานีสนามไชย 42 บาทค่ะซึ่งการเดินทางเราจะขึ้นรถไฟฟ้าชานชาลาที่2ไปเปลี่ยนสถานีที่ท่าพระจากนั้นเดินทางต่อที่ชานชาลาที่2 เพื่อไปลงสถานีสนามไชยค่ะ ใช้เวลาในการเดินทาง 29 นาทีค่ะ สำหรับใครที่เดินทางโดยรถไฟฟ้าไม่เก่งหรือไม่เคยเดินทางโดยรถไฟฟ้าบอกได้คำเดียวว่าไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ นี่เป็นการเดินทางรถไฟฟ้าmrtครั้งแรกของฉันเหมือนกันค่ะ มีป้ายบอกตลอดค่ะไม่หลงแน่นอนแต่หากใครกลัวจะหลงจริงๆถามเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารักมากและพร้อมให้คำแนะนำค่ะ พอถึงสถานีปลายทางของเราก่อนจะออกสถานีอยากแนะนำให้ทุกคนอย่าพึ่งรีบออกนะคะแวะมาชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ใต้ดินแห่งแรกของประเทศไทย (Site Museum) โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสรรและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ขนส่งสาธารณะ เพื่อเผยแพร่เรื่องราวความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์พื้นที่บริเวณโดยรอบสถานีสนามไชยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณ(ทางออกที่ 1) โดยสถานีสนามไชยแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสถานีเดียวในพื้นที่บนเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน ถือเป็นประตูสู่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของประเทศ นอกจากนี้สถานีสนามไชยก็มีชื่อเสียงโด่งดังว่าเป็นสถานีที่สวยที่สุดอีกด้วยหลังจากชื่นชมความงามของสถานีและได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ไทยกันไปแล้วแต่ฉันยังไม่จุใจค่ะ เราจะไปต่อกันอีกที่นึงนั่นก็คือ มิวเซียมสยาม โดยเดินออกชั้นบนบริเวณทางออกที่1ค่ะจะพบกับพิพิธภัณฑ์เลยค่ะ มิวเซียมสยามเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งแรกที่เน้นการสร้างประสบการณ์แบบใหม่ในการชมพิพิธภัณฑ์ จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบของแหล่งเรียนรู้ที่น่ารื่นรมย์ และช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ ให้กับประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนไทย เกี่ยวกับการสร้างสำนึกในการรู้จักตนเอง รู้จักเพื่อนบ้าน และรู้จักโลก ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ไทยซึ่งประกอบด้วยนิทรรศการถาวรชุด "ถอดรหัสไทย"นิทรรศการหมุนเวียน กิจกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์แต่เนื่องจากฉันต้องเดินทางไปอีกหลายที่จึงเดินชมแค่บริเวณชั้น1และชั้น3ชั้นค่ะ เป็นชั้นของนิทรรศการถาวรชุด "ถอดรหัสไทย" จะพาทุกคนไปเรียนรู้พัฒนาการ “ความเป็นไทย” เป็นสิ่งที่แสดงแสดงให้เห็นถึง “อัตลักษณ์หรือตัวตน” มาในรูปแบบเทคโนโลยี สื่อผสมเรื่องราวการพัฒนาชาติไทยภาพนิทรรศการถาวรชุด "ถอดรหัสไทย" ความรู้สึกของฉันหลังจากเดินชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ให้ความรู้สึกสุดคลาสสิก ภายในอาคารจะตบแต่งแบบย้อนยุค ซึ่งพิพิธภัณฑ์นี้แอบกระซิบว่าครบรอบ100ปีแล้ว แต่ยังไม่ทรุดโทรมเหมือนใหม่เลยค่ะ พนักงานทุกคนต้อนรับอย่างดีและที่สำคัญแนะนำให้เยี่ยมชมจุดต่างๆได้ดีมากๆค่ะ ฉันคิดว่าเหมาะแก่ทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ โดยสื่อการแสดงเรื่องราวผ่านทางเทคโนโลยีเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ทำให้การรับชมไม่น่าเบื่อ เด็กๆที่ไปเที่ยวชมตื่นตาตื่นใจมากๆค่ะรวมถึงตัวฉันเองด้วย สำหรับใครที่เหนื่อยๆพักกินขนมกินน้ำที่หน้าพิพิธภัณฑ์ได้นะคะ มีคาเฟ่เล็กๆไว้พักผ่อนหย่อนใจค่ะ สำหรับข้อมูลค่าเข้าชมคนไทย 100 บาทต่างชาติ 100 บาท- นักเรียน นักศึกษา แสดงบัตรที่หน้าเคาน์เตอร์ รับส่วนลด 50%- เข้าชมเป็นกลุ่ม(จำนวน 5 คนขึ้นไป) รับส่วนลด 50%- เยาวชนไทยและเยาวชนต่างชาติ อายุต่ำกว่า 15 ปี ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป พระภิกษุสงฆ์ นักบวช ผู้พิการและทุพพลภาพ มัคคุเทศน์ (แสดงบัตรประจำตัวที่ออกโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) เข้าชมฟรี- วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ประกาศโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เข้าชมฟรีสำหรับข้อมูลการเดินทางอื่นๆ รถยนต์ : ลงทางด่วนที่ด่านยมราช วิ่งเข้าเส้นหลานหลวง เข้าสนามหลวง ผ่านวัดพระแก้ว วิ่งตรงมาทางวัดโพธิ์ รถบังคับเลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวขวาผ่านหน้ากรมที่ดิน เลี้ยวขวาอีกทีหน้า สน.พระราชวัง วิ่งมามิวเซียมสยามอยู่ซ้ายมือ มีที่จอดรถยนต์และรถจักรยานบริการครับ รถโดยสาร : สาย 3, 6, 9, 12, 32, 44, 47, 53, 82, 524รถไฟฟ้า BTS : ลงสถานี “วงเวียนใหญ่” แล้วนั่งรถประจำทางสาย 82 เอาล่ะค่ะต่อไปนี้จะเป็นภาพฟิล์มประกอบการบรรยาย (ฉันเป็นมือใหม่มากๆค่ะ ตั้งใจถ่ายสุดๆเกร็งไปหมดเลยค่ะ555555)บริเวณนี้คือ ด้านหน้าและด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ค่ะ ลำดับต่อมาเราจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมตลาดเก่าแก่ "ปากคลองตลาด" ที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่เน้นขายสินค้าเกษตรกรรมการค้าส่งผัก ผลไม้และดอกไม้สด ติดอันดับที่ 4 (จากการจัดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดดอกไม้ทั่วโลก) เมื่อเดินทางออกจากพิพิธภัณฑ์เราจะเดินเท้ายังตลาดกันค่ะ ฉันออกทางประตูด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ค่ะ เเล้วก็เดินเท้าราวๆ10นาทีถึงค่ะ ประมาณ300เมตร ข้ามสะพานเจริญรัชไปก็ถึงเลยค่ะ หากใครที่ต้องการเดินทางมาที่ปากคลองตลาดโดยตรงสามารถเดินทางได้ตามข้อมูลดังนี้ค่ะ รถไฟฟ้าmrt: สายสีน้ำเงิน ลงสถานีสนามไชย (ทางออกที่4)รถบัส: 208,210,89 ภาพระหว่างการเดินทางไปค่ะ เมื่อเดินมาถึงสักพักจะเจอกับสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง และแล้วก็ถึงค่ะ ฉันเดินเสพบรรยากาศพร้อมกับถ่ายรูปรัวๆเลยค่ะ ร้านดอกไม้ละลานตามากค่ะ ฉันได้ซื้อมาช่อนึงราคาถูกมากค่ะ มีให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ภาพบรรยากาศตลาดค่ะ คนไม่เยอะมากนะคะช่วงนี้ตอนที่เดินถ่ายรูปช่วงประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสองค่ะดอกไม้สดๆ สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะต่อมาหลังจากเดินชมดอกไม้นานาพันธุ์กันไปแล้วฉันก็เดินตรงไปเรื่อยๆค่ะ คิดในใจเราหลงรึยังนะ 5555555555 เมื่อตรงไปเรื่อยๆจะเจอทางแยกค่ะฉันตัดสินใจเดินทางไปซอยด้านขวาซึ่งยังอยู่ในบริเวณของปากคลองตลาดอยู่ค่ะ เดินไปจนสุดทางก็จะเจอกับรถเมล์สาย8 เเฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ โอเคใจชื้นค่ะ ฉันก็เดินตรงไปเรื่อยๆพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวๆ ไปเจอกับท่าเรือสะพานพุทธค่ะ พอเดินมาสักพักพบว่าสะพานพุทธอยู่ด้านบนค่ะสำหรับใครที่อยากเดินทางมาสะพานพุทธโดยตรงข้อมูลดังนี้ค่ะ รถไฟฟ้าmrt: สายสีน้ำเงิน ลงสถานีสนามไชย (ทางออกที่4)รถบัส: 3,42,6,7ก,8 ใจจริงอยากไปเดินที่สะพานนะคะแต่เหนื่อยมากแล้วค่ะ ก็นั้งรถตุ๊กๆกลับสถานีไปเลยสิคะ555555555 ไม่ได้นั้งมานานแล้วรู้สึกดีเหมือนเดิมเลยค่ะ ฉันไปลงที่สถานีสนามไชย แล้วเดินทางกลับบ้านค่ะ เนื่องจากต้องแวะไปล้างฟิล์มต่อและต้องเดินทางต่ออีกประมาณชม.กว่าก็เลยตัดสินใจกลับค่ะ สำหรับตัวฉันเองรู้สึกสนุก มากๆๆๆๆ ถ่ายรูปเพลินมากค่ะหลังจากห่างหายไปนานเนื่องจากโควิด19 ทำให้ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยค่ะ สำหรับใครที่กำลังกลัวการเดินทางคนเดียวหรือคนรอบตัวไม่ว่าง ว่างไม่ตรงกันจะไปเที่ยวคนเดียว จะสนุกมั้ย เหงามั้ย คุณอาจจะเปลี่ยนความคิดนี้ไปเลย เพราะ การไปเที่ยวคนเดียวไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด สำหรับตัวฉันเองฉันมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวคนเดียวค่ะ รู้สึกอิ่มเอมใจเสมอๆ ภาคภูมิใจมากๆค่ะ ข้อดีและข้อเสียก็จะแตกต่างออกไปกับเวลาได้ไปเที่ยวกับผู้อื่น ข้อดีคือคุณจะได้รู้สึกถึงการผจญภัย การพึ่งพาตัวเอง มันก็สนุกไปอีกแบบนะคะ เพราะทุกๆคนมักมีครั้งแรกเสมอ อยากให้ทุกๆคนได้มาลองเปิดรับสิ่งใหม่ๆประสบการณ์ใหม่ๆดูค่ะ การที่เราพาตัวเองไปเจอผู้คนใหม่ๆก็อาจจะได้มิตรภาพดีๆระหว่างทาง ข้อเสียจะไม่มีคนถ่ายรูปให้แต่มันไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะเราสามารถขอรบกวนคนรอบๆข้างถ่ายให้ได้เลยค่ะ อย่าได้เเคร์ค่ะ หรือถ้าเขินอายก็พกรีโมทส่วนตัวไปกดถ่ายรัวๆตามใจชอบเลยค่ะ เป็นวิธีนึงที่ฉันใช้ประจำเวลาไปไหนคนเดียวค่ะ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญอยากให้ทุกๆคนศึกษาเส้นทางไป/กลับให้ดีๆ เวลาในการเดินทางต่างๆเพียงแค่เราเตรียมตัวมาอย่างดีก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วค่ะ ไม่ต้องไปคิดมากถึงคนรอบข้าง โฟกัสที่ตัวเราสนุกๆไปกับทริป สำหรับใครที่กำลังลังเลอยู่ ออกไปลุยเลยค่ะถ้ารอคนอื่นว่างหรือรอโอกาสต่างๆอาจจะพลาดไปตลอดกาลนะคะ ออกไปสนุกกับตัวเองกันค่ะ รับรองคุณจะไม่ผิดหวังสุดท้ายนี้ goodmood อยากจะฝากเพจFacebook: lets.gowithmeและ Instagram: lets.gowithme ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ มือใหม่หัดหาทำค่ะ5555555 เป็นบล็อกรีวิว Art space ต่างๆที่ไปมาค่ะ จุดประสงค์เพื่ออยากจะส่งต่อสถานที่ดีๆให้แก่ทุกๆคนค่ะ และฉันก็ยังเป็นมือใหม่มากๆเลยค่ะสำหรับการเขียนบทความฉันกำลังฝึกฝนเขียนบทความอยู่ค่ะ ขอบคุณสำหรับการเข้ามาเยี่ยมชมบทความนี้นะคะ ขอให้คุณนักอ่านที่น่ารักของฉันเอ็นจอยกับบทความนี้แล้วเรามาผจนภัยกันใหม่นะคะ สำหรับทริปนี้กล้องฟิล์มที่ใช้คือ Olympusmjuzoom 105 deluxe ฟิล์ม kodak gold 200 ค่ะ ก่อนจากกันเราจะมาสรุปค่าใช้จ่ายทริปsolo โสดอย่างเฉิดฉายกันค่ะ ! ค่ารถไฟฟ้าใต้ดินmrt สถานีจัตุจักร-สถานีสนามไชย ไป/กลับ 82 บาทค่ารถตุ๊กๆจากบริเวณท่าเรือสนามไชยมายังสถานีสนามไชย 30 บาท ค่าดอกไม้ 1 ช่อเล็ก 50 บาท ค่ารถเมล์กลับรังสิต 25 บาท รวมยอด 187 บาทค่ะ (ไม่รวมค่าอาหารระหว่างทริปนะคะ) รูปถ่ายจากนักเขียนเอง (goodmood) วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !