“วัดหน้าพระลาน” เป็นวัดเก่าแก่และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง วัดแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี วัดแห่งนี้สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย การเดินทาง เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ เลือกใช้ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ระยะทางประมาณ 129 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาราว ๆ 2 ชั่วโมงเศษ ๆ โดยประมาณ อาณาเขตของวัดมีเนื้อที่ประมาณ 14 ไร่เศษ ซึ่งเป็นวัดที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง และเป็นวัดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก เนื่องจากด้านหลังมีภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของวัด เสมือนกับเป็นฉากหลังที่ช่วยเพิ่มมนต์เสน่ห์อันดีงาม ให้วัดมีความสวยงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้เมื่อถ่ายภาพออกมาแล้วเป็นอะไรที่ลงตัวในส่วนขององค์ประกอบของรูปมาก ๆ วัดแห่งนี้มีความสงบร่มรื่นดีมากเนื่องจากมีต้นไม้ค่อนข้างมาก และมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่มีขนาดใหญ่หลายคนโอบ ปลูกให้ร่มเงาและตั้งตระหง่านอยู่ภายในบริเวณวัด ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมหรือมาทำบุญ ได้สักการะอยู่หลายจุด ที่นี่มีพระวิหารเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อองค์ดำ” ซึ่งพระครูสิริภัทรกิจ ปริสุทฺโธ (หลวงปู่ศรี ปริสุทฺโธ) อดีตเจ้าอาวาสของวัดหน้าพระลาน ท่านได้จารึกเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อองค์ดำ ณ ประเทศอินเดีย ซึ่งพระองค์ดำ องค์จริงเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินสีดำ หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว ลักษณะเป็น พระเกตุทรงบัวตูม ปางสมาธิ องคุลีของพระหัตถ์ขวาทั้งหมดชี้ลงธรณี มีความงดงามมาก และความเมตตายิ่ง หลวงปู่ศรี ได้เกิดความศรัทธา จึงได้ขออนุญาตจากประเทศอินเดียเพื่อดำเนินการหล่อหลวงพ่อองค์ดำเท่าองค์จริงขึ้น ในประเทศไทย มีจำนวนทั้งสิ้น 80 องค์ และทำพิธีปิดทองเบิกเนตร ตามธรรมเนียมโบราณ พร้อมทั้งได้อัญเชิญไปประดิษฐานทั่วประเทศ เพื่อเผยแผ่ในเกรียติคุณหลวงพ่อองค์ดำ เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวพุทธโดยทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้สักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองตลอดไป ภายในวิหารหลวงพ่อดำมีภาพวาดจิตรกรรมที่สวยงดงามมาก ภาพเทพเทวดา และสัตว์ในวรรณคดี จากบันทึกบางเอกสารทางประวัติศาสตร์ พระพุทธองค์ดำ (องค์จริง) สร้างเมื่อในรัชสมัยพระเจ้าเทวปาล คือ ระหว่างปี พ.ศ. 1353 - 1393 และเมื่อปี พ.ศ. 1766 เคยถูกเผาทำลายจากความขัดแย้งทางด้านศาสนา รวมไปถึงตำรับตำราสถานที่สำคัญ ๆ ทางพระพุทธศาสนา แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา ที่เมืองราชคฤห์ เหลือไว้แต่ซากปรักหักพังของมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา และเศษศาสนวัตถุอื่น ๆ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจ คือ พระพุทธองค์ดำ กลับไม่มีร่องรอยการถูกเผาทำลาย ทุกวันนี้หลวงพ่อองค์ดำองค์จริง ณ ประเทศอินเดีย ยังคงเป็นที่เคารพสักการะของชาวพุทธ ชาวไทยพุทธจำนวนมากตั้งจิตอธิษฐานเพื่อจะได้ไปสักการะสักครั้งในชีวิต ชาวพุทธในประเทศอินเดียให้ความเคารพ เลื่อมใสในองค์หลวงพ่อมานานแล้ว มีชื่อที่หลาย ๆ คนนิยมเรียก “หลวงพ่ออ้วน” ซึ่งเป็นการขนานนามตามพุทธลักษณะที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ ทางภาษาอินเดียเรียกว่า “โมต้าบาบา” นอกจากนี้ยังมี รูปเหมือนขององค์ “สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี” ที่มีขนาดใหญ่สร้างประดิษฐานไว้ในศาลา เพื่อให้ผู้มาเยือนได้กราบไหว้เคารพและสักการะ หากผ่านมาจังหวัดสระบุรี ลองแวะ “วัดหน้าพระลาน” มากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด ซึ่งเป็นสมบัติของชาติและพระพุทธศาสนา ที่ทรงคุณค่าควรค่ายิ่งแก่การเคารพเป็นเครื่องยึดเหนื่ยวทางจิตใจของพุทธศาสนิกชน เครดิตภาพทั้งหมด “ภาพถ่ายโดยผู้เขียน”