เมื่อเริ่มวางแผนขับรถไปเที่ยวเขาค้อ สิ่งแรกที่ต้องค้นหา คือ เส้นทางบนแผนที่ และการกดหาในแผนที่กูเกิลย่อมเป็นเรื่องที่ทำง่ายที่สุด ถนนที่ออกจากอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นไปถึงเขาค้อ มีเพียงเส้นทางหลัก คือ ถนนหมายเลข 12 ยาวไป ซึ่งสะดวกและจำง่ายอย่างยิ่ง เวลาเดินทางที่แผนที่กูเกิลระบุไว้คือ 3 ชั่วโมง 34 นาที ระยะทาง 243 กิโลเมตร เนื่องจากโดยปกติผู้เขียนนิยมขับรถกินลมชมวิว เหมือนใช้น้ำมันตราเต่า เพราะชอบชมทัศนวิสัยสองข้างทางไปแบบใจเย็น ๆ รู้แน่ว่า การเดินทางวันนี้ กูเกิลแมพรู้ อาจจะเซ็งเราก็เป็นได้ หลังจากขนสัมภาระขึ้นรถเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันจวนจะเที่ยง ถนนหมายเลข 12 เป็นถนน 4 เลน กว้างขวางขับสบาย เนื่องจากเป็นการเดินทางไปเขาค้อครั้งแรก รู้สึกกังวลนิดหน่อย กลัวจะหลงทาง ก็ได้แต่หวังว่า GPS จะไม่เพี้ยน พาเราไปสู่ที่พักอย่างปลอดภัย เริ่มเข้าเขตอำเภอคอนสาร ก็มีเนินเขา และมองเห็นเทือกเขาอยู่ไกลตา จากนั้นก็เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ถนนสองเลนที่ขนาบด้วยภูเขาและแมกไม้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวามือ ลดเลี้ยวพอประมาณ เราผ่านหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ถึงสองด่านด้วยกันกว่าจะผ่านออกจากเขตภูเขา ต้นไม้ในเขตแรกมีสีเขียวอยู่ฝั่งติดภูเขา ส่วนอีกฝั่งเป็นสีน้ำตาลอ่อน บริเวณนี้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง แต่จุดที่เราแวะจอดถ่ายรูปกันจริงจัง คือ สะพานห้วยตอง ซึ่งมีเอกลักษณ์ปรากฏในแผนที่ด้วย เรามาแวะดูถ่ายภาพกันค่ะ เพราะนี่คือ สะพานที่มีเสาสูงอย่างยิ่ง มองลงไปข้างในน่าหวาดเสียวนัก ฤดูฝนด้านล่างคงมีน้ำหลากแรงน่ากลัวมิใช่น้อย นักเดินทางทั้งหลายต่างจอดแวะพักรถกันที่นี่ มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายสินค้าบางสามสี่เจ้า เช่น ผลไม้ เครื่องดื่ม ลูกชิ้นทอด เป็นต้น บรรดานักบิดล้วนแล้วแต่นำรถบิ๊กไบค์ของตนออกมาขับขี่ในช่วงวันหยุด การขับรถในบรรยากาศภูเขาแวดล้อมให้ความรื่นรมย์อยู่ไม่น้อย ยิ่งผ่านจากช่วงสะพานนี้ไปแล้ว จะเป็นถนนที่ติดภูเขา มองไปก็จะเห็นตาข่ายสีดำที่พยายามหุ้มห่อก้อนหินข้างทางเอาไว้ไม่ให้สะเก็ดตกลงมาใส่รถ อีกทั้งการตัดถนนที่คดเคี้ยวไปตามโค้งภูเขาทำให้การขับขี่ต้องอาศัยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ระยะทางในการขับขี่ผ่านช่วงอุทยานนี้ยาวไกล และไม่มีปั๊มน้ำมันข้างทาง เราจึงไปแวะเข้าห้องน้ำที่จุดแวะพักชมวิวปากช่อง ซึ่งเป็นจุดค้าขายที่มีร้านค้าและร้านอาหารอยู่หลายร้าน และมีห้องน้ำเก่า ๆ ให้บริการ ซึ่งก็พอได้พึ่งพาในค่าบริการ 5 บาท แต่วิวด้านข้างที่เดินไปชมนั้น ราคาแพงมากนัก มีป้ายไม้เขียนไว้ว่า จุดชมวิวปากช่อง ซึ่งมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา เดินวนเวียนไปเจอกังหันเล็ก ๆ สีสันสวยงามปักไว้ เหมาะที่จะซื้อเป็นของฝากหลานสาวตัวน้อย ก็จ่ายเงินช่วยอุดหนุนไปสักอัน ต้นไม้บริเวณป่าฝั่งนี้ส่วนใหญ่เป็นสีน้ำตาลดูแห้งกรอบตามฤดูกาล ผ่านจากเทือกเขานี้ก็เจอปั๊มน้ำมันแรกในบริเวณที่ราบ ไปต่อจนถึงทางเข้าเขาค้อ เราจะเจอถนนสี่เลนใหญ่ที่ให้บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวต่างประเทศ ขับเลาะเลี้ยวไปสักครู่จะเจอชุมชนสองข้างทางที่มีร้านค้ามากมาย ป้ายแนะนำที่พักและรีสอร์ท ถี่จนอ่านไม่ทัน แต่ทุกป้ายบอกเส้นทางเข้าไปในซอย มองไปตามถนนเล็ก ๆ แต่ละสาย ก็เห็นอาคารอยู่บนเนินเขาอยู่ลิบตา เหมือนรูปในการ์ตูน นอกจากเส้นทางที่ผ่านมาจะน่าตื่นใจแล้ว การขับรถซอกแซกไปตามถนนในเขาค้อเองก็สนุกเช่นกัน เพราะถนนส่วนมากแม้จะขนาดเล็ก ซิกแซกไปตามเนินเขา แต่ก็เชื่อมถึงกัน การขับรถชมทัศนียภาพ บ้านเรือน อาคารที่พักที่ให้บริการรอบเขาค้อ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ พื้นที่ด้านซ้ายมือจะมีลักษณะเป็นที่ราบมากกว่าด้านขวา ซึ่งฝั่งขวามือจะเป็นภูเขาสูง และมองไปเราจะเห็นสิ่งก่อสร้างสีขาวสะดุดตาท่ามกลางภูเขา ที่นั่นคือ ที่ตั้งวัดผาซ่อนแก้วอันโด่งดังแห่งเขาค้อ หากขับรถขึ้นไปเที่ยวฝั่งนั้น จะชันมาก และน่าตื่นเต้นกว่าด้านซ้ายยิ่งนัก หากไม่ชำนาญเส้นทางแนะนำให้ใช้บริการรถรับจ้างค่ะ วันหยุดคราวหน้าหากพิจารณาไปเที่ยวที่เขาค้อโดยผ่านถนนหมายเลข 12 ก็อย่าลืมแวะถ่ายรูปสวยๆ กันนะคะ ความสุขระหว่างการเดินทางก็สำคัญไม่แพ้การไปถึงปลายทางค่ะ สรุปการเดินทางของเราวันนี้กินเวลาถ่ายภาพไปอีก 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ แต่ความสุขท่วมท้นจริง ๆ