ช่วงที่มีไวรัสโควิค 19 เริ่มระบาดมากขึ้น จะได้ยินข่าวว่า มีคนต้องสงสัยเข้าไปห้างโน่น ห้างนี้บ้าง จนต้องปิดร้านทำความสะอาดกัน แถมพนักงานที่ให้บริการก็พลอยต้องโดนหางเลขต้องหยุดงาน ก็รู้สึกเห็นใจนะครับ เราเองก็พยายามมีสติ บริโภคข่าวสารด้วยความระมัดระวัง ไม่ตระหนก แต่ตระหนักรู้และเตรียมความพร้อมไว้ ไม่ว่าจะเป็นการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และ การเก็บตัว ไม่ออกไปข้างนอกก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ใช้อยู่ แต่ก็สารภาพตามตรงนะครับ ว่าช่วงแรก ๆ ก็พอทำได้อยู่ แต่พอนานวันเข้า งานที่ทำก็เหนื่อยอยู่แล้ว ยังต้องมาเก็บตัวอยู่แต่บ้าน ก็เริ่มมีอาการเครียดสะสมเหมือนกัน ก็เลยลองหาแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนจิตใจบ้าง แต่ต้องเป็นที่เปิดโล่งสักหน่อย ไม่ต้องอยู่ในที่อากาศปิด ด้วยความเชื่อว่าเชื้อโรคมันทนต่อสภาพอากาศร้อนบ้านเราไม่ค่อยได้ ยิ่งโดนแดดแรง ๆ ยิ่งดี ก็ให้นึกถึงอยู่ที่หนึ่ง ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ เคยไปมาเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนนั้นคนเยอะมาก เดินแทบจะไหลไปตามกระแสคลื่นกันเลย ของกินไม่ว่าจะเป็น อาหารคาว ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว อาหารปิ้งย่างทั้งหลาย หรือขนมหวานแบบไทย ๆ มีให้เลือกทานกันแบบไม่อั้น ราคาก็ไม่แพง รวมทั้งมี ของที่ระลึกน่ารัก ๆ ที่ชาวบ้านหามาขาย มีเรือให้บริการพาเที่ยวชมสวนกล้วยไม้ ไหว้พระ ซึ่งบรรยากาศเป็นชนบทมาก ๆ จนไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ที่นี่ตั้งอยู่ในกรุงเทพ ภาพโดยผู้เขียน ก็เลยให้นึกถึงว่า ตอนนี้คนคงจะน้อยลงแล้วล่ะมั้ง เพราะตลาดก็เก่าแล้วด้วย แถมยังมีภาวะโรคระบาดอย่างนี้ คนคงจะไม่มาก ไม่ต้องแออัด ขับรถไปเองโดยเข้าทาง ถนน กาญจนาภิเษก พอเข้าซอย ถนน บางระมาด ประมาณ 5 นาที ก็จะเริ่มเห็นบ้านชาวบ้าน ติดป้ายให้บริการที่จอดรถกันสองฝั่งถนนยาวไปถึงตลาด แต่ก็ดูโล่ง ๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เคยมา พอไปถึงหน้าตลาดก็เข้าจอดที่รถของตลาดที่จัดให้ ราคาค่าจอด 20 ต่อครั้ง ภาพโดยผู้เขียน โซนแรกจากลานจอดรถ เป็นโซน 2 เป็นเพิงเตี้ย ๆ ปลูกติดกันเป็นทางยาวไปหาถนน ร้านแรกที่เจอ ร้านคนทาสดินปั้นดินเผา เป็นงานที่เจ้าของปั้นเอง ดูได้จากที่เด็กหนุ่มเจ้าของร้านกำลังตกแต่งงาน สอบถามได้ความว่า เค้าปั้นเอง เผาเอง โดยเผาตอนกลางคืน วันธรรมดาที่มีคนน้อย ๆ งานที่ปั้นจากจินตนาการ มีงานน่ารัก ๆ แปลกไปจากร้านอื่นที่เคยเห็น แสดงถึงความมีอารมณ์ดีของคนปั้น มีการสอนทำด้วย ราคาแล้วแต่ขนาดที่จะทำ ภาพโดยผู้เขียน เดินต่อไปก็เจอร้าน เจียมตน เป็นร้านขายของเล่นเก่า มีของวางขายเยอะมาก ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ ต้องอดใจไว้ก่อนเพราะเพิ่งเดิน ไม่อยากจะหิ้วอะไรให้หนักมือ ภาพโดยผู้เขียน เดินเข้าไปอีกนิดก็เจอร้าน สังสี วินเทจ เป็นร้านขาย เครื่องครัวที่ทำจากสังกะสี เป็นงานดีไซน์ น่ารักดี แถมน้องลูกเจ้าของร้านก็มาให้คำแนะนำดีมาก ที่ชอบก็คือ ปิ่นโต เคลือบสี เป็นทรงกลม ๆ มน ๆ ชวนให้นึกถึงกระแสอนุรักษ์ที่เอาภาชนะใส่อาหารแทนการใช้ถุงพลาสติก ภาพโดยผู้เขียน ตรงข้ามกันก็เป็นอีกร้านที่น่าสนใจมาก ชื่อร้าน RAMAKIEN ( รามเกียรติ์ ) เป็นร้านเสื้อยืดที่มีดีไซน์ออกแบบลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เค้าเป็นเจ้าของ 3 ร้านติดกัน โดยมีร้านที่เป็นร้านเสื้อผ้าสุภาพสตรี ทำจากผ้าลินิน ให้โทนสี เอิร์ธโทน ดูแล้วเป็นธรรมชาติดีมีลูกค้าที่ชอบแนวนี้กำลังเลือกสินค้าอยู่ อีกร้านก็เป็นร้านเสื้อยืดเหมือนกัน แต่ร้านนี้ออกแบบเป็นลายเส้น เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา ดูแล้วก็ให้รู้สึกชื่นชม ที่เค้าหาตัวตนตัวเองพบ แล้วเอามาสร้างเป็นงานได้ ซึ่งก็มีคนที่นิยมมากพอสมควร ภาพโดยผู้เขียน เดินข้ามถนนไปโซน 5 – 6 ก็จะเป็นโซนอาหารที่มีร้านอาหารชาวบ้านมาเปิดขายกัน อาหารก็แบบง่าย ๆ เป็นพวกทอดมัน ไก่ทอด ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว แต่ที่นี่มีดนตรีที่คงจะเป็นคนนอกมาแสดงเปิดหมวก ให้ฟังด้วย พอเดินเข้าไปถึงด้านในซึ่งเป็นโซนที่ติดกับคลองลัดมะยม ก็จะเห็นร้านอาหารทะเล ปิ้งย่าง วางขาย มีสาวน้อยเด็กนักเรียนมาเล่นกีต้าร์รับบริจาคทุนการศึกษา ยืนดูอยู่นานพอควรเพราะรู้สึกชื่นชม ในความสามารถที่มาเล่น ฟิงเกอร์สไตล์ ร้องเพลงเพื่อชีวิต สดๆ ชวนให้คอเพื่อชีวิตอย่างเราต้องร้องคลอไปด้วย ภาพโดยผู้เขียน เดินครั้งนี้มีความรู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อคราวก่อนที่มามาก เพราะทั้ง 3 โซนที่เดินผ่านมา มีคนเดิน คนมานั่งทานอะไรกันไม่มาก จนอดรู้สึกสงสารร้านค้าที่มาเปิดไม่ได้ รำพึงในใจ “ แล้วพวกเค้าจะอยู่กันได้เหรอ “ ภาพโดยผู้เขียน เพลินไปกับเสียงดนตรีได้ไม่นาน ก็ต้องเดินย้อนกลับออกมาที่โซน 1 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนน คราวนี้บรรยากาศเปลี่ยนไปเลย ร้านค้าคึกคักมาก คนก็เดินพลุกพล่าน โซนนี้เป็นโครงการแรกของตลาด ร้านอาหารขาย มีทั้งอาหารทะเล อาหารไทย ขนมไทย ผลไม้ดอง พืชผักที่ชาวบ้านปลูกกันเองมาขาย แม่ค้าบางคนยังแต่งตัวเป็นสาวไทยโบราณมาทำขนมขาย ดู ๆ แล้วก็ให้นึกสนุกอยากจะพูดส่งภาษาโบราณที่เคยดูในหนังซีรี่ย์ไทยกับเค้าบ้าง นะขอรับ ....ออเจ้า หลังจากทานอาหารง่าย ๆ ขนมหวานที่ทำร้อน ๆ ( เน้นความปลอดภัยไว้ก่อน ) ก็ยังเห็นมีนักท่องเที่ยวมานั่งเที่ยวนั่งเรือชมสวน ชมวัด กันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเหมือนในอดีต ราคาก็ 500 บาทต่อเที่ยวต่อลำ แต่ถ้าจะไปแบบรวมกันก็มีบริการแต่ก็ต้องลองสอบถามราคาเค้าดูอีกที ครั้งนี้ใช้เวลาเดิน ชม ช้อป จนคลายความเครียดไปบ้างแล้ว ที่รู้สึกสบายใจหน่อยก็คือ ความร้อน ที่เมื่อก่อนมักจะหลีกเลี่ยง แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกปลอดภัย ถ้ารู้สึกเบื่อ ๆ กับการที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้านนาน ๆ ก็น่าจะลองพิจารณา ตลาดนี้ดูนะครับ ภาพโดยผู้เขียน ทุกโซนจะมีดนตรีสด มาเล่นเปิดหมวกให้ฟังเพลิน ๆ นะครับ สำหรับบางท่านอยากจะร้องเพลง ก็มีเวทีให้โชว์เสียงด้วยนะครับ ถือซะว่าหาที่ผ่อนคลายความเครียด แล้วยังได้ช่วยเหลือ พ่อค้าแม่ค้า คนไทยด้วยกันไปอีกทางนึงนะครับ ภาพปกโดยผู้เขียน พิกัด ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ถนน บางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ แผนที่