ลอยกระทงทั้งที จะให้ได้บรรยากาศดี ๆ ดูสวยงามตามท้องเรื่อง ก็ต้องไปลอยตามแม่น้ำลำคลองที่น้ำไหลนองเต็มตลิ่งนะคะ...สำหรับคนที่บ้านไม่ได้อยู่ใกล้แม่น้ำลำคลองอย่างผู้เขียน การได้ลอยกระทงในแม่น้ำลำคลอง ที่ทำให้ได้เห็นกระทงไหลไปตามกระแสน้ำ ก็นับว่าพิเศษแล้ว...แต่เมื่อปีที่แล้ว (2565) ผู้เขียนได้ไปที่ "ลานวัฒนธรรมหนองคาย" หน้า "วัดลำดวน" ริมแม่น้ำโขง ในอำเภอเมืองหนองคาย มันเป็นความพิเศษที่ยิ่งกว่านั้น เพราะไม่เพียงแต่ได้ลอยกระทงลงในแม่น้ำกว้างใหญ่มีน้ำนองเต็มตลิ่งเท่านั้น แต่ยังได้ลงเรือออกไปลอยกระทงกลางแม่น้ำโขงอีกด้วยค่ะ!!!...จึงอยากเอาประสบการณ์น่าประทับใจมาแชร์ค่ะ "ลานวัฒนธรรมหนองคาย" หรือ "ลานพญานาคคู่" ริมแม่น้ำโขง ห่างจาก "สะพานมิตรภาพไทย - ลาว" ประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจาก "ตลาดอินโดจีน" ประมาณ 300 เมตร และอยู่ตรงกันข้ามกับ "วัดลำดวน" นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดหนองคาย จัดงานลอยกระทงเป็นประจำทุกปี...จะว่าไป แต่ละวัดที่อยู่ริมแม่น้ำโขงในบริเวณนั้น ต่างก็จัดงานประเพณีลอยกระทงทั้งนั้นค่ะ ถนนริมโขงในช่วงเทศกาลลอยกระทงจึงเต็มไปด้วยแสงสีเสียงและผู้คนตลอดทั้งสายเลย...แต่ผู้เขียนเลือกไปที่ "ลานวัฒนธรรม" เพราะมีรูปพญานาคคู่พ่นน้ำดูสวยงามโดดเด่น แถมมีที่จอดรถใกล้ ๆ อยู่ฟากตรงข้าม พร้อมอาสาสมัครที่คอยช่วยเหลือดูแลให้ความสะดวก (พื้นที่และเจ้าหน้าที่ของ "มูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมเต็กก่าจีไน้เกาะ") ค่ะบรรยากาศงานลอยกระทงตรง "ลานวัฒนธรรม" ก็คล้ายตลาดนัดขายของที่เน้นการขายกระทงค่ะ...สินค้าก็มีทั้งกระทงหลากหลากหลายรูปแบบ ของใช้ ของประดับตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของเล่น ฯลฯ...โซนที่ใหญ่และคึกคักที่สุดเห็นจะเป็นโซนขายอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีที่ให้นั่งด้วยค่ะ...ทั้งงานจะมีการตกแต่งด้วยแสงไฟหลากสีและกระพริบวิบวับ พร้อมเสียงเพลงเหมือนงานวัด...มีเสียงพลุ - ดอกไม้ไฟให้ได้ยินเรื่อย ๆ แต่เสียงที่ได้ยินชัดเจนตลอดเวลาก็คือเสียงน้ำที่พ่นออกจากปากพญานาคคู่ค่ะ...ส่วน "วัดลำดวน" เองก็มีการประดับประดาไฟอย่างสวยงาม ทำให้งานดูมีเสน่ห์มากขึ้นค่ะถ้าเราไม่ได้เตรียมกระทงไปเอง เราก็หาซื้อได้จากร้านแถวนั้น มีหลายแบบหลายประเภท ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามและราคาไม่แพงค่ะ...กระทงที่ได้รับความนิยมที่สุดเห็นจะเป็นกระทงที่ทำเป็นกระทงรูปทรงพญานาคค่ะ...ถึงการซื้อกระทงจะสะดวกและสวยงาม แต่ผู้เขียนชอบการที่เราได้ทำเองมากกว่า นอกจากจะประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ก็ยังภูมิใจว่ากระทงเราเป็นวัสดุธรรมชาติ 100% ค่ะ...พอได้กระทงแล้วก็ตรงไปที่ริมตลิ่งเพื่อลงโป๊ะไปลอยกระทง ลอยที่โป๊ะ ไม่ต้องเสียเงิน ถ้าลงเรือ ก็จ่ายค่าเรือ 20 บาท/คน...ไม่ว่าจะลงโป๊ะหรือลงเรือ ก็ต้องต่อแถวรอคิว เพราะเขาจำกัดจำนวนคนลงโป๊ะและลงเรือในแต่ละรอบ เป็นการจัดระเบียบเพื่อความปลอดภัยค่ะคนลงเรือต้องใส่เสื้อชูชีพทุกคน มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราดูแลและให้คำแนะนำเรื่องความปลอดภัยบนเรือ ก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจค่ะ...บนเรือตั้งเทียนลำใหญ่ติดไฟเอาไว้ให้เราจุดธูปเทียนในกระทง ไม่ต้องมองหาไม้ขีดหรือไฟแช็กให้วุ่นวาย...พอไปถึงกลางน้ำ เรือก็หยุดให้เราลอยกระทง...เพื่อความปลอดภัย เรือเองเขาก็มีคิวเข้าเทียบท่า (โป๊ะ) รับ - ส่งผู้โดยสาร และเข้า - ออกกลางน้ำ เพราะตลอดริมแม่น้ำโขงที่มีท่าน้ำ ก็มีหลายโป๊ะที่ให้บริการเรือ แต่ละโป๊ะก็มีเรือให้บริการหลายลำค่ะ...กระแสน้ำในแม่น้ำจะไหลไปทาง "พระธาตุหล้าหนอง" คือองค์พระธาตุโบราณกลางน้ำ ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตรจากจุดที่ปล่อยกระทงค่ะ"พระธาตุหล้าหนอง" สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 19 - 20 โดย "พระเจ้าชัยเชษฐาธิราช" เพื่อครอบอุโมงค์โบราณที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนฝ่าพระบาทขวาจำนวน 9 พระองค์ ที่ประดิษฐาน ณ บริเวณนี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 19...แต่เมื่อผ่านกาลเวลามา ตลิ่งบริเวณที่ตั้งพระธาตุ ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเรื่อย ๆ จนพระธาตุบนแผ่นดินกลายเป็นพระธาตุกลางน้ำ และเมื่อประมาณกว่า 250 ปีที่ผ่านมา องค์พระธาตุก็หักพังลงอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ค่ะ...พระธาตุหล้าหนอง เป็นที่เคารพบูชาของชาวหนองคาย มามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น เมื่อมีการนำอัฐิของ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" พระเกจิชื่อดัง ไปลอยอังคารในแม่น้ำโขงบริเวณที่ตั้งพระธาตุ และยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคมาแสดงตัวโมทนาบุญกับผู้ไปนมัสการพระธาตุอยู่หลายครั้ง...ดังนั้น การไปลอยกระทงในบริเวณนี้ สำหรับผู้เขียน จึงเหมือนเป็นการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ระลึกถึงคุณหลวงพ่อคูณ พร้อมส่งความปรารถนาดีต่อเหล่าพญานาคด้วยค่ะพออธิษฐานจบ ลอยกระทงลงในน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนั่งบนเรือขากลับจากกลางน้ำ เราก็จะได้มีเวลาชื่นชมกับวิวกลางน้ำที่มีกระทงลอยตามกันไปสู่องค์พระธาตุ และวิวทิวทัศน์สองข้างแม่น้ำทั้งบนฝั่งลาวและฝั่งไทย...มองมาทางฝั่งไทยเรา ก็จะเห็นว่าเต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสวตลอดแนวถนนริมโขง พร้อมกับได้ยินเสียงเพลงครึกครื้น ก็ให้ความรู้สึกสนุกสนานมีชีวิตชีวาดีค่ะ...ผู้คนก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแห่งความสุข บรรยากาศทำให้ผู้เขียนคิดว่าวันลอยกระทงก็นับเป็นวันครอบครัวอีกวันหนึ่ง เพราะคนที่ไปลอยกระทง ไม่ใช่มีเฉพาะที่ไปเป็นคู่เท่านั้น ที่ยกกันไปลอยกระทงทั้งบ้านก็มีเยอะเลยค่ะอาจจะเป็นด้วยเสน่ห์ของความเป็นแม่น้ำโขง ที่พอใคร ๆ ได้ยินชื่อก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ มีเสน่ห์ลึกลับ พร้อมกับตำนานพญานาค...อาจจะเป็นด้วยเสน่ห์ของภูมิทัศน์และภูมิสถาปัตย์ ทั้งวิว "วัดลำดวน" และวิว "พญานาคคู่พ่นน้ำ" ที่เห็นแล้วทำให้เย็นตาเย็นใจ...อาจจะเป็นด้วยภาพโดยรวมของการประสานงานเพื่อจัดการสถานที่ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความรู้สึกสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ไปลอยกระทง...ทำให้ผู้เขียนประทับใจการลงเรือลอยกระทงกลางแม่น้ำโขงในครั้งนี้ พิกัดนี้ มาก ๆ และถ้ามีโอกาสก็จะไปทุกปีค่ะ...ถ้าใครอยู่แถว ๆ หรือใกล้ ๆ หนองคาย กำลังมองหาที่ลอยกระทงในปีนี้ ผู้เขียนเสนอให้พิจารณา "ลานวัฒนธรรม" หรือ "ลานพญานาคคู่" อำเภอเมืองหนองคาย เป็นอีกทางเลือกดี ๆ ค่ะ.มรรษยวรินทร์พิกัด ลานวัฒนธรรม หนองคายภาพประกอบทั้งหมด โดย มรรษยวรินทร์ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !