ปัตตานี เป็นจังหวัดหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดินแดนปลายด้ามขวาน เป็นจังหวัดที่มีสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่งให้นักเดินทางได้ไปเยี่ยมชม รวมถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวปัตตานีที่มีเรื่องเล่าขานกันถึงตำนาน มัสยิดต้องคำสาป หรือมัสยิดที่ไม่มีวันสร้างเสร็จ นั่นคือ มัสยิดกรือเซะ ภาพถ่ายโดย เสมอ มัสยิดกรือเซะ ตั้งอยู่ที่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลุโละอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ริมถนนสายปัตตานี – นราธิวาส อยู่ห่างจากตัวเมืองปัตตานีประมาณ 7 กิโลเมตร มัสยิดกรือเซะเป็นสถานที่สำคัญของชาวปัตตานีเป็นอย่างมาก เพราะมีตำนานเล่าขานกันว่า ผู้สร้างมัสยิดแห่งนี้คือ “ลิ้มโต๊ะเคี่ยม” เป็นพ่อค้าชาวจีน ได้ล่องเรือสำเภามาค้าขายที่เมืองปัตตานี และได้ถูกตาต้องใจกับธิดาของพระยาเมืองเมืองตานี จึงได้แต่งงานอยู่กินกันที่เมืองตานี ลิ้มโต๊ะเคี่ยม เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามตามธิดาของเมืองตานีและไม่ได้กลับไปหามารดาที่เมืองจีนอีกเลย ภาพถ่ายโดย เสมอ ฝ่ายมารดาของ ลิ้มโต๊ะเคี่ยม ก็เฝ้าคิดถึงลูกชายที่หายจากบ้านมานาน เกิดความเป็นห่วงจนตัวเองล้มป่วยคิดออกเดินทางตามหาลูกชาย ลิ้มกอเหนี่ยว ผู้เป็นน้องสาวจึงขออาสามาตามหาพี่ชาย เมื่อเดินทางมาถึงเมืองปัตตานี ลิ้มกอเหนี่ยวจึงได้รู้ว่า พี่ชายของตนได้แต่งงานและเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม ลิ้มกอเหนี่ยวแจ้งข่าวมารดาป่วย แก่ลิ้มโต๊ะเคี่ยม แต่ไม่สามารถจะเปลี่ยนใจให้พี่ชายกลับไปเมืองจีนได้ เพราะระหว่างนั้นลิ้มโต๊ะเคี่ยมทำหน้าที่คุมการก่อสร้างมัสยิดอยู่ ภาพถ่ายโดย เสมอ ด้วยความคับแค้นใจนางจึงสาปแช่งให้พี่ชายไม่มีวันสร้างมัสยิดได้สำเร็จ แล้วนางก็ผูกคอตายใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ เมื่อนางเสียชีวิต ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงได้นำร่างมาฝังไว้ที่ข้างมัสยิด หลังจากนั้น ลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็สร้างมัสยิดต่อ แต่พอจะสร้างโดมของมัสยิดก็เกิดฟ้าผ่าพังทลายโดมลงมา ลิ้มโต๊ะเคี่ยมพยายามสร้างโดมมัสยิดอยู่ 3 ครั้ง แต่ก็เกิดฟ้าผ่าลงมาทุกครั้ง จนไม่สามารถสร้างมัสยิดได้สำเร็จ ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นเพราะคำสาปของ ลิ้มกอเหนี่ยว นั่นเอง ภาพถ่ายโดย เสมอ มัสยิดกรือเซะ เป็นมัสยิดที่มีความสวยงามและมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ตามของชาวตะวันออกกลาง มีอายุร่วมกว่า 200 ปี ตัวมัสยิดก่อด้วยอิฐสีแดง ตามโบราณสมัย มัสยิดกรือเซะ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "มัสยิดปิตูกรือปัน" ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกตามรูปทรงของมัสยิด ทีประตูมีลักษณะโค้งเข้าหากัน หากใครเดินทางมาที่จังหวัดปัตตานี แต่ไม่มาเยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะ ก็แปลว่ายังมาไม่ถึง เพราะฉะนั้นทุกคนที่มาจังหวัดปัตตานีต้องได้มาเยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะก่อนเดินทางกลับ นอกจากจะเดินเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามของมัสยิดกรือเซะแล้ว ยังได้ขอพรเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว ที่ชาวบ้านต่างนับถือ เพราะขอสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น ว่ากันว่าเจ้าแม่ลิ้มกอเนี่ยวมีความศักดิ์สิทธิ์มากนัก ทุกคนที่มาที่นี่ จึงต้องมาขอพรเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวด้วยกันทั้งสิ้น ปัจจุบัน มัสยิดกรือเซะ ก็ยังคงเป็นมัสยิดที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ มีเพียงตัวฐานของมัสยิดเท่านั้นแต่ไม่สามารถสร้างโดมมัสยิดได้สำเร็จ จนมัสยิดกรือเซะ ได้กลายเป็นศาสนสถานของชาวปัตตานี เป็นสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของชาวปัตตานีจนได้กลายเป็นโบราณสถานอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร แม้ภายนอกจะดูเก่าแก่ แต่ภายในมัสยิดยังมีความสวยงาม และได้รับการดูแลอย่างดี การเดินทาง ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 42 (ปัตตานี - นราธวาส) ออกจากตัวเมืองปัตตานีมาประมาณ 7 กิโลเมตร เข้าสู่เขต หมู่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลุโละ เลยตลาดนัด 400 ปี ไปไม่ไกล ก็จะเจอกับมัสยิดกรือเซะ และฮวงซุ้ยเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน มัสยิดกรือเซะ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน อย่าลืมมาเที่ยวกันเยอะ ๆ นะคะ ภาพหน้าปกโดย เสมอ