รีเซต

10 ที่เที่ยวตามรอยการ์ตูน ดิสนีย์ Disney ยุคคลาสสิก - 90s โลกเทพนิยายที่มีอยู่จริง

10 ที่เที่ยวตามรอยการ์ตูน ดิสนีย์ Disney ยุคคลาสสิก - 90s โลกเทพนิยายที่มีอยู่จริง
SummerB
5 กรกฎาคม 2564 ( 23:00 )
1.6K

     เชื่อว่าราวเรื่องอันสวยงามในการ์ตูน ดิสนีย์ (Disney) คงเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คนมาเนิ่นนาน จะดีสักแค่ไหนหากเราได้มีโอกาสไปท่องโลกแห่งเทพนิยายตามการ์ตูนในวัยเด็กของพวกเรา ลองตามเรามาดู 10 ที่เที่ยวตามรอยการ์ตูน ดิสนีย์ Disney ยุคคลาสสิก - 90s กันสิ แล้วทุกคนจะพบว่าฉากสวยๆ ที่เราเห็นกันในการ์ตูนนั้นมีอยู่จริง แถมยังสวยไม่แพ้ในการ์ตูนอีกด้วย 👑

 

ท่องโลกเทพนิยาย ตามรอย ดิสนีย์ Disney ยุคคลาสสิก - 90s



1. Segovia Castle สเปน

Snow White

 

 

     ถ้าพูดถึงเจ้าหญิงคนแรกที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ดิสนีย์ (Disney) ตำแหน่งนั้นก็คงไม่พ้น สโนว์ไวท์ จากเรื่อง Snow White and The Seven Dwarfs (1937) การ์ตูนสุดคลาสสิกที่ตราตรึงอยู่ในใจใครหลายคน แต่ถ้าพูดถึงสถานที่ในเรื่องที่เป็นที่น่าจดจำมากที่สุดก็คงเป็น ปราสาทราชินี (Evil Queen’s Castle) ที่ปรากฏในตอนเริ่มเรื่อง ซึ่งปราสาทแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก ปราสาทเซโกเบีย (Segovia Castle) หรือ ปราสาทอัลคาซาร์ (Alcazar Castle) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ประเทศสเปน 

     นอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมและบรรยากาศรอบข้างแล้ว ปราสาทแห่งนี้ยังเคยเป็นทั้งที่อยู่อาศัยของเหล่าขุนนางและราชวงศ์ ป้อมปราการป้องกันศัตรู รวมถึงคุกใต้ดินไว้กักขังนักโทษ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมโบราณวัตถุ รวมถึงอาวุธต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ด้านในตัวปราสาทค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/fVGmivQzwVVuaSgC9 

==========

 

2. South Tyrol อิตาลี

Pinocchio

 

 

     ถ้าอ้างอิงตามวรรณกรรมต้นฉบับของ Pinocchio (1881) จริงๆ เรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้นในเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) แคว้นทัสคานี (Tuscany) ประเทศอิตาลีค่ะ แต่ถ้าตามฉากที่วาดขึ้นในการ์ตูน Pinocchio (1940) ของ ดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมของหมู่บ้าน หรือ ทัศนียภาพของภูเขาที่อยู่ทางด้านหลัง ก็เห็นได้ว่าฉากนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ไทโรลใต้ (South Tyrol) แคว้นที่ตั้งอยู่เหนือสุดของอิตาลี ซึ่งเคยเป็นอาณาเขตของ ประเทศออสเตรีย มาก่อนค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมทัศนีภาพของแคว้นนี้ถึงได้มีความสวยงามราวกับภาพวาด เต็มไปด้วยขุนเขา ทุ่งหญ้า และสายน้ำเช่นนี้

🏞 อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ เที่ยว อิตาลี ชมความงาม เทือกเขาโดโลมิติ South Tyrol ดินแดนแห่ง มรดกโลก

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/emeq7ajc8XaBN1nX9 

==========

 

3. Chateau De Bonnemare ฝรั่งเศส

Cinderella

 

Pack-Shot / Shutterstock.com

 

     บ้านของ ซิลเดอเรลล่า (1950) ได้แรงบันดาลใจมาจาก Chateau De Bonnemare คฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูล Bonnemare ในแคว้นนอร์มังดี (Normandy) ประเทศฝรั่งเศส ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยยุคกลาง (Middle Ages) แต่สถาปัตยกรรมที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นรูปแบบที่สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 16 ค่ะ แม้ในตอนนี้จะได้เปิดเป็นที่พักสุดหรูไปแล้ว แต่ก็ยังคงเสน่ห์แบบศิลปะโบราณเอาไว้อยู่ 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/PuGuMBfwGNNLxfkc7 

==========

 

4. Neuschwanstein Castle เยอรมัน

Cinderella และ Sleeping Beauty

 

 

     ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) เป็นแรงบันดาลใจของปราสาทในการ์ตูนดิสนีย์ถึง 2 เรื่องด้วยกัน คือ Cinderella (1950) และ Sleeping Beauty (1959) เมื่อเห็นความสวยงามแล้วก็ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นต้นแบบเบอร์หนึ่งของปราสาทในการ์ตูนดิสนีย์ เพราะไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรมที่งดงามอลังการ หรือบรรยากาศบนขุนเขาที่ล้อมรอบด้วยต้นสนต่างก็ส่งเสริมให้ที่นี่เหมือนหลุดออกมาจากในเทพนิยายจริงๆ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/Fi7sreGXsJH6FSm8A 

==========

 

5. Bloomsbury อังกฤษ สหราชอาณาจักร

Peter Pan

 

Willy Barton / Shutterstock.com

 

     ใครที่เคยดูเรื่อง Peter Pan (1953) แล้วก็น่าจะจำได้ว่าบ้านของตระกูล Darling (The Darlings’ House) นั้นอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษใช่มั้ยคะ แต่ถ้าให้ละเอียดกว่านั้นคือบ้านหลังนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากย่าน Bloomsbury ในกรุงลอนดอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ หรือรูปทรงของอาคารเรือนก็มีความคล้ายคลึงเป็นอย่างมาก ซึ่งย่าน Bloomsbury แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษา ร้านหนังสือ ร้านอาหาร คาเฟ่ และพิพิธภัณธ์ต่างๆ เช่น Charles Dickens Museums ซึ่งในอดีตเคยเป็นบ้านของนักเขียนชื่อดังในยุควิคตอเรียนอย่าง ชาร์ลส์ ดิกเกนส์ (Charles Dickens) ด้วยค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/yWczSAWdffXNWx258 

==========

 

6. Poohsticks Bridge อังกฤษ สหราชอาณาจักร

The Many Adventures of Winnie the Pooh

 

Nigel Burley / Shutterstock.com

 

     ป่าแอชดาวน์ หรือ Ashdown Forest เป็นที่ตั้งของ สะพานไม้ของหมีพูห์ (Poohsticks Bridge) ในเรื่อง The Many Adventures of Winnie the Pooh (1977) ค่ะ แล้วทุกคนรู้มั้ยคะว่าเรื่องราวของตัวละครเอกของเรื่องอย่าง Christopher Robin และสะพานไม้หมีพูห์มีเค้าโครงจากเรื่องจริงของ Christopher Robin Milne และคุณพ่อของเขานั่นเอง 

     เดิมสะพานไม้แห่งนี้มีชื่อว่า Posingford Bridge แต่ได้เปลี่ยนเป็น Poohsticks Bridge อย่างเป็นทางการด้วยตัวของ Milne เองค่ะ พอหลังจากที่ดิสนีย์ได้นำเรื่องราวของ Winnie the Pooh ไปสร้างและได้กระแสตอบรับที่ดี จึงได้สมทบทุนให้ทางประเทศอังกฤษได้ปรับปรุงซ่อมแซมให้สะพานไม้แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเต็มตัว โดยจะมีกิจกรรม The Pooh Walk ให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยเข้าไปในโลกของ Winnie the Pooh และผองเพื่อนค่ะ น่าสนใจมากๆ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/r7oosaxjXz2RX9PM8 

==========

 

7. Chateau De Chillon สวิสเซอร์แลนด์ 

The Little Mermaid

 

 

     ปราสาทของเจ้าชายเอริค (Prince Eric’s Castle) ในเรื่อง The Little Mermaid (1989) แทบจะถอดแบบจาก ปราสาทชิลยอง (Chateau De Chillon) ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่ง ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง สีสัน และทำเลที่ตั้ง เพียงแต่ในประวัติความเป็นจริงของปราสาทแห่งนี้กลับไม่ได้สวยงามและหรูหราแบบในการ์ตูนน่ะสิคะ เพราะที่นี่ได้ถูกใช้ให้เป็นที่คุมขังนักโทษ และป้อมปราการตั้งแต่สมัยยุคสำริด (Bronze Age) ซึ่งในปัจจุบันก็ได้เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและศึกษาประวัติศาสตร์ด้านในค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/UXg3gCTstD6brcxm9

==========

 

8. Chateau De Chambord ฝรั่งเศส

Beauty and the Beast

 

 

     คราวก่อนเราได้แนะนำที่เที่ยวตามรอย หมู่บ้านของเบลล์ใน Beauty and the Beast (1991) ไปแล้ว ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยว ปราสาทแชมบอด์ (Chateau De Chambord) แรงบันดาลใจของ ปราสาทของอสูร (The Beast’s Castle) กันบ้างค่ะ ขอบอกเลยว่าในการ์ตูนสวยยังไง ของจริงคืออลังการกว่ามาก แถมตามประวัติศาสตร์แล้วที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อเป็นที่ค้างแรมเล็กๆ ในยามที่ พระเจ้าฟร็องซัวส์ที่ 1 (King Francis I) ของฝรั่งเศสไปล่าสัตว์ แต่ตามไซส์จริงที่เราเห็นอยู่นั้นกลับใหญ่เกินกว่าจะบอกว่าเป็นที่ค้างแรมเล็กๆ จริงๆ ค่ะ เรียกว่าปราสาทหรือพระราชวังยังจะเหมาะสมกว่า นอกจากนี้ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/X7FEvmm31wsVKXax7 

==========

 

9. Taj Mahal อินเดีย

Aladdin

 

 

     แม้เรื่องราวของ Aladdin (1992) จะเกิดขึ้นในดินแดนแถบอาหรับ แต่แรงบันดาลใจของ พระราชวังของสุลต่าน (Sultan’s Palace) นั้นมาจาก สุสานหินอ่อน ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ประเทศอินเดีย ที่สร้างขึ้นโดย สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล (Shah Jahan) เพื่ออุทิศให้แก่พระมเหสีของพระองค์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สุดแสนจะวิติรงดงาม สร้างด้วยหินอ่อน ศิลาแลง ที่ประดับด้วยลวดลายจากเพชร พลอย และเครื่องประดับมีค่าต่างๆ อีกมากมาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 😲

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/MnDxnXZ5DRQQ4Fpj7 

==========

 

10. Notre Dame Cathedral ฝรั่งเศส

The Hunchback of Notre Dame

 

 

     เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักมหาวิหารชื่อดังอย่าง มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral) ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพราะนอกจากจะเป็นมหาวิหารแห่งแรกที่สร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค (Gothic) แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดศูนย์รวมแรงศรัทธาในคริสต์ศาสนา รวมถึงประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย และแน่นอนว่า ที่นี่ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในฉากของการ์ตูนเรื่อง The Hunchback of Notre Dame (1996) อีกด้วยค่ะ บอกเลยว่าแทบจะเหมือนทุกกระเบียดนิ้ว เก็บรายละเอียดได้ดีจริงๆ 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/tLkgr5EDpnWhmowk6