วันออกพรรษาหรือวันมหาปวารณา ของทุกปี จะตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน11 ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 29 เดือนตุลาคม พ.ศ.2566 ความสำคัญในวันออกพรรษา คือ วันที่พระสงฆ์จำพรรษาครบ3 เดือนในช่วงฤดูฝน และในวันนี้ชาวพุธศาสนิกชน ทั่วประเทศก็จะไปวัด เพื่อทำบุญ เสริมสร้างบารมีให้กับตนเองและครอบครัว และอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับ และ 1 วันหลังออกพรรษาจะมีการตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นวันที่มีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ลงมาโปรดพระมารดา ให้ได้ร่วมทำบุญกุศลร่วมกัน เป็นความเชื่อที่ว่าใครได้ตักบาตรเทโวโรหณะเราจะได้บุญใหญ่มากมาย เปิดโชค เปิดลาภ เสริมศิริมงคลให้กับชีวิตอีกด้วย กิจกรรมสำคัญและประเพณีของวันออกพรรษานั้น หลายภาคในประเทศไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนก็จะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันไปตามความเชื่อที่สถานที่ต่างๆดังนี้ เช่นกิจกรรมดูบั้งไฟพญานาคที่อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคายประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนมประเพณีแข่งเรือยาว2 ประเทศที่จังหวัดมุกดาหารประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะที่ปากปล่องภูเขาไฟ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันออกพรรษาที่ผ่านมา วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสพาแม่ไปทำบุญ ที่จังหวัดนครพนม และที่แรกที่ไปคือวัดพระธาตุพนม ตั้งอยู่ที่อำเภอพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ไปกราบไหว้ขอพรที่แรกกันเลยค่ะ ภายในตัววัด มีพุทธศาสนิกชนมาทำการบวงสรวงพิธีต่างๆมากมาย เช่น ให้ค้าขายร่ำรวย เป็นต้น ผู้คนต่างหลั่งไหลมากราบไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว พอเรากราบไหว้ขอพรเสร็จแล้ว ก็ได้เดินทางไปต่อที่ วัดมรุกขนคร อีกหนึ่งวัดที่ทุกคนที่ไปนครพนมจะต้องไปชมความงดงามของวัดที่ตกแต่งด้วยสีเหลืองทอง ตั้งอยู่ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พญานาคสีเหลืองทอง 5 เศียร เลื้อยทอดลำตัวทั้ง 4 มุมของพระธาตุ งดงามยิ่งนัก เหมือนท่านมีชีวิตอยู่จริง ที่คอยประทานพรให้แก่ผู้มากราบไหว้ ภายในฐานองค์พระธาตุ แตกแต่งด้วยพระพุทธสีทอง เห็นแล้วรู้สึกถึงพลังบุญอันเปี่ยมล้น ประทับใจยิ่งนัก งดงามจนไม่รู้จะอธิบายแบบไหน เมื่อเรากราบไว้ขอพร รับพลังบุญเสร็จแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังตัวอำเภอเมืองนครพนม เพื่อไปที่ลาน ลานพญาศรีสัตตนาคราช เมื่อเราไปถึง เราจะได้พบกับ องค์พญาศรีสัตตนาคราช องค์ใหญ่ ตั้งตะหง่านอยู้ริมฝั่งโขง หันหน้าออกแม่น้ำโขง และบางครั้งมีการเปิดน้ำให้พ่นออกจากปาก เสมือนท่านมีชีวิตอยู่จริงๆ เห็นแล้วขนลุกแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียวค่ะ มีผู้คนมากมายไปกราบไหว้ขอพร เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ขอบอกเลยนะคะว่า สายมูไม่ควรพลาดดดดด!!!! และเราก็ไม่พลาดที่จะนำพานพญานาคไปกราบขอพรเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้ยังมีผู้คนทำการบวงสรวงต่างๆมากมาย เมื่อเรากราบขอพรเรียบร้อย ไปต่อค่ะ แลนด์มาร์ค โรงแรมสีเหลือง อยู่ใกล้กับลานพญานาค ไว้ให้เราไปถ่ายรูป เช็คอินกัน พลาดไม่ได้เช่นกัน เดี๋ยวเค้าว่ามาไม่ถึงนครพนม เราก็ไปถ่ายมาสัก100รูป 🤣🤣🤣 ตกกลางคืน ประเพณีที่สำคัญที่สุดของงานออกพรรษานี้คือ ไหลเรือไฟ ค่ะ มีการตกแต่งเรือประดับด้วยหลอดไฟหลายพันดวงเป็นรูปต่างๆอย่างงดงาม ไหลมาในแม่น้ำโขง โอดโฉม ฝีมือ และถ่ายทอดวัฒนธรรมของพี่น้องชาวนครพนมได้เป็นอย่างดี ให้นักท่องเที่ยวได้ขื่นชมความงดงามกันตลอดทั้งคืน มีทั้งพี่น้องประเทศไทยและพี่น้องประเทศลาว รอร่วมชมความงดงามของการไหลเรือไฟภายใต้แสงจันทร์เต็มดวง บรรยากาศครึกครื้น สนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอแนะนำเลยว่า จังหวัดนครพนมเป็นอีกจังหวะหนึ่ง ที่น่าไปเยือนในวันออกพรรษา เนื่องจากมีงานประเพณีไหลเรือไฟ ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุกที ไว้รับต้อนรับนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน ❤️นครพนม ไปกี่ครั้งก็หลงรัก ❤️ แล้วเจอกันที่นครพนมนะคะ 🙏🏻🙏🏻ภาพหน้าปกโดย ครีเอเตอร์ออกแบบโดย canvaภาพที่1,2,3,4,5,6,7,8,9,โดยครีเอเตอร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !