รีวิวการขับรถจาก Tromsø ไป Lofoten ประเทศ Norway เอาฤกษ์เอาชัยของการรีวิวการท่องเที่ยวในประเทศ Norway ด้วยการบอกเส้นทางการขับรถในประเทศจาก Tromsø ไป Lofoten กันเลยจ้า ที่ต้องจั่วหัวด้วยอันนี้ก่อน เพราะว่าได้ทำการสัญยิงสัญญากับตัวเองไว้ว่าถ้าได้ไปแล้วไม่เสียค่าปรับซักบาทฉันจะทำรีวิวให้ชาวโลกได้รับรู้ เรื่องของเเรื่องคือ ก่อนไปหาข้อมูลการขับรถจาก Tromsø ไป Lofoten ยากมากข้อมูลน้อย อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีใครทำกัน เนื่องจากหนึ่งเสียเวลาในการขับรถทั้งวัน สองบางคนอาจไม่รู้กฎจราจรบ้านเขาอาจไม่มีความมั่นใจในการขับ สามพวงมาลัยซ้ายโลจิกนี้ต้องปรับกันใหม่ สี่น้ำมันแพงกว่าบ้านเรามากโข สาเหตุที่เราเลือกขับรถจาก Tromsø ไป Lofoten เพราะค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ จาก Oslo-Tromsø ถูกกว่า Oslo-Lofoten มากแบบ ก. ไก่ ร้อยตัว แล้วเราก็มีเวลาเหลือๆไม่ได้รีบไปเที่ยวที่ไหนต่อ ทางเลือกนี้คือดีที่สุด ขับรถชมบ้านชมเมืองเก๋ๆไป การที่เราจะขับรถที่โน้นได้เราต้องมีใบขับขี่สากล สามารถขอที่ไทยล่วงหน้าไปก่อนได้ที่กรมขนส่ง เสียค่าใบขับขี่ 550 บาท จากนั้นจองรถ ของเราจองผ่าน Budget รถยี่ห้อ Mazda CX-30 ไป ระยะเวลาที่จอง 5 วันบวกประกันเพิ่มต่างๆ ราคาประมาณ 15,000 กว่าบาท พอไปรับรถจริงๆได้ Suzuki Across จ้า แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะก็ขับได้เหมือนกัน รถไม่สภาพดีด้วย แถมเป็น Hybrid อีกด้วย หลังจากเราลงเรื่องที่สนามบิน Tromsø แล้วเราก็ไปรับรถที่บริษัท เดินออกประตูสนามบินไปอยู่ทางขวามือ หลังจากรับรถแล้วเค้าก็ให้กุญแจรถเรามาเดินหารถเองว่าคันไหน ก่อนขับเราต้องเช็ครถว่ามีรอบอะไรบนตวรถนอกเหนือจากที่เค้าแจ้งมาไหม ถ้าไม่มีก็ขับไปได้เลย การขับรถจาก Tromsø ไป Lofoten เป็นระยะทาง 500 กว่ากิโลเมตร เวลาที่ใช้ตาม Google Map ประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง ใช้เวลาจริงๆประมาณ 11 ชั่วโมงครึ่งกันไปเลยจ้า เพราะวิวสวยเลยแวะเยอะ แล้วก็ขับตามกฎหมายกำหนด ขับเร็วสุดได้แค่ 90 กม./ชม. บางที่เป็นชุมชนได้แค่ 50 กม./ชม. ยิ่งเป็นเขตใกล้โรงเรียนขับได้แค่ 30 กม./ชม. ขับไวไม่ได้กลัวโดนปรับ ค่าปรับที่โน้นก็แรงอยู่นะ ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะ 20,000 บาทบวกๆ เริ่มออกจากสนามบินแล้วขับรถไปตามถนนสาย E8 ขับไปเรื่อยๆ ไปจนถึงสาย E6 จากนั้นขับไปตามถนนสาย E10 จนถึง Lofoten จะผ่านเส้นทางหลักๆเลยคือ Tromsø-Fagernes-Trom-Bjerkvik- Kongsvika-Svolvær-Hamnøy-Å ไม่ต้องเอารถขึ้นเรือ ขับยาวๆจนกว่าจะถึง จุดที่ต้องข้ามเกาะก็ใช้สะพานที่ไม่มีรถสวน ต้องรอสัญญาณไฟทีละฝั่ง แนะนำให้ใช้ Google Map ดีสุดเลิศสุด เพราะในนั้นจะบอกว่าตรงไหนมีกล้องบ้าง ที่จริงก็สังเกตุป้ายข้างทางก็ได้ว่าตรงจุดนี้มีกล้อง และความเฟียสของที่นี่คือ ตรงป้ายจำกัดความเร็วทุกป้ายตรงกับใน GPS เปะๆ อธิบายเพิ่มเติมคือ เวลาเราขับรถอยู่ที่ 70 กม./ชมอยู่ เราเห็นป้ายริบๆตรงหน้าว่าจะเข้าสู่เขตบังคับให้ขับที่ 50 กม./ชม. แล้วพอเราขับรถไปถึงตรงป้ายปุ๊บ ใน Google Map ก็ขึ้นเป็น 50 กม./ชม เลยจ้า ย้ำว่าทุกป้ายที่ผ่านเป็นแบบนี้จริงๆ การขับรถที่โน้นไม่ยาก ขับแรกๆอาจงงๆ เกือบทุกแยกจะมีวงเวียน ต้องวนขวา ที่ปัดน้ำฝนอยู่ฝั่งขวา ไฟเลี้ยวอยู่ฝั่งซ้าย ถนนดี แต่แคบไปหน่อย หลบรถยากรถสวนมีสะดุ้ง เส้นทางส่วนใหญ่ที่จะข้ามภูเขา จะใช้วิธีเจาะเป็นอุโมงค์ทะลุภูเขาเอา ซึ้งบางอุโมงค์ก็ยาว 1 กิโลเมตร 2 กิโลเมตร ไปจนถึง 6 กิโลเมตรบ้าง ถ้าใครเป็นโรคกลัวที่แคบและมืดต้องมีใจหวิวบ้างแหละ การเติมน้ำมันที่โน้นต้องเติมด้วยตัวเอง ใช้บัตรที่มี PIN เท่านั้น เสียบบัตรเข้าไปก่อน เลือกประเภทน้ำมัน ที่ประเทศ Norway มีน้ำมันแค่ 2 ประเภทเท่านั้น คือ ดีเซล กับเบนซิน ไม่มีหลากหลายสูตรให้เราเลือก ไม่ว่าจะปั๊ยมยี่ห้อไหนก็ตาม ราคาน้ำมันขึ้นอยู่ตลาดโลก ตอนเช้าเราเห็นป้ายราคา 19.xx NOK ตอนบายอาจพุ่งไป 22.xx NOK พอตกเย็นลงมาที่ 20.xx NOK ก็เป็นได้ วิธีการเติมน้ำมัน อันดับแรกใช้บัตรเสียบเข้าไป ใส่ PIN เลือกประเภทน้ำมันที่เติม กดเติมจนเต็มถัง ขอใบเสร็จ เอาบัตรออก ถ้าเราใช้บัตรเคดิตหรือเดบิตของไทย จะถูกหักไปก่อน 2,000 NOK ต่อการเติมน้ำมันทุกครั้ง แล้วหลังจากนั้น 4-5 วันธนาคารเจ้าของบัตรจะคืนเงินที่เหลือเข้าบัตรเรา เช่น เราเติมน้ำมันไป 900 NOK แต่ธนาคารตัดบัตรเราไป 2,000 NOK ก็ไม่ต้องตกใจ อีก4-5 วันธนาคารก็จะคืนเงินให้เรา 1,100 NOK เอง แต่ใครไม่สะดวกใช้บัตรเคดิต จะใช้เงินสดก็ต้องหาปั๊มน้ำมันที่มี Supermarket อยู่ในปั๊มด้วย เข้าไปบอกพนักงานว่าขอเติมน้ำมันแล้วจจะจ่ายด้วยเงินสด เราใช้รถไป 5 วัน ขับไปกลับ Tromsø - Lofoten ขับเที่ยวใน Lofoten ตรงสถานที่ยอดฮิตตามอินเตอร์เน็ต เช่น หมู่บ้าน Å, หมู่บ้าน Reine, Lofoten Viking museum เป็นต้น หมดค่าน้ำมันไปประมาณ 6,000 กว่าบาท สำหรับเราคิดว่าค่าน้ำมันน่าจะแพงกว่านี้ ดีที่ได้รถ Hybrid มากประหยัดน้ำมันได้เยอะ ข้อดีของการขับรถที่ Norway คือทางดี สะดวง ง่าย ป้ายทุกป้ายที่เห็นใช้ได้จริงไม่มีหลอก ระยะทางป้ายกับ Google Map ตรงกันเป๊ะ วิวสวยที่สุดในชีวิตรตลอดเส้นทาง อากาศดีเวอร์จนสูดเข้าปอดไม่หมดไม่สิ้น ข้อเสียคือ ใครที่ขับรถไม่เก่งอาจมีเสียว เนื่องจากทางแคบ ไหล่ทางน้อย คนพื้นที่ขับกันโปรมาก เข้าโค้งไม่มีผ่อน ถ้าเราเป็นรถหัวขบวนอาจมีกดดันว่าเขาจะจี้ตูดเรามั๊ยนะ แต่ที่จริงถ้าเราขับตามความเร็วที่กฎหมายเขากำหนดก็จะไม่จี้ตูด ชนตูดกัน และคนพื้นที่ส่วนใหญ่แอบลักไก่ขับไวกว่ากำหนดบางช่วง ที่ไม่มีกล้องจับความเร็ว ถ้าเราเผลอขับตามมีสิทธิ์โดนค่าปรับอ่วมแน่นอน ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้"ภาพทั้งหมดโดย SillyPink"#Norway #Tromso #Lofoten #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป #เที่ยวยุโรปด้วยตัวเองวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !