สวัสดีค่ะ นักเดินทางทุกท่าน ช่วงนี้อาจจะสถานการณ์ไวรัสโรคระบาดยังไม่ค่อยสู้ดี ขอให้ทุกท่านพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เพื่อสุขภาพของท่านเอง และส่วนรวม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนลอนดอน ประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก ซึ่งการเดินทางไปครั้งนั้นการติดเชื้อในประเทศอังกฤษยังน้อยมาก ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ที่ประเทศอังกฤษดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะชาว Londoner คิดต่างจากคนเอเชีย จากประสบการณ์ที่ไปลอนดอนมาทำให้ทราบว่า หากคุณใส่ Face Mask ที่นั่น คุณจะเป็นคนป่วย และคนป่วยควรอยู่ที่บ้านไม่ควรออกมาที่สาธารณะ หากใครใส่ Face Mask ไปในที่สาธารณะ คุณอาจโดน Bully ได้ ........... เราจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองของอังกฤษด้วยการไม่ใส่ Face Mask แต่ป้องกันด้วยการไม่นำตัวเองเข้าไปในที่แออัด หมั่นล้างมือ และพกแอลกอฮอล์เจลมาจากประเทศไทย แต่ถึงอย่างไรก็ดี ลอนดอนยังคงสวยงามเสมอ นับได้ว่าเป็นทริปที่น่าประทับใจทีเดียว วันนี้จะขอพาไปชมสถานที่ต่าง ๆ ในลอนดอนกันค่ะ ตามไปเที่ยวกันเลย ทริปนี้เราเดินทางไปกับทัวร์นะคะ การจัดการเรื่องวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ทัวร์เป็นคนจัดการให้หมด เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลาเป็นอย่างมาก เราเดินทางโดยสายการบิน Royal Brunei Airline Transit ที่เมืองบันดาเสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง สนามบินบรูไนเป็นสนามบินเล็ก ๆ เอาง่าย ๆ เล็กกว่าสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวงค่ะ เราใช้เวลา Transit ที่บรูไน 7 ชั่วโมง ค่ะคุณฟังไม่ผิด 7 ชั่วโมงค่ะ จากนั้น เดินทางจากสนามบินบรูไน สู่ทาอากาศยานนานาชาติ Heathrow Terminal 4 ใช้เวลาบิน 14 ชั่วโมง 40 นาที นั่งยาว ๆ นอนยาว ๆ ไปเลยค่ะ Crew จะทำ Service 2 รอบ ค่ะ ส่วนอาหารบนเครื่องจะมีเนื้อกับไก่ค่ะ เป็น Full Service มีจอ Monitor ส่วนตัวทุกที่นั่ง มีหมอน ผ้าห่มแจกบนเครื่องโดยไม่ต้องขอ หากใครต้องการหูฟัง Crew จะเดินแจกค่ะ วันแรกจากที่ Landing สด ๆ ร้อน ๆ เวลาที่ประเทศอังกฤษช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง เรามุ่งหน้าสู่เมืองบาธ ตัวเมืองบาธตั้งอยู่ในหุบเขาของแม่น้ำเอวอนในบริเวณที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของโรมัน จากที่ได้ไปสัมผัสเมืองบาธ เป็นเมืองเล็ก ๆ โอบล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม ชอบที่นี่มาก สดชื่น เดินเล่นชมเมืองแล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับมหาวิหารบาธ (Bath Abbey) และยังมีโรงอาบน้ำโรมันโบราณ ถือเป็นโรงอาบน้ำโรมันขนาดใหญ่ในสมัยโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์และดูแลเป็นอย่างดี หลังจากเมืองบาธเราใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการเดินทางไป Stonehenge อนุสาวรีย์เสาหินสโตนเฮ้นจ์ ประกอบไปด้วนแท่นหินขนาดยักษ์จำนวน 112 ก้อน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลม ได้รับการคัดเลือกจากองค์กร New 7 Wonders ให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีอายุกว่า 5,000 ปี เป็นกลุ่มแท่นหินขนาดใหญ่ ซึ่งไม่มีใครทราบที่มาที่ไปในการสร้างอย่างชัดเจน น่าแปลกประหลาดดี ใครเป็นคนสร้าง สร้างเพื่ออะไร ยังคงเป็นปริศนากันต่อไป กลับเข้าลอนดอนกันมาบ้าง สะพานแห่งนี้เรียกว่า Tower Bridge สะพานที่มีรูปแบบของสะพานยกและสะพานแขวนอยู่รวมกัน สร้างขึ้นในระหว่าง ค.ศ. 1886-1894 เพื่อเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอนเลยก็ว่าได้ เป็น Signature ที่ใครมาลอนดอนต้องมาถ่ายรูปคู่กับสะพานนี้ แต่ก็สวยงาม น่าประทับใจจริง ๆ ต้องยอมรับในความเป็นเอกลักษณ์ในสถาปัตยกรรมของประเทศเค้า ไปต่อกันที่ชิงช้าสวรรค์ลอนดอน อาย (London Eye) หรือจะเรียกอีกชื่อว่า มิลเลเนียม วีล (Millennium Wheel) ไกด์บอกว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูง 135 เมตร จากส่วนตัวที่ได้ไปเห็นกับตาไม่ต่างจากเอเชียทีคบ้านเราค่ะ เดินจาก London Eye มาที่ Westminster Abbey โบสถ์มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกและที่ฝังพระบรมศพพระมหากษัตริย์อังกฤษและพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ ยังคงตรึงตราตรึงใจกับสถาปัตยกรรมของประเทศนี้ ตรงนี้เรียกว่า Piccadilly Circus เป็นจตุรัสที่เป็นเอกลักษณ์ของใจกลางมหานครลอนดอนเลย เป็นจุดศูนย์กลางและจุดนัดพบ มีร้านค้า ร้านอาหาร ให้ Shopping ตลอดสองข้างทาง คึกคักมากเป็นพิเศษ เรารีบมุ่งหน้าไป Shopping ที่ร้าน Lillywhites เป็นร้านขายเสื้อบอล รองเท้า อุปกรณ์กีฬาหลายสิ่งรวมกันอยู่ที่นี่ หากคุณไม่ได้ไปซื้อที่สนาม เชิญที่ร้าน Lillywhites เลยค่ะ ขายของเหมือนที่สนามทุกอย่าง ราคาถูกกว่าที่สนาม อันนี้ไกด์บอกมา Oxford Street ถนนอออกซ์ฟอร์ด เป็นถนนแห่งสายช็อปปิ้งที่แท้จริง มีห้างสรรพสินค้าใหญ่มากมาย อาทิเช่น Mark&Spencer , Primark , Selfridges , Next , Zara นอกจากช็อปปิ้งเพลิดเพลินแล้วยังเป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยอีกด้วย เตือนไว้นิดนึงที่นี่ต้องเดินแบบมีสติโจรในคราบผู้ดีเยอะมาก โดยเฉพาะพวกคนยิปซี โจรดี ๆ เลยจ้า และแล้วก็มาถึงจุดไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมานั่นก็คือ พระราชวังบัคกิ้งแฮม (Buckingham Palace) เป็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ เป็นสถานที่ ที่ใช้สำหรับการเลี้ยงรับรองของรัฐและยังเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของเมืองลอนดอน ช่วงเวลาที่เราไปถึงเป็นช่วงเวลาที่เหล่าทหารผลัดเปลี่ยนเวรกันพอดี อยากบอกว่าประทับใจกับสถานที่แห่งนี้มาก ลากันไปด้วยย่าน Soho ย่านนี้เป็นย่านคนจีนแหล่งของกินมากมาย รวมไปถึงสถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นต้น สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือเป็ดย่างโฟร์ซีซั่น ชื่อดังแห่งลอนดอน ซึ่งทางเราก็ไม่พลาดที่จะไปชิม จะขอมาทำรีวิวแยกครั้งหน้าค่ะ จบไปแล้วกับทริป ลอนดอน ต้องลองดู จริง ๆ เราไปเที่ยวมามากกว่านี้ แต่อยากขอนำเสนอสถานที่ ที่เป็นไฮไลท์จุดสำคัญ ๆ ในลอนดอน ยังขาดไปอีกหนึ่งสถานที่คือหอนาฬิกาบิ๊กเบนยังคงปิดซ่อมอยู่ จากการที่ได้ไปสัมผัสมา ส่วนมากพวกพนักงานร้านอาหารจะเป็นคนผิวดำซะส่วนมาก ไม่ได้มีการ Bully คนเอเชีย ให้ความช่วยเหลือหากเราร้องขอให้เค้าช่วย เสน่ห์ของประเทศอังกฤษคือสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงาม และไม่เหมือนใคร หากสถานการณ์โรคระบาดหายไปจากโลกนี้แล้ว อยากจะไปลอนดอน ดูอีกสักครั้ง แล้วพบกันใหม่ .......... สวัสดี บทความ เรียบเรียงโดยนักเขียน ภาพถ่ายโดยนักเขียนทั้งหมด