วันนี้จะเป็นการบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวแบบสายบุญ สืบเนื่องมาจากที่บ้านอยากจะไปทำบุญสังฆทานแต่ก็อยากเปลี่ยนสถานที่ใหม่ๆที่ไม่เคยไปดูบ้าง เราจึงทำการหาข้อมูลแล้วพบว่าในอ.หาดใหญ่ มีวัดที่เป็นสายวัดป่าด้วย ซึ่งปกติแถวทางภาคใต้จะไม่ค่อยเห็นวัดป่าสักเท่าไร เป็นอันว่าตกลงกันตามนี้ เมื่อถึงกำหนดการเราขับรถออกจากบ้านในเมืองหาดใหญ่ช่วงสายๆ ขับรถออกมาจากตัวเมืองหาดใหญ่มุ่งหน้าไปยังสี่แยกคลองหวะ เพื่อไปยัง ต.บ้านพรุ โดยวัดป่าแสงธรรม ตั้งอยู่ ถ.ชุมแสง2 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อผ่านทางรถไฟที่ ต.บ้านพรุ จะเห็นป้ายทางเข้าวัดอยู่ด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปตามทาง ถนนลูกรังขนาดไม่กว้างนัก แต่สองข้างทางร่มรื่นมากๆ ต่างจากถนนสายหลักที่วิ่งมาเมื่อสักครู่ ใช้เวลาไม่นานนักก็จะเห็นที่หมายอยู่เบื้องหน้าค่ะ เมื่อเข้าไปถึงก็ได้พบคนใส่ชุดขาวที่มาปฏิบัติธรรม จากการสอบถามถึงการที่จะทำสังฆทานเขาจึงกรุณาไปแจ้งพระให้ โดยเรานำของที่จะถวายไปนั่งรอในตัวอาคารซึ่งมีลักษณะสามชั้น มีพระประธานอยู่ด้านใน ข้างพระประธานมีรูปปั้นจำลองของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งวัดป่าแสงธรรมนี้เป็นวัดป่าในสายของหลวงปู่มั่นนั่นเอง โดยขอเล่าประวัติคร่าวๆของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สักนิดนะคะ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เดิมเป็นคน จ.อุบลราชธานี ซึ่งทางยูเนสโกได้มีการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ วาระปี 2563-2564 จากการที่ท่านผู้เป็นบูรพาจารย์สายพระป่าในประเทศไทย และได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสดาอย่างเคร่งครัด และยึดถือธุดงควัตรด้วยจริยวัตรปฏิปทางดงาม ถึงแม้ว่าท่านจะได้มรณภาพไปตั้งแต่ พ.ศ.2492 แต่ยังคงมีพระสงฆ์ที่เป็นลูกศิษย์ของท่านสืบต่อแนวคำสอนพระป่าของท่านสืบมาจนปัจจุบัน หลังจากที่ได้ทำการถวายสังฆทานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อที่มารับสังฆทานท่านได้เมตตาบรรยายธรรมให้ฟัง หลังจากนั้นท่านได้บอกให้เราขึ้นไปชมด้านบน ซึ่งแต่ละชั้นก็จะไม่ได้ต่างกันมากนัก คือ มีพระประธานด้านหน้า และเป็นโถงโล่งๆที่ใช้สำหรับปฏิบัติธรรมตลอดจนกิจอื่นๆ วัดป่าแสงธรรมแห่งนี้มีความร่มรื่นของธรรมชาติโดยรอบ มีความสะอาด และเงียบสงบ เมื่อมองออกไปจะเห็นอาคารที่มีหลังคาสีเขียว ซึ่งเป็นสถานที่พักสำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม พระที่นี่มีเพียงไม่กี่รูป ซึ่งในการจะมาปฏิบัติธรรมจะต้องแจ้งขออนุญาตกับทางวัดเสียก่อน สำหรับวันนี้นอกจากอิ่มบุญแล้ว สิ่งที่ได้รับคือ ความสงบใจมากๆค่ะ หากใครสนใจเที่ยวแบบสายบุญแบบนี้ก็ลองหาโอกาสไปดูสักครั้งนะคะ เครดิตภาพจาก pintas (ผู้เขียนเอง)