วันนี้ตลาดน้ำอัมพวากลับมาคึกคักอีกครั้งแล้วค่ะ อัปเดตล่าสุด 13/02/65 เราในฐานะเด็กอัมพวาเลยอยากจะมารีวิวตลาดน้ำอัมพวาว่ามีอะไร เดินทางยังไง บรรยากาศเป็นอย่างไรและทำอะไรได้บ้าง เผื่อใครกำลังหาที่เดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ก็ขอให้คิดถึงตลาดน้ำอัมพวาได้นะคะตลาดน้ำอัมพวาตั้งอยู่ในจ.สมุทรสงครามซึ่งใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมหานคร 1 ชม. - 1 ชม.ครึ่งเท่านั้นค่ะ เดินทางได้ทั้งรถส่วนตัวและรถตู้โดยสาร ซึ่งเปิด google map ได้เลยเรือกำลังพานักท่องเที่ยว เที่ยวชมวิว บรรยากาศริมแม่น้ำแม่กลองโดยทั่วไปนักท่องเที่ยวจะจอดรถที่ลานจอดรถใกล้ๆ ตลาดซึ่งจะมีช่วงที่รถเยอะ คนเยอะก็ต้องรอนานทางเลือกสำหรับคนที่อยากเลี่ยงรถติด รถเยอะ มานั่งเรือข้ามฟากเข้าตลาดน้ำอัมพวากันวันนี้เราในฐานะเด็กอัมพวา เลยอยากมาแนะนำท่าเรือข้ามฟาก ชมวิวตลาดน้ำจากอีกฝั่ง เพียงแค่ปักหมุดใน google map ว่า " ท่าเรือข้ามฟาก วัดบางลี่ใหญ่ " (แต่จริงๆแล้ว วัดชื่อบางนางลี่ใหญ่ )เป็นเส้นทางเดียวกับทางมาตลาดน้ำ แต่ก่อนเข้าสู่ตลาดน้ำ คุณจะเจอวงเวียนและมีทางแยกขึ้นสะพานทางซ้ายมือ ขับขึ้นสะพานไปจากนั้นจะเจอสามแยก มองด้านขวาจะเจอซุ้มประตูวัดขับเข้าไปได้เลยค่ะ คุณจะเจอศาลาท่าเรือเล็กๆ มีลานจอดรถพร้อมบรรยากาศตลาดน้ำอัมพวาจากอีกฝั่งที่รอคอยการมาของคุณอยู่ วันนี้เราเองก็ข้ามเรือไป ตรงนี้เรียกว่าท่าเรือข้ามฟาก วัดบางนางลี่ มีลานจอดรถ แวะไหว้พระที่วัดได้ด้วยค่ะเรือมาแล้ว รอไม่นาน คนหมดท่าก็ออกเลยข้ามไปฝั่งตลาดประมาณ 2-3 นาที แม่น้ำที่เห็นอยู่คือแม่น้ำกลองค่ะมาตอนเย็นๆ ก็จะเห็นบรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ แสงสวย ถ่ายรูปบนเรือเก๋ๆ ถึงฝั่งตลาดน้ำแล้ว ข้างในมีอะไรบ้างไปดูกันร้านค้ามีหลากหลายมากเราจะแบ่งเป็นหมวดทั้งหมด 4 หมวด ดังนี้1. ของกินบอกเลยว่าต้องถูกใจสายกินแน่นอน ทั้งคาว หวาน อาหารทะเล น้ำพริก ปลาทู หอยดอง ขนมสมัยเด็กๆ มีให้เลือกซื้อแบบเลือกไม่ถูกเลย เยอะจนไม่สามารถจะลงรูปของกินทุกอย่างที่ถ่ายมาได้ แต่ละอย่างน่ารัก น่ากินมาก ไปดูภาพกันค่ะปลาทูต้มหวาน ปลาทูเป็นของดีของจังหวัดเรา ปลาทูแม่กลองต้องหน้างอ คอหักแต่ว่าต้องตอนอยู่ในเข่งนะคะกุ้งเผา ปลาเผา เผากันสดๆ มีโต๊ะนั่งทานด้านใน ติดริมน้ำและร้านค้าอีกมากมายในบริเวณนั้นค่ะหรือใครอยากกินข้าวแกง ทำกันสด ๆ ร้อนๆ ร้านนี้มีหลายกะทะเลย มีโต๊ะนั่งกินด้านใน ทานพร้อมบรรยากาศโปร่งสบาย ก่อนกลับบ้านก็ดีนะคะปลาหมึกจ้า สดๆ เลย ราคาตามขนาด 60-80 ในรูปตัวใหญ่ๆหน่อย ตัวละ 80 ย่างเสร็จ หั่น ใส่ถ้วยราดน้ำจิ้ม พร้อมทานค่ะ หาที่นั่งด้านหลังร้านได้เลย ติดริมแม่น้ำด้วยใครจะไปคิดอัมพวามีจระเข้ย่าง ไม้ละ 30 เท่านั้น ร้านไอติมก็มี เดินร้อนๆ ไอติมเย็นๆ เลยจ้า ทั้งขนมโบราณ ขนมหม้อแกงจิ๋ว ขนมยุค 90 ก็มี เราเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ได้มาเดินต้องมีสักวินาทีนึงแหละที่คิดถึงตอนเด็กๆ กับขนมที่ตัวเองเคยกิน จริงๆแล้วของกินมีเยอะมาก หลายอย่างเราเองก็เพิ่งเคยเห็น ส่วนใหญ่เป็นขนมโบราณ ของแห้ง ของสด ส้มตำ อาหารทะเล ปลาเผา ขนมหวาน ก๋วยเตี๋ยว อยากทานแบบไหนเดินให้ทั่วแล้วเลือกนั่งทานได้เลย2. ของเล่น ของฝากน่าจะถูกใจนักสะสมของเล่นหรือคนที่ชื่นชอบโมเดลรถ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ มีหลายร้านให้เลือกเลย นอกจากนั้นยังมีของเล่นในวัยเด็กของผู้ใหญ่วัย 30 up อย่างเราที่คุ้นเคยกันดีหรือจะเป็นของฝาก ของแต่งบ้านน่ารักๆ ไว้ซื้อไปเป็นของขวัญ ของชำร่วย ไว้แจกเพื่อนๆ ก็มีค่ะของเล่น โมเดลการ์ตูน ใครพาลูกมาระวังกระเป๋าเงินด้วยนะคะ กระเป๋าสีสันสดใสราคาน่าคบหา ใบละ 25 บาทกระถางต้นไม้จากกะลามะพร้าว น่ารักมาก ใครชอบแต่งบ้าน ปลูกต้นไม้ลองมาดูนะคะ ร้านอยู่หน้าอำเภอของฝากพวงกุญแจเข่งปลาทู เหมาะมากสำหรับทำเป็นของชำร่วยเทียนหอม โมบายก็มีจ้าฝั่งของเล่น ของแต่งบ้านก็น่าซื้อสะสมไปซะหมด ใครมีญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูงอย่าลืมซื้อไปฝากและบอกต่อให้มาเที่ยว มาสัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำอัมพวาเหมือนที่คุณมาด้วยนะคะ3. ร้านอาหาร / คาเฟ่ต่างๆบอกเลยต้องถูกใจชาวโซเชียลแน่นอน มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ แต่ละร้านมีเสน่ห์ต่างกันไป บางร้านคุมโทนขาว ดำ บางร้านเน้นสีสันสดใส บางร้านยังคงความเก่าความคลาสสิคไว้ บอกเลยว่ามาที่เดียวแต่บรรยากาศหลากหลายมากค่ะ อย่าลืมเตรียมตากล้องมาด้วยนะคะร้านนี้คุมโทนขาว ดำเก๋มาก น่าจะถูกใจสายคาเฟ่นะคะคลาสสิคมากร้านนี้ เป็นร้านตัดผมอยากแวะใช้บริการเลยร้านนี้ตอนไปคนเยอะมาก มีแม่ค้าเรียกลูกค้าหน้าร้านเสียงหวานเลยร้าน เตี๋ยว ตก กะลา เป็นก๋วยเตี๋ยวที่เสิร์ฟในกะลา ร้านแต่งสวยงาม เน้นงานไม้ นั่งทานได้ที่ริมน้ำด้วยค่ะถัดมา แหวกแนวไปเลย จี๊ดมาก เป็นร้านไอติม เดินเล่นเหนื่อย ๆ ก็มาแวะพักร้านนี้ มุมถ่ายรูปน่ารักมาก ร้านอาหารก็มีให้เลือกนั่งมากมาย ถูกใจร้านไหน เดินเข้าไปเลย พ่อค้า แม่ค้าพร้อมบริการ 4. นั่งเรือชมหิ่งห้อยสำหรับใครที่พอจะมีเวลา กลับมืดหน่อยได้ก็อยากให้ลองไปนั่งเรือชมหิ่งห้อยกัน ค่าบริการคนละ 60 บาท นอกจากจะได้ดูหิ่งห้อยแล้ว บรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำก็สวยไม่เบา ยิ่งตอนเย็น แดดร่ม ลมตกคุณจะเห็นพระอาทิตย์ตกจากบนเรือได้เลยแต่ถ้าชมหิ่งห้อยก็ต้องรอแสงหมดและนั่งเรือไปพร้อมความมืดเพื่อรอดูแสงเล็กๆ จากหิ่งห้อยที่เกาะกลุ่มกันอยู่ตามต้นลำพูริมฝั่งแม่น้ำ เราเองเด็กอัมพวาแท้ๆก็เพิ่งเคยมีโอกาสได้เห็นและเราขอยืนยันและรับรองว่าแสงที่เห็นเป็นเจ้าหิ่งห้อยจริงๆ ไม่ใช่ไฟกะพริบแน่นอนแต่จะเห็นเจ้าหิ่งห้อยมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับช่วงและสภาพอากาศด้วยนะคะระหว่างทางไปชมหิ่งห้อยผ่านวัดต่าง ๆ พร้อมพระอาทิตย์ตกยามเย็นนั่งเรือชมหิ่งห้อยประมาณ 1 ชม. อยากถ่ายเจ้าหิ่งห้อยมาฝากมากๆค่ะ แต่ทุกอย่างมันมืดไปหมด ถ่ายเห็นแต่ความมืด แต่เห็นด้วยตาก็สวยและโรแมนติกดีนะคะหิ่งห้อยส่องแสงเล็กๆ เกาะอยู่ที่ใบต้นลำพูเป็นกลุ่มๆ โชคดีหน่อยเขาก็จะบินมาให้ดูใกล้ๆ เพื่อให้เห็นว่าหิ่งห้อยจริงๆ ไม่ใช้ตัวแสดงแทนนะคะ เป็นไงบ้างค่ะ ชมภาพแล้วร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ มีหลายแนวเลยใช่มั้ยค่ะ ที่นี่น่าจะพอให้ทุกท่านที่มาได้ผ่อนคลาย อิ่มหนำสำราญกันบ้าง สุดท้ายขอฝากรีวิวตลาดน้ำอัมพวา สถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพไว้เป็นตัวเลือกในการเดินทางพักผ่อนของทุกคนด้วยนะคะ มาที่เดียวได้ทั้งของกิน ของฝากนั่งเรือเล่นสักรอบแล้วค่อยกลับไปลุยงานกันต่อ ข้อมูลเพิ่มเติมตลาดน้ำอัมพวาเปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 14.00 น. - 20.30 น. (วันธรรมดาก็เปิดนะคะ แต่ร้านอาจจะน้อยหน่อย)ปล.ร้านค้าที่นี่รับคนละครึ่งด้วยจ้า เครดิตภาพทั้งหมดโดย พรว. (นักเขียน)กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !