หากรู้สึกอยากไปเที่ยวไหนใกล้ๆสักที่ในเมืองกรุง เอาแบบเดินทางสะดวก เที่ยวได้ในวันเดียว เราขอแนะนำย่านเก่าแก่ในกรุงเทพ นั้นคือ “ เจริญกรุง หรือ ตลาดน้อย ” ซึ่งมีความเก่าแก่ของบ้านเรือน มีการผสมผสานวัฒนธรรมของชาวไทย-จีน ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ส่วนมากจะเป็นคนจีน คนเก่าแก่ที่อยู่มานาน และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ Stress Art ตามกำแพงและตรอกซอกซอยที่เป็นเหมือน Signature ของตลาดน้อย แถมยังมีจุดให้ถ่ายรูปอาร์ตๆมากมาย ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ ถ่ายรูปชิค ๆ อาร์ต ๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด ! วันนี้เราจะเดินทางไปกับทางเรือกัน เริ่มจากท่าน้ำนนท์เลย และลงสถานี “กรมเจ้าท่า” ส่วนตัวเราคิดว่าเดินทางทางเรือเป็นอะไรที่รวดเร็ว สะดวก ที่สำคัญถูกมาก ซึ่งทุกสถานีราคาเพียงแค่ 15 บาทเอง แถมบรรยากาศดีมากด้วยและกว่าจะถึงจุดหมายก็ได้ผ่านหลาย ๆ ที่ เหมือนได้เที่ยวที่อื่นไปในตัวเลย555555 เมื่อถึงกรมเจ้าท่าเราก็เดินไปตามทางเลย เราสังเกตุว่าตลอดทางที่เดินจะมี “ บะจั่ง ” แขวนอยู่แทบทุกบ้าน เลยคาดว่าน่าจะเป็นอาชีพหลัก ๆ ของคนในพื้นที่ และที่เราแพลนเอาไว้คือจะกิน “เป็ดตุ๋นเจ้าท่า” แต่เรามาวันอาทิตย์..อดเลยจ้า แต่เราจะไม่ยอมแพ้ เลยถามคนที่เดินผ่านไปมา เขาแนะนำร้านนึงในตลาด เราเลยเดินเข้าไปอีกนิด สุดท้ายก็ได้กินสมใจอยาก ส่วนตัวคิดว่าอร่อยมาก เนื้อนุ่ม น้ำซุปดี ยิ่งกินกับโค้กทำให้อร่อยสุด ๆ ไปเลย “ เจอแมวเจ้าถิ่นระหว่างเดิน ” หลังจากท้องอิ่ม กองทัพก็เริ่มเดิน ต่อไปคือ “ ศาลเจ้าฮ้อนหว่อง ” เดินเข้าไปในซอยจะเจอ Street Art แทบทั้งทาง มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก เราแชะไปหลายรูปเลยแหละ .. วันนี้เป็นวันอาทิตย์ทำให้เงียบสุด ๆ Feel good มาก! “ ทางเข้าศาลเจ้าฮ้อนหว่อง ” “ Street Art แถวศาลเจ้าฮ้อนหว่อง ” ว่าแล้วก็เดินต่ออีกนิดจะเจอ “ ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาตลาดน้อย ” ขึ้นชื่อว่าเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ที่สวยที่สุด ซึ่งจะเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.20-14.30 น. แต่เราไปวันอาทิตย์ทำให้ถ่ายได้แค่ด้านนอก ใครอยากชมด้านในแนะนำให้ไปวันปกตินะคะ “ โบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ ” ตั้งอยู่ใกล้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด โบสถ์ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนกุหลาบวิทยา เราสามารถเดินเข้าไปโดยใช้ทางเข้าเดียวกับโรงเรียน โบสถ์กาลหว่าร์ เป็นโบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งที่มีความสวยงามตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะเปิดให้ชมทุกวัน เวลา 08.30- 17.30 แต่หากมีพิธีกรรม ทางโบสถ์จะไม่อนุญาตให้เข้าไปนะคะ ถ้าไม่แน่ใจว่าวันที่เราจะไปมีงานหรือพิธีกรรมหรือไม่ สามารถทักไปในเพจ “วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) Holy Rosary Church “ เพื่อสอบถามล่วงหน้าได้ค่ะ “ ข้างในตัวโบสถ์ สวยมากๆ ” ระหว่างทางที่เดิน .. เหมือนหลุดไปอีกโลกเลย “ มี Street Art ตามทาง ” จากนั้นเดินไป “Aoon Pottery” เป็นร้านคาเฟ่+สตูดิโอดินปั้น/ดินเผา ภายในร้านบรรยากาศอบอุ่นซึ่งในร้านจะมี 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นคาเฟ่ มีขนม เครื่องดื่ม และชั้นที่สองจะเป็นสตูดิโอดินเผา เราสามารถขึ้นไปชมได้ด้วยนะ ซึ่งขนมและน้ำดื่ม ทางร้านก็เอาเซรามิคที่ปั้นมาใช้ด้วย ใครผ่านไปเจริญกรุง อย่าลืมแวะไปชิมไปชมกันนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน “ ข้างในร้านให้อารมณ์อบอุ่นมาก ๆ เลยแหละ ” “ เค้กแครท และ ชาเย็น ” “ ชั้นสองของร้านจะเป็น Studio เพื่อปั้นดินเผา สามารถเข้าไปดูได้นะคะ ” มุ่งหน้าต่อไปไปยังเยาวราชเพื่อที่จะไป “ ร้านหนังสือเก่าเยาวราช ” ร้านจะเปิดทุกวันยกเว้นวันพุธ เวลา 13.00-19.30 น. ถ้าเดินจะค่อนข้างไกล ระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร ใครอยากเดินก็สามารถเดินได้ค่ะ ชิลล์ ๆ แต่หากใครรู้สึกว่าไกลไปก็สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปได้ค่ะ “ ระหว่างทางมีอะไรให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ ” “ เดินถ่ายรูปเพลิน ๆ ก็เจอเยาวราชแล้ว ” “ ค้นหาใน Google Map ว่า ร้านหนังสือเก่าเยาวราช ถ้าเจอตรอกนี้แสดงว่ามาถูกทางแล้วค่ะ ” “ เดินเข้าไปในตรอกนิดนึงก็เจอแล้วค่ะ ร้านเด่นมากเพราะมีหนังสือค่อนข้างเยอะ ” ร้านจะมีสองโกดังค่ะ อีกหลังก็เยอะไม่แพ้กัน ราคาหนังสือถูก เริ่มต้นที่ 40 บาทมีหนังสือให้เลือกเยอะแยะ มีทั้งหนังสือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เลือกจนเพลิน คุณลุงเจ้าของร้านใจดีมาก หากมีโอกาสอย่าลืมแวะไปอุดหนุนคุณลุงกันนะคะ “ ในร้านหลายมุมมีความวินเทจสุด ๆ ” สุดท้ายแล้วเราเดินไปหัวลำโพงประมาณ 1 กิโลค่ะ และเดินทางกลับที่พัก เย้! เป็นยังไงบ้างคะสำหรับมินิทริปที่นำมาฝาก หากเพื่อนๆคนไหนมีวันหยุดหรืออยากเที่ยวในเมืองกรุงไม่อยากไปไหนไกล ๆ ก็ให้ “ เจริญกรุงหรือตลาดน้อย ” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในใจกันนะคะ Bye-Bye see you :)♡