สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปศึกษาประวัติศาสตร์ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ที่ หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ค่ะหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ เดิมเป็นศาลากลางจังหวัดค่ะ แต่ต่อมาก็ใช้สถานที่นี้เป็นสถานที่แสดงนิทรรศเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ โดยหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่แห่งนี้อยู่ติดกับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ค่ะเมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ก็จะซื้อบัตรเข้าชม และเจ้าหน้าที่จะนำไปยังห้องแรก และอธิบายการเดินทางไปห้องอื่น ๆ ต่ออีกสิบกว่าห้องเลยค่ะ ให้ไปตามทางที่เจ้าหน้าที่แนะนำนะคะ เพราะถ้าไม่ไปตามจะทำให้หลงได้ เพราะในอาคารค่อนข้างมีความซับซ้อนมากมาที่ห้องแรกค่ะ ห้องเชียงใหม่วันนี้ห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับชมวิดีทัศน์ความเป็นเชียงใหม่ในปัจจุบันค่ะ ว่า ณ ปัจจุบันนี้เชียงใหม่มีความเติบโตไปอย่างไรบ้าง สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าทำไมไม่เอาห้องนี้ไปไว้ห้องสุดท้ายสำหรับการจัดแสดง ควรเริ่มจากห้องก่อนประวัติศาสตร์ก่อน แต่สำหรับเราเราคิดว่าการที่นำห้องเชียงใหม่ในปัจจุบันมาไว้ห้องแรก ก็เพื่อที่จะให้เห็นความเป็นเชียงใหม่ที่เจริญรุ่งเรืองในปัจจุบันก่อน กลังจากชมจบจะได้ตั้งคำถามว่า แล้วก่อนจะเป็นเชียงใหม่ในปัจจุบันนี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ความสงสัยนี้จะเป็นจุดที่ทำให้เราอยากไปศึกษาต่อค่ะ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับห้องที่สองเลย ต่อมาจะเป็น ห้องก่อนจะเป็นเชียงใหม่ห้องนี้จะจัดแสดงนิทรรศการจำลองของเชียงใหม่ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สิ่งที่เราประทับใจคือ การจัดแสดงภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยจำลองมาจากของจริง ทำให้เราเห็นลักษณะทางสังคมของคนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์พื้นที่เชียงใหม่อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังจัดแสดงวิถีชีวิตของคนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์แบบจำลองอีกด้วย เป็นห้องที่ทำให้เราเข้าใจภาพรวมในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ได้ดีค่ะ ถัดมาจะเป็น ห้องอารยธรรมสองลุ่มน้ำห้องนี้จะเป็นห้องแสดงอารยธรรมลุ่มน้ำปิงและลุ่มน้ำกก ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสำคัญของชาวล้านนา วิถีชีวิตของคนดำเนินไปด้วยการมีน้ำกินน้ำใช้ จึงทำให้เราพบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุต่าง ๆ รวมถึงร่องรอยของเมืองโบราณอยู่เป็นจำนวนมาก เราชอบที่มีแผนที่จัดแสดงให้เห็นเส้นทางของสองลุ่มน้ำ และแสดงชื่ออาณาจักรโบราณของล้านนาไว้ตามจุดต่าง ๆ ด้วย ถัดมาจะเป็น ห้องสร้างบ้านแปลงเมืองจะเป็นห้องที่จัดแสดงการเริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่อย่างเป็นรูปเป็นร่าง โดยอ้างอิงจากศิลาจารึกและเอกสารชั้นต้น มีการจัดแสดงเกี่ยวกับความเชื่อการสร้างเมืองหลากหลายความเชื่อ โดยสิ่งที่ประทับใจในห้องนี้คือประติมากรรมนูนสูงที่ทำขึ้นจำลองเหตุการณ์ในการสร้างบ้านแปลงเมือง และศิลาจารึกจำลองค่ะ ถัดไปคือ ความสัมพันธ์กับภูมิภาค สิ่งที่เรารู้มาโดยตลอด คือการที่เมืองจะเจริญเติบโตได้ การค้าขายคือปัจจัยสำคัญของการพัฒนาบ้านเมือง แต่ไม่ใช่เพียงการค้าขายภายในอาณาจักร การค้าขายกับภูมิภาคอื่นจึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ให้อาณาจักรเจริญรุดหน้า ทั้งนี้การติดต่อสัมพันธ์กับภูมิภาคบางครั้งก็ไม่ใช่แค่การค้าขายเพียงอย่างเดียว อาจจะมีจัดประสงค์อื่นพ่วงด้วย เช่น ต้องการเจริญสัมพันธไมตรี เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม หรือการแลกเปลี่ยนอิทธิพลทางศาสนา เป็นต้น ห้องนี้จึงจัดแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเชียงใหม่กับภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะในรูปแบบของการค้าขายทางเรือ และเงินตราที่ใช้กันในสมัยโบราณ ถัดมาเป็น ห้องร้อยปีล่วงแล้วเป็นห้องที่จัดแสดงความเปลี่ยนของเมืองเชียงใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากการที่สยามได้รับอิทธิพลยากตะวันตก รวมถึงการประกาศเลิกทาส ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองและความทันสมัยได้เข้ามาในสยาม รวมถึงที่เมืองเชียงใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านการคมนาคม การศึกษา โรงพยาบาล และอื่น ๆ โดยในห้องนี้เราประทับใจเรื่องรถไฟมากที่สุด เพราะเป็นรูปแบบการเดินทางที่สมัยใหม่จริง ๆ ในสมัยนั้น ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯมายังหัวเมืองเหนือ สะดวกสบายยิ่งขึ้น ต่อมาเราจะขึ้นมาที่ชั้นสองของหอศิลปวัฒนธรรมกันนะคะห้องแรกคือ ห้องจัดแสดงของมีค่า ที่มีคนเก็บรักษาไว้และมอบให้ทางหอศิลปวัฒนธรรมได้ยืมมาจัดแสดงค่ะ ถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว จากที่สังเกตดูแล้ว น่าจะเป็นของที่อายุไม่เกิน 100 ปี หรือมากกว่านั้นแต่บวกลบไม่เกินอีก 30 ปีค่ะ สวย ๆ ทั้งนั้น ถัดมาจะเป็น ห้องเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ห้องนี้จะเป็นห้องที่รวบรวมภาพของเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ทุกองค์ รวมถึงตราประจำตัว เครื่องใช้ประจำตัวต่าง ๆ รวมถึงบุตรธิดาของเจ้าเมืองที่มีส่วนสำคัญต่อราชวงศ์สยามด้วย เช่น เจ้าดารารัศมี เป็นต้น ถัดมาเป็น ห้องคนในเวียงเป็นห้องที่เราชอบที่สุดในหอศิลปวัฒนธรรมเลยค่ะ เพราะเป็นห้องที่จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ บ้านเรือน และลักษณะทางสังคมของคนในเมืองเชียงใหม่ ทำให้เราเห็นภาพของผู้คนที่นี่ในอดีตอย่างเข้าใจ เป็นห้องที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นล้านนามาก ๆ เลยค่ะ นอกจากนี้ในห้องยังมีเสียงประกอบ เป็นเสียงคนคุยกันเป็นภาษเหนือด้วย ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในกาดเวียงจริง ๆ เลยค่ะถัดมาจะเป็น ห้อง12เดือนล้านนา โดยจะจัดแสดงวิธีการนับเดือนแบบล้านนา และกิจกรรมในแต่ละเดือนด้วย เราชอบที่มีการแยกว่าแต่ละเดือนมีกิจกรรมอะไรบ้าง โดยกิจกรรมก็จะแยกออกไปอีก เช่น กิจกรรมพิธีทางด้านผี ด้านพุทธ หรือด้านอื่น ๆ การแยกเช่นนี้ทำให้เราเข้าใจภาพรวมพิธีกรรมความเชื่อของชาวเมืองเชียงใหม่ได้ง่ายค่ะถัดมาจะเป็น ห้องวิถีชีวิตด้านเกษตรของชาวล้านนาเนื่องจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ เป็นภูเขา เหมาะแก่การปลูกข้าวและผลไม้ต่าง ๆ ทรัพยากรทางการเกษตรจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่เชียงใหม่มี ห้องนี้จึงมีการจัดแสดงเกี่ยวกับข้าว และการทำฝายค่ะ ถือว่าเป็นความรู้ที่ดีในเรื่องของการเกษตรแบบชาวล้านนา เพราะจะมีความแตกต่างจากภาคอื่น ๆต่อมาจะเป็นห้องสุดท้ายแล้วค่ะ ห้องชาติพันธุ์เมืองเชียงใหม่เนื่องจากเชียงใหม่มีกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่ม จึงได้มีการจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตและข้าวของเครื่องใช้ในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องผ้าและลวดลายผ้าในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ เพราะเป็นเรื่องที่เราชอบที่สุด ลวดลายบนผ้า จะเป็นภาพสะท้อนวิถีชีวิตของคนกลุ่มนั้นค่ะ ทั้งนี้ ในหอศิลปวัฒนธรรมยังมีห้องขายของที่ระลึก และร้านกาแฟบริการแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ที่เราพามาชม สำหรับเราเราประทับใจมากเลยค่ะ ทำให้เห็นภาพประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันนี้ ทุกอย่างมีเหตุและผล มีการเดินทางในแบบฉบับของตัวเอง และพัฒนามาเป็นจังหวัดเชียงใหม่ในทุกวันนี้ หากมีโอกาส เราอยากให้ทุกคนมาที่นี่ค่ะ แล้วจะเข้าใจความเป็นจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น เมื่อเราเข้าใจตรงนี้แล้ว เราจะเที่ยวเชียงใหม่สนุกกว่าเดิมหลายเท่าค่ะพิกัด หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ ศาลากลางหลังเก่า ถนนพระปกเกล้า ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่เปิดให้เข้าชมวันพุธ - วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์ - อังคาร ) เวลา 08.30 - 16.30 น. ค่าเข้าชม 20 บาท ภาพถ่ายจาก นักเขียน *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565