ภูเขารูปหัวใจ ภูกระดึงเปิดแล้วนะจ้าา ปี 2567 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติและชอบการผจญภัยขึ้นไปพิชิตภูกระดึง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 31 พฤษภาคม 2568 ระยะทางเดินตั้งแต่ข้างล่างถึงจุดกางเต๊นท์ ประมาณ 9 กิโลเมตร แล้วยังสามารถเดินรอบๆ ภูได้อีกประมาณ 20-30 กิโลเมตร ใครยังไม่เคยขึ้นหรือมือใหม่ เรามีคำแนะนำ 10 ข้อ ให้ได้รู้ รู้แล้วจะได้สนุกมากยิ่งขึ้น 1. ภูกระดึงปีนี้ เปิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 31 พฤษภาคม 2568 หลังจากปิดเพื่อฟื้นฟูป่า เหมือนกับคนเราก่อนจะขึ้นภูกระดึงก็ต้องฟิตร่างกายให้พร้อมเช่นกัน มือใหม่ควรซ้อมวิ่ง ซ้อมขา ซ้อมปั่น ซ้อมเดิน เพื่อจะได้มีแรงและลดอาการบาดเจ็บ จะไปแบบ 2 วัน 1 คืนก็ได้ หรือถ้าให้ดีเอาแบบเก็บได้หมด ไม่เหนื่อยก็แนะนำ 3 วัน 2 คืน (บางคนกินนอนกันเป็นเดือนๆ ชิวมาก) ถ้ามาปลายฝนต้นหนาว โชคดีอาจได้เห็นทะเลหมอกฟุ้งๆ อาจเจอน้องทาก ถ้าหน้าหนาวรับรองได้หนาวแน่นอน เจอใบเมเปิ้ลแดง ถ้าหน้าร้อนจะได้เห็นป่าสีทอง แต่ไม่ว่าจะหน้าไหนๆ ก็สนุกทุกฤดู ของกินตลอดทาง 2. การเดินทาง สามารถขับรถมาจอดได้เลยที่บริเวณที่ทำการ นอนพักเอาแรงที่ทำการได้เลย หรือจะจองที่พักบริเวณโดยรอบก็มี หรือจะนั่งรถบัสมาลงที่ผานกเค้า แล้วต่อรถสองแถวมาก็ได้ (ไม่ต้องกลัวเหงา มีเพื่อนหารแน่นอน) บริเวณด้านล่างมีของกิน มีห้องน้ำ จัดของจัดอุปกรณ์ให้พร้อม ขาดเหลืออะไรใช้เงินแก้ปัญหาได้เลย 3. เตรียมเอกสารและของใช้ส่วนตัวต่างๆ บัตรประชาชน พาสปอร์ตอุทยาน อุปกรณ์ ของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่หนักเกินไป (เสื้อแขนยาวสักตัว ตอนกลางคืนอากาศจะเย็น ยิ่งช่วงหน้าหนาวนี้อาจสะเทือน) ผ้าขนหนู ไฟฉาย แบตสำรอง หมวกกันแดด ยากันยุง รองเท้าที่ค่อนข้างยึดพื้นได้ดี (กันลื่น) ไม่ต้องถึงกับของดีราคาแพง เอาที่เราใส่แล้วรู้สึกไม่ลื่นแล้วใส่สบาย ไม่หนักเกินไป เดินได้ดีทั้งพื้นแห้งพื้นเปียก ไม่อุ้มน้ำ (เดี๋ยวนี้มีหลายยีห้อเลย) เพราะบางทีอาจจะต้องเจอน้ำ (ลำธาร น้ำตก) หรือใส่อาบน้ำ เอาให้จบๆ ในคู่เดียวจะได้ไม่ต้องขนอะไรเยอะ ถ้าหน้าฝนควรพกยากันทากไป หน้าอื่นๆ ไม่ค่อยมี ที่สำคัญ อย่าลืมเตรียมยารักษาโรค ยาประจำตัว เผื่อฉุกเฉิน เราต้องรู้จักดูแลตัวเองก่อน เพราะถ้าเจ็บหรือป่วยไปนอกจากเราจะไม่สนุกแล้วอาจจะพาคนอื่นไม่สนุกไปด้วย 4. การขึ้นภูกระดึงจะต้องมีการลงทะเบียน ทำประกัน เช่าอุปกรณ์ต่างๆ จองลูกหาบ ถ้าไปหลายๆ คน แนะนำให้แบ่งกันไปจอง จะได้ไม่เสียเวลา และก่อนที่ลูกหาบจะหมด (ช่วงเทศกาลนี้ลุ้นมาก แนะนำไปเช้าๆ เคยไปตี 05.00 น. แถวยาวแล้ว) แนะนำเอาสัมภาระไปที่อาคาร 4 ก่อนทางขึ้นภู ซื้อแท็กติดกระเป๋า เขียนชื่อ สกุล เบอร์โทรทุกใบ แล้วนำไปติดกับสัมภาระทุกชิ้น นำไปชั่งน้ำหนักกับเจ้าหน้าที่แล้วไปจ่ายเงินอีกทีบนยอดภู (กิโลละ 30 บาท) แบ่งกระเป๋าให้ดีๆ (ใบไหนฝากลูกหาบ ใบไหนติดตัว บางครั้งลูกหาบอาจมาช้ากว่าเราก็ได้) 5. สัญญาณมือถือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีพร้อม แต่หลัง 22.00 น. ไปแล้ว จะไม่มีสัญญาณ แนะนำกินยาคลายกล้ามเนื้อแล้วหลับยาวๆ เอาแรง และจะได้ไม่ต้องทนเสียงกรนจากเต๊นท์รอบข้าง ถ้าใครต้องการชาร์จแบตกับเจ้าหน้าที่เค้ามีค่าบริการ ชั่วโมงละ 20-40 บาท หรือไม่ก็ไปอุดหนุนร้านข้าวแล้วขอชาร์จแบตไปด้วย 6. พวกอุปกรณ์ที่นอน ใครมีพร้อมก็เอาไปเองได้ แล้วจ้างลูกหาบ แต่ถ้าใครไม่มีที่อุทยานก็มีให้เช่า ทั้งเต๊นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน ยิ่งช่วงหน้าหนาวใครอยากได้ผ้านวมเค้าก็มีให้เช่า หรือถ้าใครอยากนอนบ้านพักอุทยาน ก็มีให้แต่ต้องจองในระบบล่วงหน้า 60 วัน จองที่พักอุทยาน หรือโทร 042810834 ใครที่ต้องการเช่าจักรยาน เช่าได้คันละประมาณ 400 บาท มีให้ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ถามว่าการเช่าจักรยานจำเป็นไหม ถ้าบอกในมุมนักท่องเที่ยวก็ดี เพราะจะได้มีภาพตอนปั่นจักรยาน สนุก ช่วยลดระยะทางไปได้เยอะเลย แต่ในขณะเดียวกันการมีจักรยานก็อาจเป็นภาระและทำให้เราเป็นผู้ประสบภัยได้ในเวลาเดียวกัน เพราะต้องปั่นบนภูที่เป็นทราย และถ้าจะไปเส้นทางน้ำตก ต้องจอดไว้แล้วเดินลงไป ยิ่งถ้าฝนตกแล้วละก็ได้บันเทิงแน่นอน 7. ท่องเที่ยวแบบไหนดี บางคนไปซ้อมวิ่งเทลกัน อาจจะไม่แปลกใจที่เห็นคนวิ่งขึ้นลงเป็นว่าเล่น แต่ถ้าใครไปแบบ 2 วัน 1 คืน เมื่อขึ้นไปแล้วถึงบ่ายๆ เดินเที่ยวจุดใกล้ๆ หรือนอนเอาแรงแล้วเย็นๆ เดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก อยู่ห่างจากศูนย์วังกวางประมาณ 2 กิโลเมตร (จุดกางเต๊นท์) เป็นที่นิยมมาชมพระอาทิตย์ตกในเย็นวันแรก หรือไม่มีเวลาและแรงเดินไปผาหล่มสัก แล้วกลับมากินหมูกระทะแล้วนอนเอาแรง เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นก่อนกลับ หรือถ้าใครมีเวลาก็ไปแบบ 3 วัน 2 คืน วันแรกอาจจะแค่ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก อีกวันตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น เช่าจักรยาน หรือเดินไปเส้นน้ำตก ต่อไปยังเส้นหน้าผา (มีของกิน แต่ให้เตรียมมาด้วยเผื่อหิวระหว่างทาง) แล้วมาดูพระอาทิตย์ตกที่จุดไฮไลท์ตามภาพในโปสการ์ดที่ผาหล่มสัก (14.00 น. ไป ห้ามเดินเข้าเส้นทางน้ำตกเป็นอันขาด เพราะอันตราย อาจมีเจ้าถิ่นมาหาอาหาร) สำหรับคนที่ปั่นจักรยานมาชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก รอปั่นกลับพร้อมเพื่อนๆ จะมีเจ้าหน้าที่นำขบวนกลับ แต่ถ้าใครเดินมาแนะนำให้รีบออกมาก่อน (ถ่ายรูปที่ผาหล่มสักแล้วเดินมาดูพระอาทิตย์ตกที่ผาอื่นๆ ระหว่างทางกลับ) เพราะมืดเร็วมาก (พกไฟฉายไปด้วยและหนาว) 8. เงินสด!! ทั้งหมดทั้งมวล ถ้าคุณขี้เกียจจะแบกไป ใช้เงินแก้ปัญหาจบ!! เพราะที่ภูกระดึงมีร้านค้ามากมาย โดยเฉพาะของกิน (ไม่ต้องกลัวอดตาย) น้ำดื่ม (แบบรองดื่มจากอุทยานก็มี แนะนำให้เก็บขวดเปล่าไว้กรอก) Cafe บนยอดยังมีเลย ใครเมื่อยร้านนวดก็มีนะ ร้านเสื้อผ้าของที่ระลึก รองเท้าก็มี (โชคดีถ้าเจอไซส์ที่พอดี) หรือถ้าใครไม่อยากอาบน้ำเย็น สามารถไปขออาบน้ำอุ่นได้ที่ร้านค้า (แต่มีค่าบริการเพิ่ม เคยเจอ 80 บาท) แนะนำไปใช้บริการก่อนช่วงเย็น เพราะร้านค้าอาจจะไม่ว่างและใช้แก๊สในการหุงต้ม หรือถ้าใครลงมาแล้ว ด้านล่างของที่ทำการก็มีร้านซาลอนอีกด้วยนะ ใครขี้เกียจก็จ้างลูกหาบ รับรองได้ใช้เงินกันตั้งแต่ตีนภูจนถึงยอดภูแน่นอนจ้า แต่ถ้าช่วงเทศกาลอาจจะต้องเตรียมไปส่วนตัวบ้าง เพราะของอาจจะไม่เพียงพอ (ไม่แนะนำให้โอน เผื่อไม่มีสัญญาณ หรือแบตหมด) 9. สามารถติดต่อขอเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึง เก็บขยะขนขยะได้ และที่นี้มีตราปั๊มอุทยานให้ปั๊ม 2 อย่าง คือแบบที่ตราปั๊มอุทยานทั่วไป (ด้านล่าง) และตราปั๊มที่มีคำว่าผู้ชิตภูกระดึง ซึ่งสามารถปั๊มตรานี้ได้เฉพาะบนยอดเท่านั้น (เดี๋ยวนี้มีลายเซ็นต์เจ้าหน้าที่แบบสวยๆ เก๋ๆ ให้ล่ากันอีกด้วย) 10. ไปคนเดียวไม่เหงา รับรองได้เพื่อนใหม่ ได้เจอผู้คนมากมาย ทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กๆ ที่พ่อแม่พร้อมที่แบกลูกขึ้นเขา วัยรุ่นที่ยังสนุกและหาประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือวัยเกษียณยิ่งมีเลย บางคนใส่ชุดคอสเพลย์ขึ้น รับรองสนุก ไม่เหงา เหมือนเดินสวนหลังบ้าน บันเทิงแน่นอน ส่วนตัวเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดอยากขึ้นภูกระดึง เพราะเรื่องความสะดวกสบาย ไปแล้วจะได้เห็นธรรมชาติไหม ที่ไหนได้ไปแล้ติดใจสนุกบันเทิงเริงใจมาก ธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ มือเก๋าก็ไปได้ รับรองครบจบทุกรสชาติแน่นอนค่ะ ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (Phu Kradueng) หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย 42180 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SFoAbSq2wi61pn8e7 เปิด-ปิด : ช่วงเดือนตุลาคม - เดือนพฤษภาคมของทุกปี (วัน จ.-พฤ. เวลา 06.00-13.00 น. วัน ศ.-อา. เวลา 05.30-13.00 น. **หมายเหตุ : หลังจากเวลา 13.00 น. ไม่อนุญาตให้ผ่านขึ้นเขาทุกกรณี!!) โทรศัพท์ : 0 4281 0833 จองบ้านพัก : 0 4281 0834 อีเมล : pkdpark2505@gmail.com Facebook : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park เที่ยวเอง ถ่ายเอง หลงเอง Longyoonee : หลงอยู่นี เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !