ใครที่มีแผนเที่ยวประเทศเบลเยียม แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อเมืองบรูช Brugge อยู่ในลิสท์แน่ๆ ด้วยความที่เมืองนี้มีความโด่งดังเรื่องของเมืองที่น่ารัก บางคนให้นิยามว่าเหมือนอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยายกันเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาไปพิสูจน์กันค่ะ ว่าสวยเหมือนที่เค้าว่ากันรึเปล่า เมือง Brugge อยู่ทางเหนือของประเทศเบลเยียม อยู่ห่างจากเมืองหลวงอย่างเมือง Brussel โดยรถไฟ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ในอดีตเมืองนี้ถือเป็นเมืองท่าสำคัญ เนื่องจากติดกับทะเล แต่ด้วยเวลาทำให้แม่น้ำตื้นเขิน การเดินเรือจึงมีการเปลี่ยนเส้นทางไปเมือง Ghent และ Antwerp แทน ทำให้เมือง Brugge แห่งนี้ยังคงเหลือประวัติของความเจริญรุ่งเรือง และยังมีความหลงเหลือของความสวยงามในสมัยก่อนไว้ได้อย่างสวยงามจริงๆ จุดเด่นของเมืองนี้เลยก็คือการมีแม่น้ำลำคลองตัดผ่านเข้ามาในตัวเมือง และริมคลองก็มีตึกรามบ้านช่องสมัยก่อน ที่ก่อสร้างด้วยอิฐ และถนนที่ยังคงความโบราณด้วยหินก้อนใหญ่ (คือสวยแหล่ะ แต่ตอนลากกระเป๋า ก็ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน) เราพักกันที่ Novotel Brugge Centrum https://intrend.trueid.net/post/495375 ค่ะ ตามอ่านรีวิวโรงแรมได้เลย จุดแรกที่เราอยากพาไปชมเลยก็คือบริเวณ Belfort Belfry หอระฆังเบลฟอร์ท หอระฆังของเมือง Brugge สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1220 เคยถูกไฟไหม้หลายครั้งและก็ได้รับการบูรณะมาเรื่อยๆ และหอระฆังแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ.1999 หอระฆังแห่งนี้มีความสูงถึง 83 เมตร หากต้องการขึ้นไปชมวิวก็จะต้องผ่านด่านบันได 366 ขั้น แต่งานนี้เราขอบายนะคะ น่าจะไม่ไหวจริงๆ แต่จุดบริเวณนี้ก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องมาแวะชมนะคะ สวยงามมากค่ะ จุดถัดไปเราจะไปชมบรรยากาศการล่องเรือกันค่ะ เราเลือกของบริษัท Boten Stael บริษัทเรือทัวร์ของเมือง Brugge จริงๆ มีหลายบริษัทมากนะคะ แล้วก็ราคาเท่ากันค่ะ ที่เราเลือกบริษัทนี้เพราะอยู่ใกล้โรงแรมและอยู่ในบริเวรจุดช้อปปิ้งค่ะ แบบว่าเอาสะดวกว่าค่ะ ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 15 ยูโร เด็กคนละ 9 ยูโรค่ะ เรือจะเป็นเหมือนเรือหางยาวที่ไม่มีหลังคา จุคนได้ค่อนข้างเยอะ หากใครอยากดูบรรยากาศดูตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://youtu.be/MU4xI01lQHU?si=XdMGhrZT-_TUeG98 ใครมาถึงก่อนต้องเข้าไปนั่งด้านหลังเรือนะคะ ไม่สามารถเลือกว่าอยากนั่งตรงนี้ก็นั่งได้เลย คือก็เพื่อให้คนที่รอด้านหลังได้เข้าเรือได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ ในการชมเมืองทางเรือ คนขับเรือเค้าก็จะบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และอาจจะมีดัทช์ ขึ้นอยู่กับคนบนเรือว่ามีเชื้อชาติใดบ้าง เราก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่โดยรวมนั่งชมบรรยากาศเมือง สวยสุดๆ ไปเลยค่ะ ส่วนพิพิธภัณฑ์นั้น ที่เมือง Brugge ก็มีหลายที่เลยนะคะ ที่เด่นดังเลยก็คงเป็น พิพิธภัณฑ์เบียร์ เพราะเบลเยียมเองก็มีความเด่นดังเรื่องเบียร์ ส่วนเราไม่ได้เข้าพิพิธภัณฑ์นะคะ แต่เราไปถ่ายรูปกับ Wall of beer มา เยอะจริงๆ ซึ่ง Wall นี้จะอยู่ใกล้ๆ กับ Belfort จะเข้าตรอกไปนิดๆ นะคะ ซึ่งก็จะมีร้านขายเบียร์อยู่ด้วย อีกที่หนึ่งที่จะพาไปก็คือ Minnewaterpark สวนน้ำแห่งความรัก ซึ่งถ้าเดินมาจากสถานีรถไฟก็จะมีทางเดินชมบรรยากาศธรรมชาติมาเรื่อย ๆ ชิลดีนะคะ และจุดไฮไลท์คือบริเวณสะพานที่จะมีเมือง Brugge เป็นฉากหลังสวยงามมากค่ะ สวนไม่ได้ใหญ่มากนะคะ เดินแป๊บๆ ก็รอบ แต่ก็เหมาะสำหรับเดินชิว นั่งดูริมน้ำบรรยากาศดีค่ะ ส่วนบริเวณจุดถนนคนเดินทั้งหลายก็จะมีร้านค้า ของฝาก รวมถึง Waffle ,chocolate ของหลากหลายยี่ห้อดังๆ เต็มสองข้างทางเลยค่ะ คือลองชิมของหลายๆ ร้านดูนะคะ เราไม่กล้าบอกว่าอันไหนอร่อย เพราะแต่ละร้านก็มีความแตกต่างกัน แล้วก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน โดยรวมเราชอบเมืองนี้ที่สุดในเบลเยียมเลยค่ะ ด้วยบรรยากาศน่ารักอบอุ่น แบบพูดคำว่าน่ารักไม่หยุด บรรยากาศดี ผู้คนน่ารัก ไม่โดนเหยียดเลยค่ะ อาจจะเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ดีงามมาก ใครมาเบลเยียม ห้ามพลาดเมืองนี้อย่างเด็ดขาดค่ะ รูปภาพและบทความทั้งหมด By Psychiartist เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !