พิกัดเที่ยวฮ่องกง ชมงานนิทรรศการศิลปะ ตามแลนด์มาร์กทั่วเมือง

     ฮ่องกง เตรียมเปิดประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมสุดตระการตาครั้งใหม่ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยจะเปิดโอกาสให้นักเดินทางนั้น ได้มาสัมผัสกับขุมทรัพย์แห่งงานศิลป์และวัฒนธรรมกันแบบใกล้ชิดเลยทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมานั้น งานทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของฮ่องกงเอง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี่เลยค่ะ ครั้งนี้ทางฮ่องกงก็เลยมีงานนิทรรศการศิลปะใหม่ๆ ที่จะพาเมืองไปสู่งานศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลกนั่นเองค่า

     โดยงานนิทรรศการนี้ จะพลิกโฉมพื้นที่สาธารณะตามแลนด์มาร์กต่างๆ รอบเมืองให้กลายเป็นแกลเลอรีจัดแสดงงานศิลปะสุดพิเศษนั่นเอง ซึ่งจะมีตั้งแต่

• งานปั้น ‘น้องกัมมี่แบร์’ สูง 8 เมตร ที่ จิมซาจุ่ย
• นิทรรศการ ARTE Museum ชื่อดัง ที่จัดนอกเกาหลีเป็นครั้งแรก
• นิทรรศการ ‘ยาโยอิ คุซามะ’ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
• ‘ชิ้นงานสะสมของเจ้าชายพระองค์ต่างๆ แห่งประเทศลิกเตนสไตน์’ โดย พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง
• การแสดงผลงาน ‘โมเนต์’ แบบ Immersive เป็นครั้งแรก

     ประติมากรรม กัมมี่แบร์ 8 เมตร ขนาดยักษ์ ที่ หอนาฬิกาจิมซาจุ่ย

ในระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 – กลางเดือนธันวาคม 2565 | ใกล้หอนาฬิกาจิมซาจุ่ย

     มูลนิธิ First Initiative Foundation จะนำประติมากรรมขนาดยักษ์ในชื่อ "TICK TOCK, TICK TOCK" มาจัดแสดงข้างแลนด์มาร์กชื่อดังของฮ่องกง อย่างหอนาฬิกาจิมซาจุ่ย โดยนิทรรศการครั้งนี้จะยกผลงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดของศิลปินชาวอเมริกัน WhIsBe มาไว้ถึงเกาะฮ่องกง โดยจะเป็นรูปปั้นสีแดงขนาดยักษ์มีความสูงกว่า 8 เมตร หรือเทียบได้กับตึก 3 ชั้น ผสมผสานความโมเดิร์นของกัมมี่แบร์ ขนมสุดรักของใครหลายๆ คน เข้ากับจุดเด่นของไดโนเสาร์จากยุคก่อนประวัติศาสตร์

     นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงรูปปั้นนกเป็ดน้ำในขนาดที่เล็กลงมาอยู่ที่ความสูง 2.5 เมตรในบริเวณใกล้เคียง ข้างท่าเรือฮาเบอร์ ฟรอนต์ ที่โด่งดังของเมือง โดยนิทรรศการนี้จะเริ่มในวันที่ 17 พฤศจิกายน ต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนธันวาคม ยิ่งไปกว่านั้น จะมีการเติมเต็มประติมากรรมทั้งสองด้วยเทคนิคดิจิทัลที่มาสร้างความสนุก เช่น เอฟเฟกต์ AR และฟิลเตอร์ Instagram เพื่อยกระดับประสบการณ์และให้เก็บความทรงจำอันแสนสดใสอีกด้วยค่ะ

================

 นิทรรศการ Immersive Media Art Exhibition ARTE M ที่ K11 HACC
ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2565 – ธันวาคม 2566 | 2F K11 HACC K11 ATELIER King's Road

    โดย นิทรรศการศิลปะ Immersive Media แบบชั่วคราวนี้ จะเป็นนิทรรศการชื่อดังที่จะมาปักหลักที่ฮ่องกงยาวถึง 15 เดือนเต็มด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นการจัดแสดงงานนอกประเทศครั้งแรก! ซึ่งการแสดงชุดนี้เอง ก็รังสรรค์มาจากฝีมือชั้นเลิศของบริษัทออกแบบด้านดิจิทัลในประเทศเกาหลีอย่าง d’strict ที่อยู่เบื้องหลังของงานศิลปะจัดวาง “WAVE” ที่ COEX ในกรุงโซลนั่นเองค่ะ

     เป็นหนึ่งในงานจัดแสดงที่ได้รับความนิยมอย่างล้นเหลือ ในครั้งนี้ ผลงาน Media Art อันยอดนิยมที่มีมากถึง 6 ชิ้นด้วยกัน จะบินลัดฟ้าเพื่อมาให้ได้ชมกันอย่างจุใจภายใต้ธีม "Eternal Nature" จากนั้นจะย้ายไปจัดแสดงที่ 11 SKIES อย่างถาวรในช่วงปลายปี 2023 หรือต้นปี 2024 ซึ่งเราก็จะได้ชมผลงานใหม่ๆ กันต่อไปอีกด้วยค่ะ

================

 เปิดประสบการณ์ใหม่ใน ย่านวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก M+ เฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปี ด้วย

นิทรรศการ “ยาโยอิ คุซามะ: พ.ศ. 2488 - ปัจจุบัน” โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 – 14 พฤษภาคม 2566 | M+ เขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก (WKCD)

     M+ เฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปี จัดงาน “Yayoi Kusama: 1945 to Now”  (ยาโยอิ คุซามะ: พ.ศ. 2488-ปัจจุบัน) โดยจะเป็นนิทรรศการผลงานเก่าๆ ของศิลปิน ยาโยอิ คุซามะ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย (หากไม่นับรวมที่เคยจัดมาในญี่ปุ่น) งานนี้จะรวมผลงานมากกว่า 200 ชิ้นจากคอลเล็กชันหลักในพิพิธภัณฑ์ และคอลเล็กชันส่วนตัวของนักสะสมจากทั่วเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเลยค่ะ

     รวมไปถึงคอลเล็กชันจาก M+ และคอลเล็กชันของศิลปินเอง ที่ผู้เข้าชมอย่างเราจะได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับการรังสรรค์ชิ้นงานตลอดช่วงเวลากว่า 7 ทศวรรษในการเป็นศิลปินของคุซามะ โดยจะเน้นองค์ประกอบที่สร้างสุนทรียะและคำถามเชิงปรัชญาที่โดดเด่นอยู่ในทุกชิ้นงานเลย พร้อมทั้งยังได้ค้นพบพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของศิลปะ นอกจากนี้ ยังมีผลงานใหม่ล่าสุดจำนวนสามชิ้นที่จะมาจัดแสดงอยู่ตามชั้นต่างๆ ของอาคาร M+ อีกด้วยค่ะ

================

พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง นำเสนอ “ศิลปะโอดิสซีย์ : ผลงานชิ้นเอกจากการสะสมของเจ้าชายพระองค์ต่างๆ แห่งประเทศลิกเตนสไตน์” พร้อมสมบัติล้ำค่าจากคอลเล็กชันเจ้าชายแห่งประเทศลิกเตนสไตน์ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 – 20 กุมภาพันธ์ 2566 | Gallery 8 พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง (HKPM)

     นิทรรศการที่จะยกสมบัติล้ำค่ากว่า 120 ชิ้น ในคอลเล็กชัน Princely Collection of Liechtenstein อันทรงเกียรติมาสู่ฮ่องกงเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงภารกิจของ HKPM ในการผลักดันความเชื่อมโยงระหว่างอารยธรรมโลก โดยจะแบ่งตามหัวข้อออกเป็น 8 ส่วน จัดหมวดหมู่ตามรสนิยมการสะสมงานอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพระองค์ ตลอดจนอิทธิพลอันลึกซึ้งของศิลปะและวัฒนธรรมจีนที่มีต่อศิลปะตกแต่งและสถาปัตยกรรมยุโรปตลอด 400 ปีที่ผ่านมา

     โดยไฮไลต์สำคัญคือการนำเสนอผลงานชิ้นเอกที่ใหญ่ที่สุดของเมืองจากการวิจิตรบรรจงของจิตรกรบาโรก โดยย้อนกลับไปในสมัยศตวรรษที่ 17 อย่างปีเตอร์ พอล รูเบนส์และอันโตน ฟัน ไดก์ ผู้ซึ่งมีฝีมืออันน่าทึ่งและให้สีสันที่สดใส จึงทำให้ผลงานของพวกเขาเป็นที่ต้องการในกลุ่มราชวงศ์ยุโรปเป็นอย่างมากค่ะ    

================

Cultural Plaza ใน ย่านวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก นำผลงานชิ้นเอกอย่าง “En Voyage with Claude Monet” มาให้ทุกคนได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2565 – 15 มกราคม 2566 | Cultural Plaza ย่านวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก

    โดย Cultural Plaza ในย่านวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก ซึ่งตั้งอยู่ติดกับศูนย์ Xiqu Centre จะมีการแสดง “En Voyage with Claude Monet” ที่จะจัดแสดงแสงสีเสียงแบบ 360 องศา เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์งานศิลปะแบบ Immersive ครั้งแรกในฮ่องกงของศิลปินชาวฝรั่งเศสท่านนี้เลยค่ะ การแสดงนี้จัดสรรโดยสตูดิโอสุดสร้างสรรค์สัญชาติเบลเยี่ยม Dirty Monitor และออแกไนเซอร์ด้านเทคโนโลยีศิลปะในเมืองอย่าง ChillHoYeah โดยผู้เข้าชมจะได้พบกับผลงานชิ้นเอกของ Monet ประมาณ 200 ชิ้น ตลอดเส้นทางการเดินชมที่ใช้เวลา 36 นาที โดยจะรวมไปถึงผลงานอย่าง “Impression, Soleil Levant” (1872) ซึ่งเป็นผลงานภาพเขียนที่เกิดขึ้นก่อนกระแส Impression จะได้รับการยอมรับในเวลาต่อมานั่นเองค่ะ

================