"เงาสะท้อนน้ำบ้านอีต่อง" Blue Hour ขอตะโกนดังๆ ว่า “สวย” ภาพนี้ไม่ใช่แค่สวย แต่คือบทกวีของการเปลี่ยนผ่าน ที่เห็นเป็นเรือนแถวยาวริมน้ำ สะท้อนเงาแสงไฟในบ่อน้ำนิ่ง… เบื้องหลังคือเรื่องราวของการรีแบรนด์ บ้านไม้เก่าถูกแทนที่ด้วยโฮมสเตย์สไตล์ Loft **ลองเพ่งหาบ้านเก่า เหลือกี่หลัง? ใบ้นิด…ที่ไม่มีเงาสะท้อนน้ำไงล่ะ** แต่ยังใจฟูเมื่อเห็นอากงอาม่า นั่งล่าเรื่องราวอยู่ท้ายตลาด นอนบ้านอีต่อง 2 คืนทำให้เก็บภาพบรรยากาศ บ้านอีต่อง ได้ทั้งเช้าและเย็นได้ทั้งสองวัน มีภาพสวยๆ มาให้ชมกันเยอะเลยครับ EP.1 – เปิดกล่องความทรงจำ ที่ชื่อว่า “อีต่อง” บ้านอีต่องในวันนี้ ถูกมองเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีหมอกคลอเคล้า "วิวหลักล้าน" แต่สำหรับผม มันคือกล่องแห่งความทรงจำใบใหญ่ ที่ถูกวางอยู่ตรงเชิงเขา—ไม่ไกลจากรอยตะเข็บชายแดนพม่า ผมเป็นมนุษย์เจนเบบี้บูม…คนที่เคยเห็น “โรงหนังเฉลิมไทย, เฉลิมกรุง, เฉลิมเขต” ในวันที่ยังไม่เลือนหายจากเมือง คนที่ยังทันช่วงปลายของความคึกคักในพื้นที่ชายแดนที่ชื่อ “อีต่อง” ที่นี่เคยเป็นเมืองแห่งคนแสวงโชค (อารมณ์อินเดียนน่า โจนส์เลยหล่ะ) มีทั้งเหมืองทอง เหมืองดีบุก โรงหนัง โรงแรม ตลาดใหญ่ และเส้นทางรถบรรทุกวิ่งพลุกพล่านขนถ่ายแร่ พอได้กลับมาเยือนอีต่องในยุคที่เมืองทั้งเมืองเหมือนกาลเวลาเดินช้าลง… หัวใจก็เต้นแปลกๆ เหมือนจะเร็วขึ้นในความเงียบ มีอะไรบางอย่างในที่นี่ ที่ทำให้ผมอยาก “เสพ” มากกว่า “เช็กอิน” บ้านรูปทรงสมัยใหม่สไตล์ Loft ที่ปลูกขึ้นมาเป็นจำนวนมากเพื่อทดแทนห้องแถวไม้ของเดิม ที่ทรุดโทรมจนต้องรื้อถอนออก ผมเลือกจะมา 3 วัน 2 คืน ทั้งที่รู้ว่าคนส่วนใหญ่ใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืนก็พอแล้ว แต่ความรู้สึกมันบอกว่า ครั้งนี้จะไม่ใช่แค่ “เที่ยว” แต่จะเป็นการ “ล้วงลึก” ถึงจิตวิญญาณของหมู่บ้านกลางเขาแห่งนี้ ผมกับแฟนเลือกมาในวันธรรมดา ไม่มีฝูงคน ไม่มีเสียงวุ่นวาย มีแค่เสียงลม วิวภูเขา และความเงียบที่ค่อยๆ แง้มความลับของอดีตออกมาให้เรารับฟัง สะพานไม้เข้าหมู่บ้านอีต่องดั้งเดิม "สะพานเหมืองเร่" มีป้ายเขียนว่าสร้างปี พ.ศ. 2542 ปัจจุบันนิยมเข้าออกอีกด้านหนึ่ง มีโครงเหล็กสภาพเดิมให้เห็น ถัดมาเป็นสะพานปูน กลายเป็นจุดเชคอินผู้มาเที่ยวนิยมแขวนป้ายไม้ไผ่ ที่เขียนข้อความต่างๆ นาๆ ตามความเชื่อ คืนแรกนอนใต้ฟ้า… ถ่ายดาวหมุนกลางลานหญ้า ภาพดาวหมุน💫 เห็นทีไรต้องกลั้นใจครึ่งวิ ไปนอนถ่ายดาวหมุนกลางสนามในเหมืองร้างปิล็อค ตามสูตรความสวยต้องถ่ายไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง⏳…..มาได้ครึ่งทาง 2 ชั่วโมง สะกิดภรรยา “เก็บกล้องกลับห้องพักกันเหอะ……💤” เงียบสงบจนวังเวง😅……(โปรดติดตามรีวิวจัดหนัก ถ่ายดาวหมุน) แค่คิดว่าได้ถ่ายดาวหมุนท่ามกลางหุบเขาก็ยิ้มแล้ว แต่พอถ่ายจริงแค่สองชั่วโมง… บรรยากาศช่าง “วังเวงงงง” จนต้องบอกแฟนว่า เก็บกล้อง📷กลับห้องนอนดีกว่า 😅 ภาพที่ได้ อาจจะไม่ครบสูตร (ไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง) ของสายถ่ายดาวหมุน แต่รู้ไหม? มันคือภาพที่บันทึกความรู้สึกแบบ “อยู่ตรงนั้นจริงๆ” แสงดาวที่โค้งเป็นเส้น กลายเป็นเส้นทางความทรงจำของการมาครั้งนี้ เราเคยอยู่ตรงนั้นจริงๆ อารมณ์ถ่ายดาวยังค้างคามาจากภาพแรก กลับถึงห้องพัก ตะกี้เราถ่ายดาวหมุนหันกล้องไปทางทิศเหนือ เอ....ถ้าเราหันกล้องไปทางทิศใต้ล่ะ จะเกิดอะไรชึ้น?......จัดเลย ถ่ายดาวหมุนต่ออีก 2 ชั่วโมง....เป็นไงล่ะ “บ้านอีต่อง” ไม่ใช่แค่หมู่บ้านปลายทางของรถโดยสาร แต่มันคือที่ซ่อนของความทรงจำหลายยุค…ของคนที่เคยฝัน เคยทำเหมือง เคยอาศัยอยู่ตรงนี้ และของผม…ที่เดินทางย้อนเวลากลับมาหาอารมณ์เหล่านั้นด้วยสายตาของช่างภาพ EP.2 – หมู่บ้านที่ไม่ต้องเร่งรีบ หากจะจัดทริปบ้านอีต่องแบบเบา ๆ 2 วัน 1 คืนก็เอาอยู่ เพราะที่เที่ยวในหมู่บ้านมัน “เดินชิวๆ” ได้จริง ไม่ต้องพึ่งรถ ไม่ต้องใช้พลังมาก ถนนเส้นหลักยาวราวๆ 100 เมตร แต่ครบครันทั้งร้านกาแฟ อาหารเช้า อาหารเย็น ร้านโชห่วย ตลาดเล็กๆ และลานแขวนป้ายขอพรที่กลายเป็นมุมยอดฮิต นอกถนนเส้นหลัก… ก็ยังมีอะไรอีกเยอะให้เสพให้ซึม มี “เหมืองล้างปิล็อค” อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้าน เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ มีวัดเล็ก ๆ เดินขึ้นเขาไม่ไกล แต่มองเห็นได้ชัดจากหมู่บ้าน และถ้าใครสายแคมป์ปิ้ง จะรู้ว่า “โรงเรียนบ้านอีต่อง” ที่มีลานกลางเต็นท์บนเนินเขา วิวดี ลมเย็น มีหมอกยามเช้าแบบไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์เลยจ้า แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้หมู่บ้านนี้ไม่เหมือนที่อื่น…คือ.... “จุดรวมพลของสายเทรล เทร็คกิ้ง เดินป่า” บ้านอีต่องคือประตูสู่เขาช้างเผือก — เส้นทางเดินป่าในฝันของใครหลายคน ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินครึ่งวัน แต่ต้องใช้หัวใจเต็มร้อย กลุ่มสายเทร็กกิ้งพวกนี้ แค่เดินผ่านก็แยกออกจากนักท่องเที่ยวทั่วไปได้เลย มีภาษากายของคนที่พร้อมลุย: เสื้อผ้าแบบเดินป่า เป้ใบใหญ่ บางคนมีไม้เท้า trekking ทุกคนดูนิ่ง สงบ ไม่เอะอะโฉ่งฉ่าง แฟนผมแอบกระซิบว่า “พวกเค้าคงต้องเก็บพลังไว้เยอะสำหรับขึ้นเขาช้างเผือก” ฟังแล้วก็พยักหน้าเออออ… เพราะเราสองคนแค่เดินถ่ายภาพเล่นรอบหมู่บ้านก็หมดแรงแล้ว 😅 ผมใช้เวลา 3 วันเต็มอย่างคุ้มค่า เดินเก็บภาพทุกซอกทุกมุม นอนสองคืนในสองสถานที่ เก็บทั้งแสงเช้า แสงเย็น ลองถ่ายดาวหมุน ถึงแม้จะไม่มีทางช้างเผือกขึ้นมาให้เห็นในช่วงนี้ แต่มันก็ได้ภาพที่ “ลึก” กว่าแค่เห็นดาวบนฟ้า เพราะสิ่งที่ได้คือ “อารมณ์ของพื้นที่” …แบบที่กล้องไม่สามารถแต่งเพิ่มได้ EP.3 – เหมืองล้างปิล็อค: ความงามที่ซึมลึกยามเช้า เช้านั้น…แสงอุ่นเริ่มไต่เขาขึ้นมาแบบช้า ๆ อุณหภูมิในหมู่บ้านอีต่องยังเย็นกรุ่น และเราเดินออกมาจากทางเข้าหน้าหมู่บ้านเพียงนิดเดียว ฝั่งตรงข้ามก็เจอกับ “เหมืองล้างปิล็อค” ที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต อาคารไม้สองชั้นทรงยุโรปตั้งอยู่เงียบๆ ริมบ่อน้ำ มีบ่อปลาคราฟ เดินเล่นไปเรื่อยเจอบ้านทรงยุโรปอีกมีปล่องเตาผิง มีเนินดินเล่นระดับ มีบันไดที่มีท่อนไม้เรียงเป็นขั้นที่ไต่ไปตามธรรมชาติของพื้นที่ มองเผิน ๆ เหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนังย้อนยุคของอังกฤษหรือหนังอเมริกันคลาสสิกยุค 50s ที่พระเอกนางเอกนัดเจอกันใต้ต้นไม้ในยามเช้า ที่นี่…ไม่มีคน ไม่มีเสียงเครื่องจักร มีแค่เงาไม้และแสงแดดที่สาดผ่านยอดเขา ต้นหญ้าไม่ต้องปรุงแต่ง ใบไม้ปล่อยให้ร่วงตามฤดูกาล บ่อน้ำที่อยู่ขอบชายเหมืองมีปลาคราฟว่ายอยู่จริง ๆ สีสดตัดกับน้ำใส แค่ยืนมองก็เหมือนใจจะนิ่งไปเฉยๆ ผมถือกล้องไว้ในมือ แต่หลายครั้งต้องลดลงเพื่อใช้ “ตามอง” ให้เต็มตา สะพานเล็กๆ ที่ทอดผ่านน้ำ ลำธารแคบ ๆ ที่ลัดเลาะไปกับโขดหิน ต้นไม้สูงที่ขึ้นเรียงกันอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องแต่ง ไม่ต้องจัด คือ “ความละมุนที่ไม่ต้องขออนุญาตใคร” เดินต่อไปอีกนิด เจอน้ำตกเล็กๆ ที่ชื่อว่า “ปิล็อค” ไหลลงมาเบาๆ เป็นเสียงที่ช่วยฮีลใจ เหมือนจะบอกเราว่า…ที่นี่ไม่ได้ต้องการคำบรรยายใดๆ แค่ให้เราอยู่กับมันเงียบๆ ก็พอแล้ว แล้วผมก็เดินไปเรื่อยๆ…เรื่อยจนใจตัวเองสะกิดเบาๆ ว่า “กลับเถอะ” EP.4 – ฮีลหัวใจต่อ กับจุดเช็กอินรอบนอกบ้านอีต่อง บ้านอีต่องในพาร์ทก่อน ผมวางกล้องลงพร้อมถอนใจเบาๆ ว่า “มันใช่ มันจบ มันลึกดีจริง” แต่เอาเข้าจริง หัวใจที่เพิ่งซึมซับมา มันก็อยากเดินต่อ... อยากออกนอกหมู่บ้านอีกนิด เพื่อให้เรื่องราวมันอิ่มเอมยิ่งกว่าเดิม ผมเลยหยิบ 3 จุดเช็กอินรอบนอกมาเล่าต่อ เผื่อใครอยากตามรอย หรือเลือกเส้นทางที่อินในแบบของตัวเอง (พร้อมสูตรเที่ยวที่ผมเคยลองมาแล้วทั้งสองแบบ!) 1️⃣ เนินช้างศึก 🌄 – จุดชมวิวที่กลั้นหายใจไม่ได้ เนินช้างศึก เดิมเป็นฐานปฏิบัติการทหาร มีประวัติการสู้รบจริงจัง มีอนุสาวรีย์ทหารกล้า ตั้งอยู่เพื่อรำลึกถึงผู้เสียสละ แต่วันนี้เปลี่ยนบริบทใหม่เป็นจุดชมวิวที่ใครได้มายืน…ต้องยืนนิ่ง ตรงนี้ผมแนะนำให้มาช่วงเช้าตรู่ – พระอาทิตย์ขึ้น จะเห็นทะเลหมอกบางๆ คลุมชายแดนไทย–พม่า หรือถ้ามาช่วงเย็น – ก็ได้อารมณ์แดดลับฟ้าพร้อมเสียงลมตีหน้าเบาๆ มีลานกางเต็นท์ด้วย สำหรับสายแคมป์ที่อยากนอนกับธรรมชาติแท้ๆ (ภาพประกอบเป็นช่วงเย็นพระอาทิตย์กำลังตก) 2️⃣ น้ำตกจ๊อกกะดิ่น 💦 – เย็นง่ายๆ ใกล้เมืองเหมือง จากบ้านอีต่อง ขับรถเข้าไปไม่ไกลก็ถึง จอดรถ เดินต่ออีกนิดเดียว ก็เจอเสียงน้ำตกกระทบหิน น้ำตกจ๊อกกะดิ่นไม่ได้ใหญ่โต แต่ฟีลดีมาก แสงลอดต้นไม้ลงมาแบบพอดีๆ จะมาเล่นน้ำเบาๆ หรือแค่เอาเท้าจุ่มก็สดชื่น ที่สำคัญ – มันเป็นน้ำตกที่ “ถ่ายภาพยังไงก็สวย” เพราะฉากหลังมันซื่อ มันนิ่ง แต่มันมีความรู้สึกซ่อนอยู่ 3️⃣ เหมืองสมศักดิ์ ⛏ – ทางโหด แต่มีเรื่องเล่า ตรงนี้พี่ขอพูดแบบ แฟร์ๆ เลยว่า แนะนำแบบ 50/50 – ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวทั่วไป แต่คือประวัติศาสตร์ที่หายใจได้ เหมืองสมศักดิ์คืออดีตเหมืองดีบุกยุคเฟื่องฟู มีถนนลำเลียงแร่จากบนเขาลงไปยังเมืองทองผาภูมิ แต่พอเหมืองปิดตัว คุณสมศักดิ์เจ้าของเสียชีวิต ถนนก็หายตามไปเหมือนไม่เคยมีอยู่ ตอนนี้เหลือเพียง “ป้าเกลน” ภรรยาของคุณสมศักดิ์ ที่อยู่ประคองพื้นที่ไว้แบบเดี่ยวๆ โรงเรือนเก่าเปลี่ยนเป็นบ้านพัก มีของเก่าๆ จัดแสดงแบบเรียบง่าย แต่ก็อย่างที่บอก… ทุกอย่างโทรมลงเรื่อยๆ เพราะไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติม นักท่องเที่ยวที่จะเข้าถึงที่นี่ได้ ส่วนใหญ่เป็นสายลุย ทั้งรถออฟโรด มอเตอร์ไซค์วิบาก – ผมกับแฟนนั่งรถ 4x4 เหมาคัน (ติดต่อได้ที่ลานจอดรถหมู่บ้าน) ค่ารถ 1,500 บาท กระเทือนลำไส้ขั้นสุด แต่มันก็ได้ประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง 🎒 แนะนำทริปแบบ 2 สูตร ใครอินสายไหนก็เลือกได้เลย สูตร 1: ไป น้ำตกจ๊อกกะดิ่น ตอนบ่าย – แล้วไปปิดวันที่ เนินช้างศึก รอพระอาทิตย์ตกฉ่ำ ๆ สูตร 2: ตื่นเช้าไป ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เนินช้างศึก – แล้วแวะ น้ำตกจ๊อกกะดิ่นต่อในแสงใสใส สูตร 3:ใคร “มีใจเกินร้อย” – ค่อยขยับไปเหมืองสมศักดิ์ แต่ต้องเตรียมใจกับทางฝุ่น ทางโคลน และทางชัน ไม่งั้น… หัวใจก็เป๋ก่อนถึงเหมือง 😂 ได้เหมือนกัน 💬 บทสรุปจากที่นั่งมองฟ้าแล้วรู้สึกว่า "อีต่อง" มีมากกว่าที่เห็น บางจุดคือที่เที่ยว บางจุดคืออดีต บางจุดคือร่องรอยของคนที่เคยอยู่ ผมไม่ได้ไปเพื่อเช็กอิน แต่ไปเพื่อ “เช็กอินไซด์ตัวเอง" ว่าโลกใบนี้ ยังมีที่เงียบๆ ให้เราได้ฟังเสียงหัวใจอยู่บ้าง 📷 ภาพประกอบคอนเท้นท์โดยครีเอเตอร์ ชายสาโบสถ์ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !