สวัสดีค้าบบบบบ คุณผู้อ่านเคยไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านเราที่เต็มไปด้วยธรรมชติและวัดไหมครับ ฮั่นแน่............น่าจะเดากันออกแล้วใช่ไหมครับว่ามันคือที่ไหน ประเทศพม่านั่นเองครับ สำหรับสถานที่ที่ผมจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้ไปสักครั้งในชีวิต นั่นคือไจ่ทิโย่ หรือ พระธาตุอินทร์แขวน ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าครั้งนี้ผมไปโดยไม่มีแพลนอะไรเลยครับคุณผู้อ่านทุกท่าน เป็นการกลับไปที่ไร้จุดหมายมาก ตอนนั้นเป็นช่วงฝนพอดีด้วย บอกเลยว่าธรรมชาติ ต้นไม้ สภาพอากาศ เป็นใจมาก สำหรับคนที่ชอบหน้าฝนอย่างผมแล้ว การได้โดนฝนชโลมปรอยๆขณะท่องเที่ยว มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ และที่สำคัญสภาพอากาศเย็นสบายมากๆครับ การไปครั้งนี้ผมได้แวะ2 สถานที่ ที่ถ้าพูดถึงประเทศพม่า คุณผู้ชมผู้อ่านต้องนึกถึงนั่นคือเจดีย์ชเวดากอง และ พระธาตุอินทร์แขวน บอกเลยครับว่าตอนไป สิ่งที่ตั้งปณิธานแรกเริ่มอย่างแรงกล้านั่นคือการไปไหว้พระ ที่แรกที่ผมได้ไปคือเจดีย์ชเวดากอง ที่นี่มีความงดงามมากๆ และมีพุทธศาสนิกชนและนักท่องมาเยอะมากครับ ส่วนของเจดีย์มีความสวยงามอร่ามมากในช่วงแดดออก ผมได้มีบุญได้เข้าไปไหว้ด้วย ชอบมากๆครับกับการนุ่งสโร่งที่ทำให้เราได้ฟีลลิ่งการเป็นคนพม่าที่น่ารักนุ่งสโร่งพร้อมทาทานาคา จากนั้นตอนกลางคืนก็ได้เดินตลาดกลางคืนที่อยู่ข้างๆกันครับ คือได้ฟีลตลาดนัดรถไฟมากครับ แต่อาหารก็จะเป็นอาหารพม่า ที่นี่ดีมากๆครับเวลาทานข้าว เราจะได้ผักกับน้ำพริก พร้อมกับแกงกระเจี๊ยบ เสริร์ฟพร้อมข้าวร้อนๆ ส่วนตัวผมชอบมาก และเป็นแบบนี้ทุกร้านเลยครับที่มีการแถมแบบนี้ ส่วนวันถัดมาผม แม่ และพี่ๆสาว ก็ได้มีโอกาสขึ้นไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน วันนี้เป็นวันที่อากาศเป็นใจมาก เพราะฝนตกปรอยๆ กากาศสดชื่นเย็นสบาย ทำให้คิดถึงหลายสิ่งมาก การเดินทางในครั้งนี้ผมได้มีการเช่ารถให้ขึ้นไปส่งที่ท่ารถที่จะไปพระธาตุอินทร์แขวน ขับมาเรื่อยๆฝนก็ตกมาเรื่อยๆครับ สองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า พร้อมทั้งบ้านหลายหลัง แสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนแถวนี้ได้เป็นอย่างดีครับ ส่วนตัวชอบมากที่ได้สูดดมอากาศบริสุทธิ์แบบนี้ หลังจากที่เจอแต่ควันรถมานาน พอถึงท่ารถเราก็ต้องลงไปชำระร่างกาย อาบน้ำทาทานาคากันก่อนขึ้นรถไป ครั้งนี้ เราได้เดินทางไปขออาบน้ำที่วัดมอญใกล้ๆกับท่ารถ ซึ่งเป็นที่ที่ทุกท่านที่จะขึ้นไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน ทุกท่านรู้จักกันดี บอกก่อนนะครับว่า การที่จะขึ้นไปสักการะนั้นต้องขึ้นรถที่เป็นรถส่วนกลางขึ้นไป เพราะพระธาตุอินทร์แขวนอยู่สูงมากๆ อ่ะต่อครับ พออาบน้ำกันร่วมๆ1ชม. แล้ว เราก็เดินไปขึ้นรถกันครับ ซึ่งหนึ่งคันก็จะนั่งตามยาวได้ประมานแถวละ 10คน ประมาณ 10แถว (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) พอคนเต็มรถก็ออกมุ่งหน้าสู่พระธาตุอินทร์แขวน ระหว่างทางขึ้นตัวผมเองมีแว๊บนึงแอบดีใจแล้วก็ร้องไห้ออกมา อยากจะบอกคุณผู้อ่านว่า ตอนนั้น ณ แว๊บนั้นมันเย็นมาก ความรู้สึกในใจคือดีใจ ตื้นตันใจมากที่ได้พาแม่และพี่สาว ได้พาตัวเองมาถึงสถานที่แห่งนี้ ร้องไห้ตลอดการเดินทาง เป็นน้ำตาแห่งความดีใจที่เราเองก็งง แต่กลับมาพูดถึงระหว่างทางกันต่อครับ ระหว่างทางก็จะมีสถานที่เป็นจุดๆ เพื่อให้เราได้ทำบุญก่อนขึ้นไปด้านบน ขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งสูงอากาศที่เราได้สูดดมเข้าไปในปอดคือผมเองรู้สึกถึงความบริสุทธฺของอากาศมากๆครับ ทั้งเย็นและหอมกลิ่นป่าที่อุดมสมบูรณ์ พอถึงด้านบนพระธาตุอินทร์แขวน ลมพัดแรงมากครับ มีหมอก หนาว พอเดินเข้าไปเรื่อยๆเพื่อไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน ที่อยู่ด้านใน ณ จุดๆนั้นคือลมพัดสบายกว่าทุกๆจุดเลยครับ มีนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนมากมาย สำหรับวันนี้ดึกแล้วผม แม่ และพี่ๆก็ได้เช่าห้องนอนกัน เป็นห้องเช่าที่มีอาหารฟรี 2 มื้อ (นับว่าคุ้มมาก) พอตื่นเช้ามา ผม แม่ และพี่ๆก็ได้ไปตักบาตรกันครับ และก็ได้ไปชมรอบๆพระธาตุอินทร์แขวนกัน บอกเลยครับว่าต้องมา ต้องหาเวลา และโอกาสมาให้ได้ แล้วคุณผู้อ่านจะหลงไหลในวัฒนธรรม และหลงรักในความเป็นเมียนมาร์ครับ สำหรับตัวผมนั้นผมยกทั้งใจให้พม่าไปเล้ยยตอนนี้ สำหรัผู้อ่านท่านใดที่เคยไปมาแล้ว ลองมาแชร์ประสบการณ์กันได้นะครับ สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอตัวลา พร้อมกับทิ้งท้ายรูปไว้ให้ทุกท่านได้ชมกันนะครับ ขอบคุณครับทุกท่านที่อ่านจนจบ ไปพม่า ขอพรกัน โดย Mon Aung