สวัสดีครับ สำหรับบทความนี้ ทนายเกรียง จะขอเล่าถึงประสบการณ์ ที่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ผามออีแดง ณ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกระผมขอย้อนเวลากลับไป เมื่อ ปี 2559 ซึ่งในปีนั้น กระผมและทีมทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ให้ไปดำเนินการฟ้องคดี เพื่อให้ศาลบังคับให้นักศึกษาที่ได้กู้เงินจากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. คืนเงินที่ได้กู้ยืมไปเรียนจนจบการศึกษา และ ผิดนัดไม่ยอมคืนเงินตามที่ตกลงกันไว้กับ กยศ. ซึ่งในการไปทำคดีนั้น ต้องใช้เวลาหลายวัน จึงทำให้กระผมและทีมทนายความที่ไปจังหวัดศรีสะเกษ ได้เรียนรู้และได้ไปท่องเที่ยวหลายแห่งด้วยกัน แต่ที่กระผมประทับใจ และ ยังไม่เคยไปก็คือผามออีแดงอันเลื่องชื่อ จึงตั้งใจที่จะไปให้ได้ ซึ่งในการไปทำคดีในครั้งนั้น ทีมทนายความได้พักอาศัยอยู่ที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ ซึ่งผามออีแดง อยู่ที่อำเภอกันทรลักษ์ มีระยะห่างจาก อำเภอเมืองศรีสะเกษประมาณ 100 กิโลเมตร ผมจึงต้องวางแผนการเดินทางเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นสักครั้ง ณ ผามออีแดงให้ได้ ในการไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ณ ผามออีแดงในวันนั้น กระผม ต้องตื่นตั้งแต่ ตี 4 เพื่อเดินทางไปยัง ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยไปกับ ภรรยา เพียง 2 คน โดยเปิด GPS นำทางไป ซึ่งตอนนั้น เป็นเดือน ธันวาคม อากาศก็จะออกเย็นๆ กำลังสบายเลย เมื่อกระผมได้ขับรถไปถึงปากทางที่จะขึ้นไปยังผามออีแดง จะต้อง ผ่านด่านของ พี่ๆตำรวจตะเวนชายแดนที่รักษาประจำการก่อนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขึ้นไปชมผามออีแดงด้วย หลังจากนั้น ก็ขับรถยนต์ขึ้นไปจอดเกือบถึงจุดชมวิว และเดินต่ออีกนิดก็ถึงแล้ว สำหรับหน้าผาที่ให้เราได้ นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น และ ผ่อนคลายอารมย์ ด้วยบรรยากาศที่เย็นๆ แต่ในช่วงวันนั้น ไม่มีหมอก อุณหภูมิอยู่ที่ ประมาณ 15 อาศาเซลเซียส กำลังเย็นสบายเลย หลังจากไปถึงบริเวณหน้าผา กระผมและภรรยาก็ได้ถ่ายรูป บริเวณโดยรอบ และบริเวณโดยรอบก็มีนักท่องเที่ยวคนอื่นที่มาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยเช่นกัน และเมื่อถึงเวลาที่พระอาทิตย์ของวันใหม่เริ่ม สาดแสงแรกออกมา กระผม ภรรยา และ นักท่องเที่ยวคนอื่นต่างได้เห็นแสงสีเหลืองจากขอบฟ้าเป็นเส้นเล็กยาวขนาน จนเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ช่างเป็นภาพที่ประทับใจจริงๆ เพียงแต่ในวันนั้น ไม่มีหมอก ถ้ามีหมอกคงสวยกว่านี้แน่ๆ ณ ผามออีแดง ที่เราได้ขึ้นไปดูพระอาทิตย์แล้ว ยังมีความมหัศจรรย์ที่ให้เราได้พบเห็นอีกด้วย คือ ศิลปะ ภาพเกาะสลักนูนต่ำ อายุ 1,500 ปี ซึ่ง กระผมก็ได้เก็บภาพมาให้ชมกันด้วย และ ไม่ไกลกันก็ยังได้เห็น สถูปคู่ ซึ่งต้องใช้กล้องส่องทางไกล ให้เราได้ดูวิวรอบๆอีกด้วย หากมองด้วยกล้องส่งทางไกล สามารถเห็นถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งทั้งหมดก็เป็นประสบการณ์ที่กระผมได้ไปผามออีแดงครั้งแรก ซึ่งก็ยังคงประทับใจ เพียงแต่วันนั้น กระผมลืมนำกาแฟร้อนไปนั่งจิบเพื่อรับชมพระอาทิตย์ขึ้นไปด้วย หากมีโอกาสก็จะต้องไปทำตามความต้องการอีกให้ได้ ขอบคุณครับ สำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ของผม ในส่วนนี้ ก็จะเป็นจุดชมวิว สถูปคู่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่บริเวณนี้ โดย เราไม่สามารถเดินไปได้ ต้องส่องกล้องส่องทางไกล ภาพถ่ายโดยนักเขียน