“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายชาวแฟนเพจและนักอ่านทุกท่านครับ เช่นเคยครับหนุ่ม-สุทนมีเรื่องราวความประทับใจจากบันทึกการเดินทาง มาเขียนเล่าให้ฟังเหมือนเดิมครับ เพราะพึ่งกลับมาจาก จ.นครสวรรค์ ไปเก็บเรื่องราวของศาลเทพารักษ์หรือศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่ปากน้ำโพนครสวรรค์มาครับ เราเริ่มต้นของเรื่องความเป็นมาของคำว่าปากน้ำโพก่อนครับ ปากน้ำโพคือสายน้ำไหลมาบรรจบกันโดยมิได้นัดหมาย ฮ่า ๆ นี่คือเรื่องของธรรมชาตินั้นก็คือสายน้ำปิงกับสายน้ำวังที่ไหลมารวมกันที่ อ.บ้านตาก จ.ตาก แล้วไหลมาเป็นหนึ่งเดียวถึงเมืองลอยน้ำเมื่อครั้งอดีตเขาเรียกกันเกาะกลางน้ำหรือปากน้ำโพ ปากน้ำโพเชื่อว่าเมื่ออดีตสำเนียงชาวจีนอาศัยอยู่ตามเรือนแพขนส่งสินค้าอาจจะออกเสียงไม่ชัดเจนจึงเรียกคำว่าปากน้ำโผล่ ๆ แล้วก็มาเสียงสำเนียงชาวสยามเรียกชัดเจนปากน้ำโพครับ ฮ่า ๆ วิเคราะห์ตามเหตุผลของหนุ่ม-สุทนเนื่องจากชาวจีนอพยพเข้าตั้งบ้านเรือนตั้งแต่สมัยสุโขทัย ต่อด้วยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นครับ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือสายน้ำยมไหลมาบรรจบพบกันกับสายน้ำน่านบริเวณวัดเกย์ไชยเหนือบรมธาตุ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์แล้วไหลมารวมผสมผสานกับสายน้ำปิงกลายเป็นต้นกำเนิดสายน้ำหล่อเลี้ยงชาวบ้านชาวเมืองเมื่อครั้งโบราณกาล ปิง วัง ยมและน่าน รวมกันเป็นเจ้าพระยาหรือแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่ออดีตเรือสินค้าล่องเข้ามาต้นแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อนำสินค้าต่าง ๆ แล้วแวะขนถ่ายสินค้าเกาะกลางน้ำไปตามหัวเมืองต่าง ๆ เช่นเมืองพิจิตร เมืองสองแควพิษณุโลก เมืองอุตรดิตถ์และเมืองน่านครับ สำหรับต้นแม่น้ำเจ้าพระยามีเกาะกลางน้ำและเมื่อครั้งก่อนเคยคึกคักด้วยผู้คนในเรือนแพ ดังนั้นเกาะแห่งนี้แหละเขาเรียกเมืองลอยน้ำและมีชาวจีนเริ่มอพยพเข้าตั้งบ้านเรือนจนครบกลุ่ม 5 ภาษาของชนชาติชาวจีนคือ 1. ชาวจีนไหหลำ 2. ชาวจีนแคะ 3. ชาวจีนแต้จิ๋ว 4. ชาวจีนกวางตุ้ง 5. ชาวจีนฮกเกี้ยน และเชื่อว่าชาวจีนไหหลำได้อัญเชิญเทวรูปเทพเจ้าของชาวจีนมาด้วยคือเจ้าแม่ทับทิม แล้วตั้งเป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ ริมแม่น้ำน่าน ต่อมาก็มีศาลเทพเจ้ากวนอูครับ เมื่อความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาเมืองนครสวรรค์การค้าขายของชาวจีนทั้ง 5 กลุ่มภาษาเจริญรุ่งเรื่องจึงได้ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันจัดสร้างศาลลักษณะเก๋งจีนแล้วอัญเชิญเทพเจ้ากวนอูและเจ้าแม่ทับทิมประดิษฐานเรียกศาลเทพารักษ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2460-2462 เกิดโรคระบาดอย่างรุนแรงสมัยนั้นเรียกโรคห่าก็คืออหิวาตกโรคพอเกิดโรคระบาดชาวบ้านชาวจีนหันมาพึ่งชินแสหรือหมอทรงของชาวจีน จึงทำพิธีขอพรปัดเป่าด้วยผ้ายันต์และน้ำมนต์ชาวบ้านก็หายจากโรคระบาดและจัดพิธีขบวนแห่องค์เทพเจ้ากวนอูและองค์เจ้าแม่ทับทิมไปรอบ ๆ ตลาดเมืองนครสวรรค์แล้วเปลี่ยนชื่อเรียกเจ้าพ่อ เจ้าแม่ปากน้ำโพนครสวรรค์ ศาลนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งตรงตลาดเมืองนครสวรรค์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หนุ่ม-สุทนนำเสนอถ้าหากมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวปากน้ำโพนครสวรรค์ควรแวะขอพรศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่ปากน้ำโพคือ 1. ปึงเถ่ากง 2. เทพเจ้ากวนอู 3. เจ้าแม่ทับทิมจุยป๊วยเนี้ยหรือตุยโป๊ยเหนี่ยว 4. เจ้าแม่สวรรค์ครับ ส่วนเกาะกลางน้ำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยเทศบาลเมืองนครสวรรค์ได้จัดสร้างอาคารพาสานให้เป็นจุดเชิดหน้าชูตาของเมืองปากน้ำโพหรือ จ.นครสวรรค์ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของ จ.นครสวรรค์ครับ ส่วนคำว่าพาสานหมายถึงผสมผสานให้เป็นหนึ่งเดียวกันของสายน้ำทั้ง 4 สายไหลมาผสมผสานเป็นต้นแม่น้ำเจ้าพระยาตรงจุดของเกาะกลางน้ำในเนื้อที่ดินประมาณ 3 ไร่ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมแม่น้ำสองสีข้ามไปเกาะกลางน้ำจุดเช็คอินถ่ายภาพวิวทิวทัศน์สุดชิลล์ ๆ ห้ามพลาดเด็ดขาดครั้งเมื่อได้มาเยือนเมืองปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ครับ เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #ตะลอนชิมกาแฟทั่วไทย #เที่ยวทั่วไทยคลื่นข่าว100.5fm #คนรักษ์กาแฟ #bigmaptravel #เที่ยวเพลิน