สวัสดีเมืองจันท์ ทริปนี้นอกจากจะวางแผนเที่ยวกันแบบเร่งด่วน เหตุเพราะน้องสาวกับหลานนั่งรถทัวร์มาธุระที่กรุงเทพฯ แล้วต้องรีบกลับบ้านที่จันทบุรี หลานมีเรียน ชายแดนก็มีปัญหา ไหนจะกฏอัยการศึกที่ประกาศใช้ เราจึงตัดสินใจขับรถไปส่งน้องกับหลาน เพื่อประเมินสถานการณ์ด้วย..เปิดหัวมาก็ดูวุ่นวาย จะชิลล์ หรือโดนซิว มาดูกัน ชิลล์เมืองจันท์ 24 ชั่วโมง เก็บของ แวะรับน้องสาวที่สถาณีรถไฟฟ้า 16.30 น. แล้วออกเดินทางจากถนนรัตนาธิเบศร์ กะว่าไปหามื้อเย็นทานระหว่างทางจะได้ไม่เสียเวลา ขับมาสักพักแวะจุดพักรถมอเตอร์เวย์ รถหนาแน่น หาที่จอดไม่ได้ก็เลยหิ้วท้องไปกันต่อ ออกจากมอเตอร์เวย์ เลี้ยวเข้าปั้มน้ำมันแถวหนองใหญ่ ชลบุรี อ้าว! ร้านปิดหมด สุดท้ายได้ฝากท้องกับ 7-Eleven ตรงตามสโลแกน "หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา" 21.00 น. น้องกับหลาน ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ เหตุการณ์ในตัวเมืองปกติ สงบเงียบ พวกเรากอดลาหลาน ๆ แล้วขอตัวไปนอนชิลล์ ปรับอารมณ์กันต่อที่ The Motifs Eco Hotel ที่พักฟิลธรรมชาติตั้งอยู่ใจกลางเมืองจันทบุรี ตามคำแนะนำของน้องสาว โรงแรมใหม่ สวย สะอาด ออกแบบสไตล์อีโค่ ตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติ องค์ประกอบของแสงภายในโรงแรมสวยมาก ๆ ทั้งกลางคืนและกลางวัน เพราะทุกพื้นที่เค้ามีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ ยิ่งแสงเช้าภายในห้องอาหารนะสวยเอามาก ๆ อบอุ่น ดูเข้ากันกับวัตถุดิบและอาหารท้องถิ่นที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้แขกได้ลิ้มลอง เช่น ปาท่องโก๋มีน้ำจิ้ม บะหมี่ผัก เริ่มต้นเช้าวันใหม่ กับความรู้ใหม่ที่ได้ยินจากน้องสาว ว่าวัดไผ่ล้อม วัดที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพัก มีพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกประดิษฐานอยู่ พวกเราจึงขอแวะเที่ยวชมเป็นจุดแรก องค์พระพุทธมหาสีหไสยาสน์ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ มีขนาด 9 วา 9 นิ้ว มีลวดลายมงคลอยู่ที่ฝ่าพระบาท กราบสักการะเสร็จก็อยากไปดูโบสถ์คริสต์ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในภาคตะวันออกบ้าง อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล โบสถ์คาทอลิกสไตล์โกธิค มีชื่อเสียงเก่าแก่กว่าร้อยปี มีจุดเด่นคือหอระฆัง 2 หอขนานกันซ้ายขวา และรูปปั้นพระแม่มารีดูโดดเด่นท่ามกลางเมืองเก่าชุมชนริมน้ำจันทบูร(จันทบุรี) แต่เสียดายที่พวกเรายังไม่มีโอกาสได้เข้าไปชมด้านใน เนื่องด้วยกำลังประกอบพิธีศพ จึงสงวนสิทธิ์ ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไป อดเห็นความงดงามของกระจกสีสเตนกลาส กับรูปปั้นแม่พระที่ประดับด้วยพลอยกว่า 20,000 กะรัต ได้แค่ถ่ายภาพจากภายนอก ติดค้างไว้คราวหน้าค่อยมากันใหม่แล้วกัน พักตั้งหลัก หลบแดดร้อนกันที่คาเฟ่เรือนเล็ก (Ruen Lek) ที่ซึ่งทางเจ้าของหยิบไอเดีย บ้านไทยยกใต้ถุนสูง หลังคาจั่ว สะท้อนให้เห็นวิถีของคนต่างจังหวัด ที่มักมีเพื่อนบ้านแวะเวียนมานั่งคุยนั่งเล่นบริเวณใต้ถุน หรือชานบ้าน จึงตกแต่งพื้นที่บ้านเก่าหลังน้อยของคุณแม่ให้กลายเป็นคาเฟ่และที่พัก เมนูแนะนำ เบเกิ้ล ขนมไข่ อบสดใหม่หอมอร่อย น้ำมะปิ๊ดผสมแตงโมอร่อยลงตัว ปิดทริปกับอาหารมื้อกลางวัน ริมแม่น้ำจันทบุรี ชื่อร้าน "คดข้าว" KHOT KHAO อาหารบ้าน ๆ แต่สัมผัสอบอุ่น เหมือนมากินข้าวบ้านคุณยาย อาหารจานไม่ใหญ่ จึงสั่งมาทานได้หลายอย่าง หมูชะมวง กุ้งทอดซอสมะขาม และบอกเลยว่าห้ามพลาดไอศกรีมกะทิ ทานคู่ผลไม้สารพัดหน้าเวียนไปตามฤดูกาล อิ่มอร่อยสมราคา ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เราแวะซื้อปลาหมึกกับผลไม้อีกนิดหน่อยแถว ๆ ตลาดเนินสูง (แหล่งร้านขายผลไม้ริมถนนสุขุมวิท ออกจากตัวเมืองจันทบุรีมาหน่อย) พระอาทิตย์เกือบตกเราก็กลับถึงบ้านพอดี แนะนำสถานที่ (อีกที) ทริปชิลล์เมืองจันท์ 24 ชั่วโมง The Motifs Eco Hotel - นอนหลับสบายสุด ๆ แสงสวยสุด ๆ วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง - พระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล - โบสถ์คริสต์แห่งชุมชนริมน้ำจันทบูร Ruen Lek - เรือนเล็ก คาเฟ่อบอุ่นใต้ถุนสูง ขนมไข่ น้ำมะปี๊ด KHOT KHAO - คดข้าว ร้านอาหารริมแม่น้ำจันทบุรี อย่าลืมสั่งไอศกรีมกะทิ แล้วพบกันใหม่ทริปต่อไปนะ ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน (atrium) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !