“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2568 พาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้ใน "วัดกาหลง" ริมน้ำคลองสุนัขหอน ตำบลกาหลง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร วัดกาหลง "วัดกาหลง" สร้างขึ้นมาในปี พ.ศ. 2367 ถ้าหากดูตามปี พ.ศ.ของวัดกาหลง ที่บันทึกไว้ก็ตรงกับสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ดังนั้นไปเที่ยววัดกาหลงควรแวะเป็นจุด ๆ เริ่มต้น วัดกาหลง อยู่ริมน้ำบรรยากาศเงียบสงบ จุดที่ 1 ในมณฑปประดิษฐานองค์พระพุทธรูปเรียกว่า "หลวงพ่อแดง" เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยหินทรายขาวทางวัดกาหลงได้อัญเชิญมาจากวัดร้างวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและมี "หลวงพ่อสัมฤทธิ์" ปางห้ามสมุทรจำลองมาจากวัดนาโคกอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาครและมีรูปหล่อหลวงปู่สุดหรือพระครูสมุทรธรรมสุนทร อดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลงรูปที่ 5 ท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานมีเมตตาธรรมสูง ที่สำคัญท่านสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวท่านเองเมื่อละสังขารแล้วห้ามทำพิธีเผาเพราะว่าจะเผาไม่ไหม้แล้วก็เป็นจริงอย่างที่หลวงปู่สุดกล่าวไว้!! ใครสนใจไปหาข้อมูลเรื่องราวต่าง ๆ ได้ที่วัดกาหลงครับ กราบขอพร "หลวงพ่อแดง" และ "หลวงพ่อสัมฤทธิ์" ส่วนจุดที่ 2 ด้านหน้ามณฑปประดิษฐานรูปปั้นองค์ใหญ่ "หลวงปู่สุดและมีพญาเสือโคร่ง" อยู่ด้วยตามเหตุผลเพราะว่าหลวงปู่สุดท่านเกิดปีขาลหรือปีเสือนั้นก็มีธาตุไม้หอมมีแก่นเชื่อว่ามีความมั่นคงและกล้าหาญ ส่วนการบูชาขอพรนั้นคือขอเรื่องให้ประสบผลสำเร็จในธุรกิจการค้าหรือหน้าที่การงานให้เจริญก้าวหน้าหรือขอเรื่องอำนาจบารมีและโชคลาภเป็นต้น หลวงปู่สุดและมีพญาเสือโคร่ง ขอพรกันได้ครับ ไปกันต่อจุดที่ 3 ขึ้นบนศาลาการเปรียญกราบบูชา "สังขารหลวงปู่สุด" เป็นสังขารท่านที่เผาแล้วไม่ไหม้จึงได้อัญเชิญประดิษฐานในโลงแก้วเพื่อให้สาธุชนได้กราบบูชาเป็นสิริมงคลนี่คือส่วนหนึ่งเท่านั้นสำหรับเรื่องราวของหลวงปู่สุดหรือท่านพระครูสมุทรธรรมสุนทรอดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง!!! สังขารหลวงปู่สุด สำหรับที่มาของชื่อ "บ้านกาหลง" ก็น่าสนใจเพราะเป็นเรื่องราวเล่าขานสืบมาหลายชั่วอายุคนเมื่อครั้งกระโดดกล่าวว่ามีสามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังพายเรือหรือแจวเรือกลับบ้านปรากฏว่ามีนกกาหรือชาวบ้านเรียกว่าอีการ้องเสียงดังแล้วมาโฉบลงที่เรือด้วยเหตุผลนี้สามีภรรยาคู่นี้จึงได้พายเรือหรือแจวเรือตามนกกาไปปรากฏว่าก็พบเด็กเป็นเพศหญิงมีผ้าห่มมัดตัวอยู่สามีภรรยาคู่นี้ก็ถามหาว่าลูกของใครแต่ก็ไม่พบเห็นพ่อและแม่ของหนูน้อยคนนี้จึงได้เลี้ยงดูไว้แล้วเรียกว่า "กาหลง" นี่แหละจึงกลายมาเป็นชื่อ "หมู่บ้านกาหลง" และชื่อตำบลกาหลงทุกวันนี้จ้า สำหรับชื่อ "คลองสุนัขหอน" เป็นชื่อหน่วยงานภาครัฐหรือภาษาทางราชการใช้คำว่าสุนัขหอนส่วนชาวบ้านในริมคลองเรียกว่า"คลองหมาหอน" ตามเหตุผลที่เล่าขานกันมาถึงทุกวันนี้กล่าวว่าสมัยโบราณริมคลองสายน้ำแห่งนี้มาก ด้วยป่าจากหรือต้นใบจากและต้นไม้ เช่น ต้นตะบูน ต้นลำพู ต้นลำแพนเต็มสองฝั่งคลองพอค่ำคืนจะมีเรือหาปลาเรียกว่า "เรือผีหลอก" เป็นเรือแจวยาวแต่มีไม้กระดานยาวทาสีขาวไว้ข้างเรือพอปลาเห็นสีขาวก็จะตกใจกระโดดขึ้นเรืออะฮิ ๆ สุดยอดการหาปลาสมัยโบราณแต่ในลำคลองมันมืดเงียบสงบพอเรือแจวผ่านบ้านเรือนผู้คนหมาจะหอนคล้าย ๆ เห็นผีหมาจึงเห่าหอนทุกคืนเมื่อเรือแจวผ่านนี่แหละที่มาของคำว่า "คลองหมาหอนหรือคลองสุนัขหอน" ซึ่งเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมาก็เป็นเส้นทางสายน้ำที่สำคัญตั้งแต่สมัยแผ่นดินอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นเพราะเป็นสายน้ำเชื่อมจากแม่น้ำท่าจีนเมืองสาครบุรี-สมุทรสาครแล้วเข้าคลองสุนัขหอนไปเชื่อมแม่น้ำแม่กลองไปเมืองเพชรบุรีและหัวเมืองปักษ์ใต้หรือแหลมมาลายูได้สะดวกสบายในสมัยนั้น ที่พระมหากษัตริย์เสด็จทางชลมารคเมื่อครั้งอดีตกาลที่ผ่านมาหลายแผ่นดินในยุคสมัยโบราณนี่คือเรื่องราวที่น่าศึกษาหาความรู้พร้อม ๆ กับการเดินทางท่องเที่ยวครับ "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ ไปท่องเที่ยวกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันได้ครับ "วัดกาหลง" จังหวัดสมุทรสาคร พิกัด "วัดกาหลง" https://maps.app.goo.gl/quXRRehEmMKdJmqL9 เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !