ช่วงนี้หากใครกำลังวางแผนเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆ เดินทางไม่ยาก ค่าเครื่องไม่แพง คงมีสิงคโปร์ อยู่ในใจใครหลายๆ คน วันนี้เราจะมารีวิว เที่ยว สิงคโปร์ ฉบับครอบครัวเนิบๆ เที่ยวแบบไม่เร่งรีบ บรรยายแบบละเอียดเผื่อใครจะไปสิงคโปร์ จะได้มองภาพออกเริ่มด้วยจองตั๋วเครื่องบินค่ะ รอบนี้เราเดินทางกับ Air asia ค่ะ เนื่องจากระยะเวลาการเดินทางจากดอนเมืองไปสนามบินแชงกี ของสิงคโปร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งนั่งแป๊บๆก็ถึง และที่สำคัญเลยก็คือราคาดีมากค่ะ ยิ่งถ้าใครได้ซื้อตั๋วบุฟเฟ่ไว้ ยิ่งประหยัดไปอีก คุ้มสุดๆ เราเดินทางจากดอนเมืองประมาณ 18.50 น. ไปถึงสิงคโปร์ประมาณ 22.20 น. (เวลาสิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ส่วนขากลับ เรากลับเวลา 11.10 น. ถึงดอนเมืองประมาณ 12.30 น. จองตั๋วเรียบร้อย ก็หา โรงแรมกันค่ะ เนื่องด้วยค่าครองชีพของสิงคโปร์ค่อนข้างสูง โรงแรมจึงมีราคาค่อนข้างสูง เช่นเดียวกัน หากใครจะมาลองสำรวจพื้นที่ดูก่อนนะคะ ว่าอยากจะพักบริเวณไหน ใกล้ที่เที่ยว ที่กินของเรามากน้อยขนาดไหน ส่วนเราเลือกพักใกล้ๆ china town บริเวณ Qlarke Quay (คาร์กคีย์) เพราะทั้งใกล้แหล่งกิน และแหล่งเที่ยวอย่าง Merlion คือเดินไม่ไกลค่ะ ระยะทางประมาณ 1.2 km เด็ก(6ขอบ)เดินได้ เราจึงเลือกพักที่ Ibis budget Singapore Clarke Quay เราพักจริงๆ 3 คืน เนื่องจากวันแรกที่ไปถึงก็ดึกแล้ว ไม่ได้เที่ยวอะไร กะมาถึงก็นอนพักผ่อนกันก่อน แล้วตอนเช้าค่อยออกตระเวรเที่ยวค่ะ ค่าเสียหายอยู่ที่ 625.65 SGD (16,783.66 บาท ค่าเงิน 1SGD =26.82 Baht) ราคานี้คือห้อง Superior Room with 1 double bed and 1 single bed ไม่รวมอาหารเช้าค่ะเมื่อมีที่พักและตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวเดินทางค่ะ เนื่องจากสถานที่เที่ยวต่างๆ เราไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า เพราะไปกับเด็กเราไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่ชัดว่าจะเดินทางกันได้รวดเร็วขนาดไหน อารมณ์เด็กขณะนั้นอยากเที่ยวขนาดไหน จึงเลือกที่จะไปซื้อหน้างานเอาค่ะ ที่ๆอยากไปจริงๆ ก็คือ Art science museum , S.E.A aquarium, Merlion , Marina bay มาดูกันค่ะว่าเราจะไปกันได้ขนาดไหน3 วันก่อนเดินทางเราต้องลงทะเบียนการเข้าสิงคโปร์ ด้วย SG arrival ทำ online มาก่อนได้เลยนะคะ ไม่ยากค่ะ สามารถเลือกลงทะเบียนเป็นกลุ่มได้ด้วยนะคะ กรอกรายละเอียดเที่ยวบิน ที่พัก วันเข้า วันออก Declare ว่าเราไม่มีข้อต้องห้ามอะไร ก็เรียบร้อยค่ะ พอลงทะเบียนเสร็จเราจะได้ email เป็นตัวยืนยันมานะคะ ซึ่งเค้าก็จะเน้นว่า SG arrival card นี้ ไม่ใช่ VISA นะคะ เพราะฉะนั้นเค้าก็จะไม่ได้การันตีว่าเราจะผ่านนะคะ แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ผ่านได้แน่นอนค่ะ ไปค่ะ เริ่มเดินทางกัน อย่างที่บอกว่าเรานั่ง Airasia นะคะ เครื่องก็จะมาลงที่ Terminal 4 พอออกจากตัวเครื่องมาจะมีการสแกนกระเป๋าเราก่อนเลยค่ะ พอเรียบร้อยก็เดินไปเรื่อยๆ จนถึงที่รับกระเป๋า และผ่านตม. ที่สนามบินแชงกี สิงคโปร์นี้ มีระบบ Kios ที่ประเทศไทยสามารถใช้ระบบนี้โดยไม่ต้องไปผ่านกับคนเลยค่ะ และเด็กที่อายุมากกว่า 6 ปี ก็สามารถใช้ได้นะคะ แต่เนื่องจากเรามาพร้อมเด็ก(ถึงแม้จะ 6 ขวบแล้ว) เราก็เลือกใช้ผ่านคนค่ะ ซึ่งก็ไม่ยากเลยนะคะ ไม่ถามอะไรเลย ยื่นพาสปอร์ตอย่างเดียว ถ่ายรูป สแกนนิ้ว ก็ผ่านเลยค่ะ ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไรเลย (เราเดาว่าเราลงทะเบียน SG arrival online มาแล้ว ข้อมูลคงมีทั้งหมดแล้วอ่ะคะ) เค้าเลยไม่ต้องถามอะไรเรามาก และจาก Terminal 4 นี้จะต้องนั่งรถบัสต่อไป Terminal 3 เพื่อจะต่อ train to City นะคะ แต่ต้องเน้นกับคนที่มาช่วงเวลาเดียวกันนะคะว่าต้องรีบหน่อยนะคะ เพราะว่ารถไฟจะหมดตอนประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งตอนที่เราไปถึง terminal 3 จะไปขึ้นรถไฟ เค้าก็เรียกว่า รถไฟนี้ขบวนสุดท้ายละนะ ก็ระวังกันหน่อยนะคะ อย่าเอ้อละเหยกันล่ะคะ ซึ่งตอนแรกเราก็กำลังงงๆ กับตั๋ว EZ link card ว่าจะต้องซื้อยังไง แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ารีบขึ้นรถไฟไปก่อน ค่อยไปจ่ายปลายทาง อ่ะๆ แบบนั้นก็ได้ ก็ไปก่อนค่ะ แต่พอด้วยความที่กังวลว่ารถไฟจะหมด ซึ่งเราจะต้องต่อรถไฟไปประมาณ 2 ต่อ แต่ว่าใน google map บอกให้ขึ้นอีกอย่าง เลยเชื่อ google map เพราะคิดว่าคงไม่มีรถไฟแล้ว เพราะการเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองก็ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงค่ะ เราจึงเลือกลงสถานี City hall แล้วเดินต่อไปโรงแรมค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ ไม่ไกลนะคะ แต่ด้วยความดึกแล้ว และทางเดินทางที่เราผ่านเป็นสถานบันเทิง เลยกังวลนิดๆ แต่ก็แวะ Mc donald's (24.20SGD) เติมพลังก่อนเข้าโรงแรม พอมาถึงโรงแรม ก็มี 7-11 อยู่ติดกับโรงแรมเลยค่ะ ก็เลยคิดว่าสบายละ 555 พอเข้าเช็คอิน ก็นอนพักผ่อนค่ะ พาดูห้องนิดหน่อยนะคะ อ่อ แล้วเราก็ซื้อบัตร EZ linked card ที่โรงแรมนะคะ ในราคาใบละ 10 SGD โดยจะมีค่ามัดจำบัตร 5 SGD แต่ค่ามัดจำนี้ไม่สามารถขอคืนได้ พนักงานบอกว่าเป็นเหมือนค่าบัตรเป็นของที่ระลึก 555เริ่มต้นเที่ยววันที่ 1 จุดมุ่งหมายคือ Art science museum ค่ะ พิกัด ArtScience Museumจากที่พักเราเลือกจะเดินไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 2 km เด็กบอกว่าไหว เราก็ไหวค่ะ แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จากที่พักเดินมาอีกนิดเดียวประมาณ 240 m.ก็ถึงร้าน Song Fa Bak Kut teh พิกัด Song Fa Bak Kut Tehที่นี่ได้ Michelin Guide 6 ปี เลยนะคะ เมนูเด็ดที่นี่ก็คือบักกุ๊ดเต๋ ที่ต้องกินคู่กับปาท่องโก๋ ชุบน้ำซุปร้อนๆ อร่อยมากค่ะ ร้านเปิด 10.00 น. นะคะ ดีที่เราพักอยู่ใกล้ จึงไปเข้าคิวได้คิวแรกๆ ทำให้ไม่รอนาน ใครมาหลังจากนี้ก็รอกันนานๆ ไปค่ะ เวลาสั่งอาหารที่นี่ก็จะให้สแกนสั่งได้ค่ะ เลือกตามที่ต้องการได้เลย ร้านนี้ Recommened เลยค่ะ มื้อนี้ค่าเสียหายอยู่ที่ 30.29 SGD (เราสั่งข้าวเปล่า 3 ถ้วย บักกุ๊ดเต๋ 1 ชาม ปาท่องโก๋ 1 จาน และหมูสามชั้น 1 จาน)หลังจากเติมพลังเสร็จเราก็เริ่มเดินกันค่ะ เดินมาอีกนิดก็ถึงสถานีตำรวจที่เป็นตึกสีๆ ถ่ายรูปสวยๆ ค่ะ เดินไปก็จะผ่านสถานที่สำคัญหลายๆ ที่เช่น รัฐสภา สนามเด็กเล่น และเดินเลียบทางเดินผ่าน Esplanade ก็จะมองเห็น Merlion และก็ผ่าน Youth olympic park เดินข้ามสะพาน Helix Bridge ก็จะถึง Art science museum แล้วค่ะ เราต้องไปซื้อบัตรบริเวณชั้น L นะคะ ซึ่งตั๋วก็จะมีแยกหลายส่วน และมีราคาเด็กและผู้ใหญ่ ค่าเสียหายเราจ่ายไป 64 SGD (ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1 คน) เราเลือกเข้าเฉพาะ Future World where art meets science ซึ่งภายในจะเป็นภาพศิลปะที่ใช้ระบบดิจิตอล กิมมิกที่เหมาะสำหรับเด็กก็คือมีสไลเดอร์แล้วรูปจะกระจาย มีให้วาดรูปแล้วสามารถสแกนแล้วขึ้นจอเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ จุดไฮไลท์เลยก็คือจุดหลอดไฟที่ห้อยเต็มห้อง เค้าก็จะกำหนดคนเข้าแต่ละรอบ มีพูดให้คำแนะนำว่าอย่าแตะอย่าจับหลอดไฟนะจ๊ะ ห้องก็จะเป็นทางเดินสั้นๆ แต่เห็นตอนแรกก็ว๊าวอยู่นะคะ สรุปสำหรับที่นี่ เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่มาทำกิจกรรม ถ่ายรูปเล่น เห็นความสัมพันธ์ของศิลปะและวิทยาศาสตร์ได้ เป็นตัวจุดประกายความอยากรู้ของเด็กๆ ได้ดีค่ะ ซึ่งมิวเซียมนี้อยู่ติดกับ The Shoppes Marina Bay Sands ซึ่งเป็น shopping Mall ขนาดใหญ่ มีร้านมากมาย และอาหารมากมายเช่นกันค่ะ หลังจากที่เราไป art science museum แล้ว เราก็ไปกินข้าวกันที่ shopping mall นี้แห่งนี้ค่ะ เรากินกันที่ IPPUDO ramen ค่ะ IPPUDO พิกัด MARINA BAY SANDS ตอนแรกก็จะเกิด food center แต่ว่าคนเยอะมาก เลยเปลี่ยนแผนค่ะ หลังจากกินเสร็จเราก็เดินต่อไป Garden by the bay ค่ะ พิกัด Gardens by the Bayซึ่งระหว่างทางเดินก็จะมีสนามเด็กเล่น และต้นไม้นานาพันธ์ ทางเดินกว้างขวาง เดินสนุก บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ พอเข้าไปข้างในจะมีจุดจำหน่ายตั๋ว มีหลายโซนให้เราเลือกเข้า แต่เราเลือกไม่เข้า 555 เพราะเราว่าแพงไปนิด แล้วการเดินเล่นด้านนอกก็คุ้มมากแล้ว ต้นไม้เยอะ หลากหลายสายพันธ์ เค้ามีจัดเป็นโซนๆ แค่เดินข้างนอกก็ใช้เวลาไปพอสมควรแล้ว เราจึงเลือกเดินไปเรื่อยๆ วิ่งเล่นกับเด็กไป เป้าหมายต่อไปก็คือจะเดินไป Merlion Merlion ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมง แต่เราเดินจริงๆ ก็เกือบชั่วโมง เดินไป แวะถ่ายรูปไป มีที่นั่งก็แวะนั่งไป ชิลสุดๆ พอไปถึงจุดไฮไลท์ก็เป็นไปตามคาดว่าคนเยอะมากค่ะ เทคนิคในการหามุมถ่ายกับเจ้าสิงโตนางเงือกนี้ก็คือ ถอยออกมาห่างๆ เน้นให้คนใกล้กล้องค่ะ เพื่อใช้คนบังคนอื่นๆ แล้วจัดท่าให้น้ำตรงกับปากเรา ก็จะได้รูปสวยๆ ไม่ยากค่ะ แต่ความยากของเราอยู่ที่อากาศค่ะ เพราะฝนตก พอให้เด็กอ้าปาก เด็กก็จะได้กินน้ำฝนเข้าไปด้วยจริงๆ 555 หลังจากถ่ายรูปเดินเล่น เราก็จะไปหามื้อเย็นกินค่ะ ที่กำหนดไว้ก็คือ ข้าวมันไก่ Tian Tian Hainanese chicken rice พิกัด Tian Tian Hainanese Chicken Riceซึ่งจะอยู่แถว China town บริเวณ Maxwell food center ค่ะ ที่นี่ก็จะเป็นเหมือนฟู้ดคอร์ดราคาดี มีร้านให้เลือกมายมายหลากหลายชนิด ที่สำคัญเลยก็คือข้าวมันไก่ค่ะ แต่เอาจริงๆ นะ เราว่า ข้าวมันไก่บ้านเราอร่อยกว่า 555วันแรกนี้เราก็จบเท่านี้ค่ะ กินข้าวมันไก่เสร็จก็กลับที่พัก เป็นอันจบหนึ่งวัน สรุปค่าใช้จ่าย วันแรก (สำหรับผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1) รวม = 191.35 SGD-ค่า EZ link แฟพก 2 ใบ =20 SGD-อาหารเช้า Song Fa bak Kut Teh = 30.29 SGD- ค่าเข้า Art science museum = 64 SGD- ค่าอาหารกลางวัน IPPUDO = 61.06 SGD-ค่าอาหารเย็น Tian Tian Hainanese chicken rice + น้ำผลไม้ปั่น = 16 SGDปล.ใครจะมา ดูพยากรณือากาศมาด้วยนะคะ จะได้เตรียมเสื้อกันฝน เตรียมร่ม กันได้ถูกค่ะ เรามาก็เจอฝนค่ะ รูปภาพทั้งหมด by psychiartistแชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”