สวัสดีผู้อ่านทุกท่านจ้า นานๆ เจอกันที บังเอิญผู้เขียนไปเจอเทศกาลนี่เข้าก็รู้สึกว่าน่าสนใจและผู้เขียนช่วงนี้เองก็อยากจะผ่อนคลายด้วย ซึ่งผู้เขียนก็ต้องบอกว่าไม่ได้รู้รายละเอียดมากนัก ไปแบบไม่รู้อะไรเลยดีกว่า และที่สำคัญเข้าชมฟรีด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาดูกันว่าเป็นยังไงกันสำหรับตัวงานนิทรรศการจะจัดอยู่ที่ Bangkok Kunsthalle (บางกอก คุนส์ฮาเลอ) อยู่ใกล้ละแวก MRT หัวลำโพงจ้า แต่ก่อนจะไปดูตัวงานนิทรรศการ ก่อนอื่นผู้เขียนจะมาบอกการเดินทางเผื่อคนที่ไม่รู้ว่าจะไปยังไง รอบนี้ผู้เขียนไปรถไฟฟ้าเช่นเคย นั่งจาก Airport Rail Link สถานีรามคำแหง เพื่อจะไปลงที่สถานีมักกะสัน เพื่อที่จะไปนั่งต่อ MRT เพชรบุรีนี่เอง ราคาจาก Airport Rail Link รามคำแหง ถึง สถานีมักกะสัน ราคา 15 บาท จ้าและก็ลงไปนั่งที่สถานีรถไฟฟ้า MRT ซื้อตั๋วไป MRT หัวลำโพงนี่เอง ราคาก็ 31 บาท อันนี้แล้วแต่ว่าผู้อ่านนั่ง MRT จากสถานีไหนด้วยนะ บางสถานีค่าโดยสารจะไม่เหมือนกันจ้าเมื่อมาถึงให้ผู้อ่านออกทางออกที่ 2 เลย เป็นทางเดินยาวๆจะเห็นสถานีหัวลำโพงจากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเดินตามทางเดินที่เห็นในภาพเลยและสังเกตว่าจะมีสะพานสีเขียวๆ ข้ามไปอยู่หน้าตาสะพานจะเป็นประมาณนี้ ให้เดินข้ามไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายซักนิดนึงสังเกตว่าจะมีตรงแยกนี้ให้เดินข้ามถนนไปเลย เดินทางฝั่งซ้ายนะเดินตรงฝั่งซ้ายสักแปปนึงผ่านร้านเม้งเล้งแซ่บ ก็ถึงแล้วตัวสถานที่จะหน้าตาแบบนี้เลย สังเกตว่ามีคนออกมาเยอะมากๆต้องบอกเลยว่าใครจะมาเยี่ยมชมให้ต่อแถวนะ คิวยาวมากๆ รอประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงเลยนะ และก่อนจะต่อแถวต้องสแกน QR CODE ตรงโต๊ะเพื่อทำแบบฟอร์มของนิทรรศการก่อนจึงจะสามารถเข้าไปต่อแถวได้ผู้เขียนจะขอไม่ถ่ายแบบเห็นหน้าคนอื่นละกัน เอาเป็นถ่ายโบว์ชัวร์แทนละกัน หน้าตาโบว์ชัวร์จะเป็นประมาณนี้ ซึ่งการต่อแถวหลังๆ จะยืนรอก่อนและสักพักพอแถวเริ่มขยับ เราจะได้เขยิบไปนั่งเก้าอี้ที่เรียงต่อเป็นแถวได้ ผู้เขียนก็รอยาวๆ เลยจ้า ภาพนี้ผู้เขียนได้นั่งเก้าอี้แล้วนะ และก็นั่งอ่านโบว์ชัวร์ยาวๆ ไป รายละเอียดโบว์ชัวร์จะเป็นความเป็นมาของนิทรรศการนี้จ้า อ่านเพลินมาก อ่านไป ต่อแถวเขยิบแถวไปอันนี้จะเป็นบริเวณภาพบรรยากาศตอนต่อแถวจะประมาณแหละนะ ไม่ต้องแปลกใจจ้าช่วงประมาณใกล้ๆ ที่จะได้เข้าไปชมนิทรรศการจะมี STAFF มาแจ้งเรื่องการเข้างาน ก็คร่าวๆ คือ จะจำกัดจำนวนคนเข้างานเพียง 30 คน จะมีเวลาชม 15 นาที และเมื่อมีคนรับชมนิทรรศการเสร็จแล้ว ออกไปแล้ว แถวก็จะค่อยๆ เขยิบมาเรื่อยๆ ตัวนิทรรศการจะปิดประมาณ 2 ทุ่มตรง / 20.00 น. จ้า หน้าแถวทาง STAFF จะนับคนเพื่อให้เข้าไปในงานจ้า เข้าไปก็จะมืดๆ หน่อยและทาง STAFF จะเปิดไฟฉายให้เพื่อไม่ให้เกิดแล้วเกิดอุบัติเหตุ นิทรรศการจะอยู่ด้านบน เวลาจำกัด 15 นาที แล้วก็ห้ามเปิดแฟลชเวลาถ่ายรูปนะ บรรยากาศก็มีเหมือนหมอก รอบๆ ดูเป็นเหมือนที่ที่แบบก็อารมณ์สถานที่เก่า อารมณ์ประมาณนี้ บรรยากาศให้อารมณ์เป็นเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นึงหรืออยู่ในหนังเรื่องนึงเลย ผู้เขียนชอบบรรยากาศแบบนี้นะ มันดูแบบเหมือนเป็นแนวเอาชีวิตรอด แนวแบบแอคชั่นอะไรทำนองนี้ โดยรวมคือดีมาก และคนต่างมาถ่ายรูปกันเยอะมากๆ ซึ่งสถานที่ดูแล้วอาจจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ดูน่าดึงดูดมากเลย บรรยากาศที่ชวนให้สัมผัสถึงรสชาติที่ไม่สวยงามแต่มีเสน่ห์ ต้องบอกแบบนี้ดีกว่า ถึงสถานที่จัดงานจะดูเก่าๆ มีผุพังเป็นธรรมดา แต่เวลาผ่านไปหลายๆ ปี มันอาจจะกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่คาดไม่ถึงเลย นิทรรศการนี้ก็ใช้สถานที่ที่เคยเกิดไฟไหม้มาแล้วมาใช้ในการจัดงาน เพื่อให้เห็นคุณค่าของสถานที่มากขึ้น มาลองดูกันได้เน้อ นิทรรศการจะจัดถึง 31 ตุลาคมนี้จ้า เปิด 14.00 น. ปิด 20.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ และ วันอังคารและทั้งหมดนี้เป็นบรรยากาศทั้งหมดภายในงานนะจ้า จริงๆ ผู้เขียนชอบทุกรูปที่ถ่ายมาเลยนะ ไม่ว่ามุมไหนก็น่าถ่ายไปหมดเลยจริงๆ ยังไงก็ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่มาอ่านจนถึงตรงนี้ด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านอย่างมากเลยนะ สำหรับใครที่อยากจะไปนิทรรศการแต่ไม่รู้จะไปยังไง บทความนี้ก็ขอเป็นส่วนนึงในการช่วยให้ผู้อ่านทุกๆ คน ได้ไปงานนิทรรศการนี้อย่างง่ายขึ้น ผู้เขียนแนะนำอยากให้ผู้อ่านทุกๆ คนได้มีโอกาสไปสักครั้งนึงมาก พิกัด: Bangkok Kunsthalle (บางกอก คุนส์ฮาเลอ) ภาพปกทำโดย Canvaภาพถ่ายผู้เขียนถ่ายเองจากสถานที่จริงจ้าช่องทางการติดตามของผู้เขียนFacebook: AmmarinJTwitter (X): @AmmarinJ