🏞 เที่ยวแชงกรีล่า – เส้นทางสู่เมืองแห่งศรัทธาและฟ้ากว้าง หลังจากหลงใหลในเสน่ห์ของเมืองลี่เจียงอยู่หลายวัน ถึงเวลาที่เราจะเดินทางต่อสู่ปลายทางในฝัน — แชงกรีล่า (Shangri-La) ดินแดนที่ว่ากันว่า “ใกล้สวรรค์มากที่สุดบนผืนดินจีน” เราออกเดินทางจากลี่เจียงด้วย รถไฟความเร็วสูง ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เส้นทางนี้ผ่านทิวเขา ทุ่งหญ้า และหมู่บ้านกระจายตัวริมแม่น้ำอย่างงดงาม… ระหว่างทาง แสงเช้าค่อย ๆ สะท้อนยอดเขาหิมะ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกเหมือนกำลังเข้าสู่โลกอีกใบ เมื่อถึงสถานีรถไฟแชงกรีล่า สิ่งที่ทำให้ทริปนี้ราบรื่นมากคือ การที่เรา ติดต่อกับโรงแรมไว้ล่วงหน้า ให้จัดรถมารับถึงที่ — เพียงออกจากชานชาลา ก็เห็นพนักงานถือป้ายรออยู่ พร้อมพาเราฝ่าลมหนาวเข้าสู่เมืองเก่าที่อยู่ห่างไปไม่ไกล นี่แหละครับ...จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ “แชงกรีล่า” เมืองที่มีทั้งวัดเก่า ศรัทธา กลิ่นเนยจามรี และลมหายใจแห่งขุนเขา ต่อจากนี้… ไปสำรวจพร้อมกันว่า 3 วัน 2 คืนในแชงกรีล่า เราได้พบความอบอุ่นอะไรบ้าง ท่ามกลางอากาศเย็นเฉียบของที่ราบสูง 🏔️🧳✨ 💫 จุดไฮไลต์ของแซงกรีล่า ที่ประทับใจสุด ๆ: 🏘 เมืองเก่าแชงกรีล่า (Shangri-La Old Town หรือ Dukezong Ancient Town) ถ้าคุณเคยฝันอยากหลุดเข้าไปในโลกของทิเบตแบบในนิยาย...ที่นี่คือประตูแห่งจินตนาการที่จับต้องได้จริง! เมืองไม้โบราณอายุเกินพันปี ที่ยังคงลมหายใจแห่งศรัทธาและวัฒนธรรมแบบทิเบตทุกตารางเมตร ตั้งแต่บ้านไม้ประดับธงมนต์ ไปจนถึงกลิ่นหอมของชาเนยที่ลอยผ่านตรอกแคบ 📖 ประวัติความเป็นมา Dukezong มีอายุยาวนานกว่า 1,300 ปี เคยเป็นเมืองสำคัญบนเส้นทางการค้าชา-ม้าโบราณ เชื่อมจีน ทิเบต อินเดีย ผ่านแชงกรีล่า จุดยุทธศาสตร์สำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและศาสนา แม้จะได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 2014 ที่เผาผลาญบ้านไม้กว่า 240 หลัง แต่เมืองนี้ก็ฟื้นคืนด้วยความร่วมมือของชาวบ้านและรัฐบาลจีน พร้อมคงกลิ่นอายของ “เมืองวิญญาณทิเบต” ไว้ครบถ้วน 📸 มุมถ่ายรูปที่ห้ามพลาด ลานกลางเมือง (Sifang Square): ธงมนต์พริ้วไหว + ลานเต้น Guozhuang ตรอกธงมนต์: ซอยเล็ก ๆ เรียงด้วยบ้านไม้ล้อมธงมนต์ จุดชมวิวบนเนิน: เห็นวิวเมืองเก่าครบทั้งวง บ้านไม้ทิเบต: หน้าต่างไม้แกะลาย ถ่ายพอร์ตเทรตสวยมาก จุดเช่าชุดพื้นเมือง: ถ่ายกับตรอกหินเก่าๆ ฟ้าใส เป็นภาพสุดปัง 🌟 ความเด่น เป็นเมืองทิเบตแท้ ๆ ที่เข้าถึงง่าย ชาวบ้านยังใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม มีร้านเช่าชุดพื้นเมืองให้ใส่เดินถ่ายรูปทั่วเมือง ทุกวันช่วงเย็นจะมีการเต้น Guozhuang Dance ใจกลางลานเมือง อาหารพื้นเมืองอร่อย เช่น ข้าวอบเนย โยเกิร์ตโฮมเมด และเนยชาแบบทิเบต 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: Dukezong Ancient Town, Shangri-La, Yunnan เวลาเที่ยว: 8.00 – 18.30 น. ค่าเข้า: ฟรี วิธีเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Shangri-La นั่ง DiDi หรือแท็กซี่ 10–15 นาที จากสนามบิน Shangri-La Airport ใช้เวลาราว 20 นาที คำแนะนำพิเศษ: มาเช้าหรือเย็นจะได้แสงสวย ถ่ายรูปดีที่สุด ห้ามส่งเสียงดังบริเวณวัดหรือบ้านคน ถ้าร่างกายไวต่ออากาศที่สูง ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินเยอะ 🔔 Guishan Park – วัดระฆังทอง สวนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมืองแชงกรีล่าที่ซ่อนอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ แต่เต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งศรัทธา ไฮไลต์ของที่นี่คือ “ระฆังทองทิเบต” ขนาดมหึมา ซึ่งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวร่วมกันหมุนด้วยมือ — เพื่อส่งแรงปรารถนาออกสู่ฟ้า เดินขึ้นมาจากเมืองเก่าแค่ 5–10 นาที จะพบจุดชมวิวที่มองเห็นบ้านไม้แบบทิเบตจากมุมสูง และมีสายลมเย็น ๆ พัดผ่านพร้อมเสียงธงมนต์ปลิวไสว เป็นบรรยากาศที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้งอย่างน่าประหลาด 📖 ประวัติความเป็นมา Guishan Park หรือ “วัดเต่า” (ชื่อภาษาทิเบตหมายถึงภูเขาเต่า) มีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์เพราะสร้างขึ้นหลังเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ใน Dukezong ปี 2014 ตัวระฆังทองขนาดมหึมาที่เห็นทุกวันนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งการฟื้นฟูและปกป้องเมือง ระฆังทองสูงราว 21 เมตร หนักกว่า 60 ตัน มีลวดลายแบบพุทธทิเบต และเป็น “ระฆังทองที่หมุนด้วยมือ” ใหญ่ที่สุดในโลก 📸 มุมถ่ายรูปที่ห้ามพลาด มุมหมุนระฆัง: ถ่ายขณะร่วมหมุนระฆังกับผู้แสวงบุญ จุดชมวิวด้านข้าง: มองลงไปเห็นเมืองเก่าทั้งผืน ซุ้มธงมนต์และเจดีย์เล็ก ๆ บริเวณรอบวัด ถ่ายย้อนแสงแดดเย็น – เงาระฆังฉายลงพื้นเป็นวงศักดิ์สิทธิ์ 🌟 ความเด่น ระฆังทองขนาดยักษ์ “หมุนได้” ด้วยพลังคน บรรยากาศสงบเงียบ เหมาะแก่การอธิษฐาน เป็นจุดชมวิวเมืองแชงกรีล่าที่ใกล้และคุ้มค่าที่สุด นักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นหมุนระฆังพร้อมกัน — กลายเป็นภาพความศรัทธาที่สวยงามและน่าจดจำ ช่วงเย็น – แสงสีทองกระทบระฆัง = รูปสวยแน่นอน! 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: อยู่ติดกับ Dukezong Ancient Town, Shangri-La เวลาเปิด: 7.00 – 19.00 น. ค่าเข้า: ฟรี วิธีเดินทาง: เดินจากเมืองเก่าแชงกรีล่าขึ้นเขา ~10 นาที คำแนะนำ: แนะนำใส่รองเท้าพื้นดี เดินสบาย หากอยากหมุนระฆัง ให้อยู่ฝั่งทวนเข็มนาฬิกา แล้วจับหมุนพร้อมกลุ่มคนอื่น ห้ามตะโกนหรือส่งเสียงดังบนยอดเขา ถือเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ 🎎 กิจกรรมแต่งชุดพื้นเมืองทิเบต – ถ่ายรูปสุดปังในฉากหลังแห่งขุนเขา หนึ่งในกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเยือนแชงกรีล่า คือการ “แต่งชุดพื้นเมืองทิเบต” เดินถ่ายภาพกลางเมืองเก่า Dukezong หรือวัดโบราณต่าง ๆ โดยเฉพาะเมื่อฉากหลังเป็นบ้านไม้ ธงมนต์พริ้วไหว และเทือกเขาหิมะสีขาวตัดกับฟ้าใส — ภาพที่ได้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโปสการ์ดสักใบ 📖 ประวัติความเป็นมา ชุดพื้นเมืองของชาวทิเบตสะท้อนวัฒนธรรม ความเชื่อ และการใช้ชีวิตในพื้นที่สูง เสื้อคลุมยาวแขนกว้าง หมวกทรงสูง และเครื่องประดับสีทอง-เงิน มีที่มาจากทั้งศาสนาและสภาพภูมิประเทศที่ต้องรับมือกับอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทุกสีบนชุดมีความหมาย: แดง = พลัง / ฟ้า = สติปัญญา / เหลืองทอง = ความมั่งคั่ง 📸 จุดถ่ายรูปยอดฮิต ลาน Sifang Square: ธงมนต์ปลิวพร้อมฉากบ้านไม้ หน้าวัดซงจ้านหลิน: ชุดทิเบตกับฉากวัดเหมือนฉากหนังประวัติศาสตร์ สะพานไม้ในเมืองเก่า: ฉากหลังภูเขา+บ้านไม้ — คลาสสิกที่สุด ตรอกหินใน Dukezong: แสงเงาช่วงเช้า-เย็น ทำให้ภาพมีมิติและอบอุ่น ลานระฆังทอง: ถ่ายขณะหมุนระฆัง เป็นภาพพลังศรัทธาที่งดงาม 🌟 ความเด่นของกิจกรรม ชุดสีสันสดใสตัดกับภูเขาและอาคารไม้ — ได้ภาพระดับโปสการ์ด ร้านเช่าให้บริการครบ: เสื้อผ้า, หมวก, เครื่องประดับ และแต่งหน้าทำผม ราคาไม่แพง เริ่มต้นราว 60–120 หยวน (มีค่ามัดจำชุดด้วยขึ้นอยู่กับร้านที่เราเช่า) บางร้านมีช่างภาพท้องถิ่นถ่ายให้แบบมืออาชีพ (มีแพ็กเกจเสริม) ใส่ชุดเดินถ่ายทั่วเมืองได้เลย ไม่มีข้อจำกัด และชาวเมืองยิ้มต้อนรับ! 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัดร้านเช่ายอดนิยม: รอบ Sifang Square, เมืองเก่า Dukezong เวลาแนะนำ: 8.00 – 10.00 น. / 16.00 – 18.00 น. (แสงสวย คนไม่เยอะ) ระยะเวลาเช่า: ส่วนใหญ่คิดเป็นชั่วโมง (หรือครึ่งวัน) (แต่เราต่อรอขอเช่าตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเลยเพราะไปหลายจุด) คำแนะนำ: เลือกชุดที่ตัดกับฉากหลัง เช่น ชุดแดงถ่ายกับฉากวัดสีทอง พกรองเท้าสบายไว้เดิน (บางร้านให้รองเท้าเฉพาะตอนถ่ายรูป) ถามก่อนถ่ายรูปในบางวัดหรือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ 🕉 วัดซงจ้านหลิน (Songzanlin Monastery) – พระราชวังทิเบตแห่งยูนนาน หากใครเคยเห็นภาพ “พระราชวังโปตาลา” อันเลื่องชื่อในทิเบต แล้วคิดว่าไกลเกินเอื้อม… คุณสามารถสัมผัสความยิ่งใหญ่ในแบบเดียวกันได้ที่ วัดซงจ้านหลิน หรือ Ganden Sumtseling Monastery ในเมืองแชงกรีล่า มณฑลยูนนาน วัดแห่งนี้เปรียบได้กับหัวใจของศาสนาพุทธนิกายทิเบตในจีนตะวันตกเฉียงใต้ รายล้อมด้วยขุนเขาและสระน้ำเงียบสงบ สะท้อนภาพวัดลงบนผิวน้ำราวภาพวาด สถาปัตยกรรมทิเบตแท้ หลังคาสีทองตระหง่าน โดดเด่นกลางฟ้าสีคราม 📖 ประวัติความเป็นมา วัดซงจ้านหลินก่อตั้งในปี ค.ศ. 1679 โดยดาไลลามะองค์ที่ 5 ภายใต้การสนับสนุนของราชสำนักชิง ปัจจุบันเป็นวัดลามะที่ใหญ่ที่สุดในยูนนาน มีพระและสามเณรกว่า 700 รูป ใช้เป็นศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาทิเบต และยังคงรักษาขนบธรรมเนียมวัดแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน ชื่อ “Ganden Sumtseling” มาจากภาษาทิเบต แปลว่า “ที่พักแห่งความเมตตาอันยิ่งใหญ่” 📸 มุมถ่ายรูปที่ห้ามพลาด สะพานไม้ทางเข้า: ถ่ายภาพวัดจากระยะไกล เห็นเงาสะท้อนในสระ ลานหน้าประตูวัด: เหมาะกับการถ่ายภาพชุดพื้นเมืองแบบเต็มตัว โถงกลาง (Main Assembly Hall): มีพระพุทธรูปสีทอง, ธงมนต์, โคมแขวน ทางเดินรอบวัด: ได้ภาพเทือกเขา ท้องฟ้า และโครงสร้างหลังคาทิเบตที่โดดเด่น ถ่ายย้อนแสงยามเย็น: สีทองของวัดจะเปล่งประกายจับตา 🌟 ความเด่น สถาปัตยกรรมอลังการ สไตล์ทิเบตแบบแท้ ๆ “พระราชวังโปตาลาเวอร์ชันยูนนาน” บรรยากาศศักดิ์สิทธิ์แต่เข้าถึงง่าย ใส่ชุดพื้นเมืองทิเบตมาถ่ายรูป = ภาพระดับโปสเตอร์ ได้สัมผัสวิถีพระลามะ และวัฒนธรรมที่ยังคงดำรงอย่างเข้มแข็ง 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: ห่างจากตัวเมืองแชงกรีล่าประมาณ 5 กม. เวลาเปิด: 8.00 – 17.00 น. ค่าเข้า: 75–100 หยวน (รวมค่ารถ shuttle bus จากทางเข้า) การเดินทาง: ใช้แอป DiDi จากตัวเมืองใช้เวลาประมาณ 15 นาที คำแนะนำ: หากใส่ชุดพื้นเมือง แนะนำมาช่วง 9.00 – 10.30 หรือ 15.30 – 17.00 น. แสงนุ่ม ถ่ายรูปสวย หลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังในโถงบูชา ห้ามถ่ายรูปภายในบางจุด เช่น ห้องสวดมนต์ ต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ ☕ Heidou Cafe – คาเฟ่ที่อบอุ่นที่สุดในอากาศเย็น หลังจากเดินชมวัดซงจ้านหลินอันศักดิ์สิทธิ์ บางคนอาจอยากหามุมเงียบ ๆ นั่งพัก มองวิว และละเลียดความประทับใจให้ลึกลงในใจ… และนั่นคือเหตุผลที่เรามาจบวันเบา ๆ ที่ Heidou Cafe คาเฟ่ไม้สไตล์ทิเบตกลางเมืองแชงกรีล่า ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟอุ่น ขนมโฮมเมด และวิวทิวเขาที่ทอดไกลสุดสายตา ที่นี่ตกแต่งเรียบง่ายแต่ใส่ใจทุกมุม โต๊ะไม้ เก้าอี้ผ้า ผนังอิฐโบราณแบบทิเบต มีหมอนนุ่ม ๆ วางไว้ริมหน้าต่างให้คุณซุกตัวชมวิวได้นานเท่าที่อยากอยู่ 📖 เมนูแนะนำ ลาเต้เนย (Yak Butter Latte): รสกลมกล่อม หอมมันแบบท้องถิ่น ชีสเค้กยูนนาน: ทำจากชีสนมจามรี เสิร์ฟพร้อมแยมผลไม้ป่า ขนมปังย่างเนยทิเบต: หอม กรอบ เสิร์ฟคู่ชาร้อน 📸 มุมถ่ายรูปที่ห้ามพลาด มุมหน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นภูเขาและเมืองเก่า ฉากหลังเป็นผนังอิฐ + โคมไฟทิเบต = รูปวินเทจอบอุ่น มุมบาร์กาแฟตกแต่งด้วยไม้ แสงสวยตอนบ่าย ถ่ายภาพคู่แก้วกาแฟกับเบเกอรี = เหมือนโปสการ์ด 🌟 ความพิเศษขอที่นี่ คาเฟ่ของคนท้องถิ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้ มี Wi-Fi และปลั๊กไฟ เหมาะนั่งทำงานหรือพักระหว่างวัน เปิดเพลงบรรเลงทิเบตผสมแจ๊สเบา ๆ เพิ่มความละมุน ให้ความรู้สึก “Slow Travel” จริง ๆ 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: ห่างจาก Songzanlin Monastery ~10 นาทีโดยรถ DiDi เวลาเปิด: 9.00 – 18.30 น. ค่าใช้จ่าย: กาแฟเริ่มที่ 25 หยวน / เบเกอรี 20–35 หยวน วิธีเดินทาง: ใช้แอป DiDi หรือเรียกแท็กซี่ท้องถิ่นจากวัดซงจ้านหลิน คำแนะนำ: มาช่วง 15.00–17.00 น. แสงสวย วิวดี คนไม่แน่น พกเสื้อคลุม เพราะอุณหภูมิในคาเฟ่เย็นสบายแม้แดดจัด ถ้าคุณอยากปิดวันในแชงกรีล่าแบบอบอุ่น นั่งจิบอะไรอุ่น ๆ แล้วปล่อยใจนิ่ง ๆ สักพัก… Heidou Cafe คือคำตอบครับ 🧡 🏁 จบทริป… แต่ไม่จบแรงบันดาลใจ กว่า 10 วันที่เราออกเดินทางจาก คุนหมิง สู่ ต้าหลี, ลี่เจียง, และสุดท้าย แชงกรีล่า — ทุกเมืองคือภาพจำที่แตกต่าง แต่เรียงต่อกันได้อย่างลงตัวเหมือนบทกวีแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมจีน จากลมเย็นบนภูเขาแห่งต้าหลี ที่พัดผ่านเจดีย์สามองค์และทะเลสาบเอ๋อไห่ สู่เมืองเก่าลี่เจียงที่งดงามราวเทพนิยาย และปิดท้ายด้วยอ้อมกอดของขุนเขาแชงกรีล่า ที่มอบความสงบให้หัวใจอย่างน่าประหลาด เราเลือก เดินทางกลับคุนหมิงด้วยรถไฟความเร็วสูง อีกครั้ง — คราวนี้เปลี่ยนเป็น ที่นั่งชั้น 1 เพื่อให้นอนยาวแบบสบาย ๆ ตลอดเส้นทาง 5 ชั่วโมง ผ่านวิวที่เปลี่ยนจากภูเขาเป็นเมือง จากเมืองเป็นฟ้าใส ยิ่งทำให้รู้สึกว่า...การเดินทางไม่ใช่แค่การไปถึงจุดหมาย แต่คือช่วงเวลาที่ได้ทบทวนทุกความทรงจำ เมื่อมาถึงคุนหมิง เราพักที่นี่อีก 1 คืน — เพื่อปิดท้ายทริปด้วยการเดินตลาดท้องถิ่น แวะซื้อของฝากพื้นเมืองอย่างชาหอม, ขนมยูนนาน, และของตกแต่งบ้านจากไม้แกะสลัก ก่อนจะบินกลับไทยในเช้าวันรุ่งขึ้น 🎒 สรุปความรู้สึก ถ้าคุณกำลังมองหาทริปที่ “ครบทั้งวัฒนธรรม ธรรมชาติ ความสงบ และมุมถ่ายรูปสวย” โดยไม่ต้องพึ่งทัวร์ เส้นทาง คุนหมิง – ต้าหลี – ลี่เจียง – แชงกรีล่า คือคำตอบ ทุกการเดินทาง เราไปเองได้จริง แค่มี Passport และใจกล้าหน่อย ก็เที่ยวจีนไม่ได้ยากอย่างที่คิด 🧳 Tips เล็ก ๆ ที่ช่วยให้เที่ยวจีนง่ายขึ้นเยอะ! 🇨🇳 เที่ยวจีนแบบไปเอง ถึงจะสะดวกด้วยรถไฟความเร็วสูงและเมืองท่องเที่ยวที่เป็นมิตร แต่ก็มี “รายละเอียดเล็ก ๆ” ที่ช่วยให้คุณพร้อมมากขึ้นอีกระดับ 🍜 จีนไม่ใช้ช้อน! ที่จีนร้านอาหารส่วนใหญ่ ไม่มีช้อน-ส้อมให้ และจะเสิร์ฟทุกอย่างพร้อม “ตะเกียบ” เท่านั้น — แม้จะมีซุปหรือข้าวก็ตาม ✅ แนะนำ: พกช้อน-ส้อมพกพาไปเอง จะสบายใจกว่า โดยเฉพาะใครที่ใช้ตะเกียบไม่คล่อง 🧻 ทิชชู่เปียกคือผู้ช่วยชีวิต หลายร้านอาหารไม่มีทิชชู หรือห้องน้ำในบางสถานีอาจไม่มีน้ำล้างมือ ✅ พก ทิชชู่เปียก + ทิชชู่แห้ง ติดกระเป๋าตลอดวัน จะอุ่นใจที่สุด 📱 แอพแปลภาษา คนจีนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ โดยเฉพาะคนขับรถ แม่ค้า หรือเจ้าของร้านอาหาร ✅ ดาวน์โหลด Google Translate และเปิดโหมดแปลภาพจากกล้อง / พิมพ์ภาษาจีนให้เขาอ่านได้เลย 💸 แอพจ่ายเงิน (ทางรอดเรื่องเงิน!) หลายร้านในจีน โดยเฉพาะร้านเล็ก-ร้านท้องถิ่น ไม่รับเงินสดหรือบัตรเครดิต และรับเฉพาะ Alipay / WeChat Pay ✅ วิธีที่สะดวกที่สุดคือ: สมัคร Alipay แบบนักท่องเที่ยว (TourPass) ใช้บัตรเครดิตเติมเงินเข้าแอพได้เลย หรือใช้ WeChat Pay โดยผูกบัตร Visa/MasterCard ได้เช่นกัน และอย่าลืมติดตามตอนต่อไปของเราด้วยนะครับ เพราะโลกกว้างกว่าที่คุณคิด และการเดินทางครั้งหน้า อาจทำให้คุณอยากออกเดินทางทันทีที่อ่านจบ ✨✈️ เครดิตภาพ :"รูปภาพทั้งหมดเจ้าของบทความเป็นผู้ถ่ายเองและสร้างมาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นครับ" อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !