เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สวัสดีครับนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ ผู้เขียนมีวัดดี ๆ มานำเสนออีกแล้วครับท่าน...วันนี้จะเสนอเกี่ยวกับวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง ครับที่ว่าคือ “วัดท่าจำปี (ต้นหัด)” วัดแห่งนี้มีหลวงปู่ครูบาดวงดี เป็นอดีตเจ้าอาวาส (ผู้เฒ่าผู้แก่ นักสะสมนิยมพระเครื่องจะรู้จักเป็นอย่างดี ถ้าใครเอ่ยว่ากุมารทองที่ไหนดี จะตอบพร้อมกันว่า “วัดท่าจำปี ปู่ครูบาดวงดี”) เหตุที่กล่าวเช่นนั้นเพราะตอนที่หลวงปู่ครูบาท่านยังไม่มรณภาพท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องรางของขลังหนะครับ (ผู้เขียนยังมีวัวธนู, กุมารทองที่บูชามาจากวัดเก็บไว้ด้วย) คำว่า “ครูบา” เป็นภาษาถิ่นเหนือหมายถึง พระผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และตั้งตนอยู่ในวัตรปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมีทั้งสายนักพัฒนา สายกรรมฐานหรือแม้กระทั่งแต่สายคาถาอาคมมนต์ขาว (ช่วยเหลือ คนเดือดร้อน ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ฯลฯ) เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดแรก เมื่อเข้ามาในวัด ทางด้านซ้ายมือจะพบกับองค์พระราหูอมจันทร์สีดำตั้งในอยู่ศาลาท่านสามารถมากราบขอพรได้ และผู้เขียนทราบว่าหากใครบนบานสานกล่าวไว้ เมื่อได้ตามที่ขอท่านต้องเอาของดำ 7 อย่างมาถวาย (เช่น ไก่ดำ ขนมที่มีสีดำ อะไรทำนองนี้) จุดถัด มาจะเป็นพระโพธิสัตว์องค์สีทองตั้งประดิษฐานอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ของฝ่ายมหายานเพราะเท่าที่ดูจากพุทธลักษณะแล้วค่อนข้างเด่นชัดว่าเป็นพระโพธิสัตว์ฝ่ายมหายาน (เสริมความรู้นิดหน่อยครับศาสนาพุทธเราจะมีอยู่ 2 นิกายใหญ่ ๆ คือ 1. หินยาน 2. มหายาน) เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่สอง พระวิหาร หน้าพระวิหารจะมีรูปปั้นพญานาคท่อนบนสีเขียวท่องล่างตั้งแต่เอวลงไปจะเป็นพญานาคมือสองข้างจะถือพญานาคตัวเล็ก ๆ ไว้ข้างละตัวในพระวิหารแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปกราบขอพรพระประธานได้ เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่สาม จะพบกับศาลาศรีบูรพาจารย์พระอริยสงฆ์ 4 ภาคจะมีรูปปั้นหลวงปู่ทวด สมเด็จพุฒาจารย์โต และมีพระอริยสงฆ์อีก 2 องค์ ถัดมาจะพบกับพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่อยู่ในซุ้ม ต่อมาบริเวณด้านข้างจะพบกับเจ้าแม่กวนอิมองค์สีขาวตั้งประดิษฐานอยู่ตรงนี้ท่านสามารถเข้าไปกราบขอพรได้ทางวัดกระซิบมาว่าศักดิ์สิทธิ์มาก เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่สี่ พระเจดีย์องค์สีทองขนาดใหญ่มีลักษณะเป็นศาลาโดยรอบคาดว่าใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาหรือใช้ประกอบพิธีกรรมในวันสำคัญต่าง ๆ ของพุทธศาสนิกชนแต่วันนี้ทางวัดไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมด้านในคาดว่าคงจะมีการปิดปรับปรุงเพื่อบูรณะซ่อมแซม เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่ห้า พระวิหารใหญ่ พระวิหารหลังนี้มีหลายจุดที่น่าสนใจเริ่มจากจุดแรก ที่ขึ้นไปบนพระวิหารท่านจะพบกับตู้จำหน่ายวัตถุมงคลของที่ระลึกโดยทางวัดเปิดให้เช่าบูชาเท่าที่เห็นจะมีรูปเหมือนองค์เล็กหลวงปู่ครูบาดวงดี ผ้ายันต์ กุมารทอง ตะกรุดที่ครูบาท่านเคยปลุกเสกสำหรับราคาท่านสามารถสอบถามทางวัดเพื่อขอเช่าบูชาได้ ถัดมาจะเป็นจุดร่วมทำบุญถวายผ้าห่มพระธาตุโดยเมื่อทำบุญ (บริจาคปัจจัยตามกำลังศรัทธา) ท่านสามารถเขียนชื่อ-สกุลของท่าน และของครอบครัวลงบ่นผ้าห่มพระธาตุได้ ทางภาคเหนือจะมีการจัดให้มีประเพณีเปลี่ยนผ้าพระธาตุ โดยเชื่อว่าหากใครได้ร่วมบริจาคปัจจัยหรือว่าร่วมมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ้าพระธาตุแล้วเมื่อนำผ้าผืนใหม่ไปล้อม (ห่ม) รอบพระธาตุจะได้รับอานิสงส์ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขไปที่ไหนก็มีแต่ความเจริญ ทำมาค้าขึ้นปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง ถัดมาจะเป็นการทำบุญตักบาตรพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน โดยสามารถเอาเงินเหรียญใส่ในบาตรตามพระประจำวันเกิดของตนได้ตามกำลังศรัทธา จุดถัดมาในพระวิหารเช่นเดียวกันถือว่าเป็นจุดที่สำคัญมาก คือ บริเวณเก็บสรีระสังขารหลวงปู่ครูบาดวงดีที่บรรจุในโลงแก้ว นักท่องเที่ยวหรือพุทธศาสนิกชนเมื่อมาถึงแล้วต้องมากราบให้ได้สำหรับสรีระสังขารของหลวงปู่ครูบาดวงดีท่านไม่เน่า ไม่เปื่อยทางวัดได้เก็บไว้หลายปีแล้วลูกศิษย์ลูกหาหรือประชาชนพุทธศาสนิกชนสามารถเวียนมากราบสักการะได้ทุกวัน เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) เมื่อขึ้นไปกราบสรีระสังขารหลวงปู่ครูบาดวงดีเรียบร้อยแล้ว บริเวณด้านหน้าศาลาที่ขึ้นไปกราบสรีระสังขารของหลวงปู่ครูบาดวงดีจะมีพระธาตุจำลอง 12 ราศีนะครับตั้งไว้บริเวณด้านหน้าท่านสามารถเข้าไปดูว่าท่านเป็นเกิดราศีใด และมีพระธาตุประจำปีเกิดอะไรสามารถเข้าไปกราบไหว้พระธาตุปีเกิดของตนเองได้โดยไม่จำเป็นจะต้องเดินทางไปยังสถานที่จริงซึ่งอยู่พระธาตุประจำปีเกิดบางองค์ อยู่ต่างประเทศ เช่น พระธาตุชเวดากอง ประเทศพม่า ประจำปีเกิดปีมะเมีย (ม้า) พระธาตุหริภุญชัยประจำปีเกิดปีระกา (ไก่) เป็นต้น เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สำหรับการเดินทางมาวัดแห่งนี้ไม่ยากท่านเดินทางมาโดยใช้เส้นทางหลักทางหลวงสาย 108 ถนนเชียงใหม่-จอมทอง ขับตรงมาเรื่อย ๆ ผ่านอำเภอสันป่าตองมาจะพบกับป้ายบอกทางเข้าวัดแล้วเลี้ยวขวาเข้ามาตามป้ายอีก 3.5 กม. ก็จะพบกับจุดหมายดังกล่าว อย่าลืมนะครับเป็นอีกหนึ่งวัดที่ต้องห้าม (พลาด) เข้ามากราบสรีระสังขารหลวงปู่ครูบาดวงดีแล้วแล้วท่านจะพบเจอกับสิ่งดี ๆ สำหรับวันนี้ธรรมะสวัสดีสวัสดีครับ