รีเซต

วิธีขอ วีซ่าเชงเก้น สำหรับเที่ยวยุโรป 2023 ขออย่างไร เข้าได้กี่ประเทศ?

วิธีขอ วีซ่าเชงเก้น สำหรับเที่ยวยุโรป 2023 ขออย่างไร เข้าได้กี่ประเทศ?
แมวหง่าว
24 มกราคม 2566 ( 09:40 )
41.1K
2

     ปัจจุบันการไปเที่ยวแถบประเทศเพื่อนบ้านนั้นไปได้อย่างง่ายดาย บางที่ไม่ต้องทำวีซ่าด้วยซ้ำไป แต่กับการเดินทางไปยุโรปสำหรับมือใหม่อาจเป็นเรื่องน่ากลัว และไม่คุ้นเคยอย่างที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของ การขอวีซ่าเชงเก้น (Shengen Visa) ที่เราจะได้ยินคำนี้เป็นประจำถ้าอยากไปเที่ยวยุโรป

 

 

วิธีขอ วีซ่าเชงเก้น สำหรับเที่ยวยุโรป 2023 ขออย่างไร เข้าได้กี่ประเทศ?

 

วีซ่าเชงเก้นมีกี่ประเทศ ประเทศอะไรบ้าง?

 

     วีซ่าเชงเก้น เป็นวีซ่าสำหรับกลุ่มประเทศในโซนยุโรป ที่เราใช้เดินทางท่องเที่ยวข้ามแดนได้เลย โดยไม่ต้องขอเข้าประเทศในทุกๆ ประเทศที่ไปโดยใช้ใบอนุญาตเพียงใบเดียวนั่นเอง โดย 26 ประเทศเชงเก้น ได้แก่

 

  • ออสเตรีย
  • เบลเยี่ยม
  • สาธารณรัฐเชก
  • เดนมาร์ก
  • เอสโตเนีย
  • ฟินแลนด์
  • ฝรั่งเศส
  • เยอรมนี
  • กรีซ
  • ฮังการี
  • อิตาลี
  • ลัตเวีย
  • ลิธัวเนีย
  • ลักเซมเบิร์ก
  • มอลตา
  • เนเธอร์แลนด์
  • โปแลนด์
  • โปรตุเกส
  • สโลวาเกีย
  • สโลวีเนีย
  • สเปน
  • สวีเดน
  • นอร์เวย์
  • ไอซ์แลนด์
  • สวิตเซอร์แลนด์
  • ลิกเตนสไตน์

====================

 

ประเภทของวีซ่าเชงเก้น

 

 

     สำหรับประเภทของเชงเก้นนั้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ส่วนจะเลือกขอแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเดินทางของเราเป็นหลักครับ ดังนี้

 

  1. วีซ่าแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน (วีซ่าประเภท A)

    สำหรับพลเมืองจากประเทศนอกเขตเชงเก้นบางประเทศที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินไปยังประเทศที่สาม และต้องการแวะเปลี่ยนเครื่ิองที่สนามบินในเขตเชงเก้น ก็จะต้องขอวีซ่าแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน


  2. วีซ่าเดินทางผ่านหรือทรานซิท (วีซ่าประเภท B)

    เป็นวีซ่าที่มีอายุไม่เกิน 5 วัน สำหรับผู้ที่ถือพาสสปอร์ต ที่ไม่ได้เป็น visa-free สำหรับประเทศปลายทาง (ที่ไม่ใช่เชงเก้น) เช่น คนไทย จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ต้องมีวีซ่าอเมริกา กรณีนี้หากจะแวะ”ผ่าน” ยุโรป ก็เข้าข่ายต้องขอวีซ่าประเภท B แต่ได้ไม่เกินครั้งละ 5 วันเท่านั้น


  3. วีซ่าพำนักระยะสั้น (วีซ่าประเภท C)

    ออกให้กับการเดินทาง 1 ครั้ง, 2 ครั้ง หรือหลายครั้ง โดยมีระยะเวลาที่อนุญาตให้พำนักแตกต่างกันออกไป แต่ไม่เกิน 90 วัน ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน *ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะขอวีซ่าเชงเก้นประเภทนี้*


  4. วีซ่าเข้าได้แค่ประเทศที่ขอ (วีซ่าประเภท D)

    เป็นวีซ่าแบบ Long Stay อยู่เกิน 90 วัน ใช้เข้าได้เฉพาะประเทศที่คุณขอไปเท่านั้น เช่นขอที่สถานฑูตเบลเยี่ยม วีซ่านักเรียน สถานทูตจะออกวิซ่า type D ให้ คือต้องเข้าเฉพาะเบลเยี่ยม และห้ามออกไปประเทศอื่น จนกว่าจะไปทำเรื่องขอ ID นักเรียนที่เบลเยี่ยมซะก่อน พอได้ ID นี้แล้วถึงสามารถเดินทางไปประเทศในกลุ่มเชงเก้นประเทศอื่นได้ แต่ถ้าเป็นวีซ่าเชงเก้นของประเทศฝรั่งเศส จะสามารถเข้าออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นด้วยกันได้เลย

====================

 

อายุของวีซ่าเชงเก้น

 

     สำหรับอายุของวีซ่านั้นขึ้นอยู่กับรายการท่องเที่ยว (Itinerary) ที่คุณจะเดินทาง เช่น คุณเดินทางไปยุโรป 15 วัน ก็ได้ วีซ่าเชงเก้น 15 วัน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสถานทูตเจ้าหน้าที่ โดยมีวิธีการเลือกขอวีซ่าเชงเก้น ดังนี้

 

  1. กรณีที่เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้น และใช้ระยะเวลาในการพำนักแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ให้เรายื่นขอวีซ่าประเทศที่เราพำนักนานที่สุด เช่น หากในทริปนั้นเดินทางไปฝรั่งเศส 8 วันและ อิตาลี 5 วัน ให้ขอยื่นตรวจวีซ่าผ่านประเทศฝรั่งเศส

  2. กรณีที่เดินทางเฉลี่ยเท่ากันทุกประเทศ ให้เริ่มต้นขอที่ประเทศที่เข้าเป็นประเทศแรก

====================

 

เอกสารการขอวีซ่าเชงเก้น

 

 

1. แบบฟอร์มคำร้องยื่นขอวีซ่า

     บางประเทศสามารถปริ้นท์ออกมากรอกลายมือได้ แต่บางประเทศให้กรอกออนไลน์ ดังนั้นควรเข้าไปดูที่เว็บไซต์สถานทูตของประเทศนั้นๆ

*กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาสูติบัตรประกอบ

**กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีที่ไม่ได้เดินทางกับบิดาและหรือมารดา ต้องทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศ พร้อมลงลายมือชื่อบิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย โดยต้องเป็นเอกสารที่ออกให้โดยสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ พร้อมแนบหลักฐานแสดงฐานะทางการเงิน และสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครอง หรือผู้สนับสนุนค่าเดินทาง ลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง

***กรณีที่ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปีที่เดินทางกับบิดาหรือมารดาเพียงคนใดคนหนึ่ง ต้องมีเอกสารการยินยอมและหลักฐานรับรองว่ามีอำนาจในการปกครองผู้เยาว์ จากสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ในช่องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ให้ใส่ Parents และให้ลงชื่อทั้งพ่อและแม่

 

2. พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาหน้าพาสปอร์ต

     และหน้าที่มีตราประทับทุกหน้า พาสปอร์ตควรมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันยื่นขอวีซ่า และมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากระยะเวลาที่ได้ระบุไว้ในคำร้อง (ถ้ามีเล่มเก่า ให้ติดไปด้วย)

 

3. รูปถ่าย 2 ใบ ขนาด 2 นิ้ว

     ฉากหลังสีขาว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (บางประเทศกำหนดรายละเอียดขนาดของรูปค่อนข้างละเอียด ควรศึกษาที่เว็บไซต์ของสถานทูตเป็นหลัก)

 

4. หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ

     โดยต้องระบุตำแหน่ง วันที่เริ่มงาน เงินเดือน ช่วงเวลาที่อนุมัติให้ลา (ซึ่งต้องครอบคลุมวันที่เราจะเดินทาง ถึงวันที่กลับมา) พร้อมลายเซ็นและตราประทับบริษัท ซึ่งหากใครเป็นเจ้าของกิจการ ให้ใช้ใบจดทะเบียนการค้า/ ใบจดทะเทียนบริษัท พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนผู้ที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษาก็ขอหนังสือรับรองสถานภาพนักเรียน นักศึกษา(ภาษาอังกฤษ) ที่ออกโดยทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย

 

5. เอกสารรับรองสถานภาพทางการเงิน

     เพื่อยืนยันถึงความสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในระหว่างการพำนักอยู่ในกลุ่มประเทศเชงเก้นได้ โดยหลักควรเตรียม Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของบัญชี โดยสามารถไปยื่นขอเอกสารได้ที่ธนาคาร แจ้งว่าเพื่อขอวีซ่าเชงเก้น อาจพกสมุดบัญชีตัวจริงและสำเนาหน้าบัญชีเคลื่อนไหวย้อนหลัง 3 เดือน (บรรทัดสุดท้ายของบัญชีเป็นวันที่ที่อัพเดตไม่เกิน 15 วันก่อนไปขอวีซ่า) เพื่อความเรียบร้อยของเอกสาร แนะนำให้ศึกษาข้อกำหนดของสถานทูตแต่ละประเทศ

 

6. ประกันการเดินทาง

     เป็นส่วนสำคัญมาก หากไม่มีอาจโดนปฏิเสธการขอวีซ่าได้ การซื้อประกันต้องระบุให้ครอบคลุมทั้งทวีปยุโรป (ระบุเป็น EUROPE) ตั้งแต่ระยะเวลาไป – กลับ วงเงินคุ้มครองทั้งค่าพยาบาล หรือประกันอื่นๆ ขั้นต่ำ 1,500,000 บาท ( 30,000 ยูโร) สามารถเช็ครายชื่อบริษัทประกันที่สถานทูตรับรองได้จากเว็บไซต์ของสถานทูตประเทศนั้นๆ (สามารถซื้อประกันออนไลน์ และปริ้นท์เอกสารออกมาได้เลย)

 

7. ตั๋วเครื่องบิน ระบุวันเดินทางไป-กลับ

     อาจเตรียมเป็นแค่เอกสารการจอง (ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินก่อน การขอวีซ่าเชงเก้น ) โดยคุณอาจได้รับการร้องขอให้แสดงตั๋วเครื่องบินจริงที่ชำระเงินแล้วก่อนทำการออกวีซ่า

 

8. แผนการเดินทาง (Itinerary)

     ระบุวันที่ เมืองที่จะไป เดินทางด้วยพาหนะอะไร รายละเอียดคร่าวๆ ของแพลนเที่ยว ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีตั๋วพาหนะนั้นๆ ประกอบเลย เป็นเครื่องการันตีว่าคุณสามารถเดินทางภายในประเทศเชงเก้นได้

 

9. หลักฐานการจองที่พัก

     ปริ้นท์ใบจองออกมาเรียงตามแผนการเดินทางของคุณ พร้อมชื่อ, ที่อยู่, อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรม ซึ่งต้องมีรายชื่อผู้เดินทางทุกคนในใบจอง (ควรเลือกจองแบบยกเลิกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เผื่อเปลี่ยนแพลน)

 

10. เอกสารทางราชการ

     ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง ทะเบียนบ้านตัวจริง ทะเบียนสมรส, ทะเบียนหย่า, ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) พร้อมสำเนา ลงนามสำเนาถูกต้อง

 

11. ค่าธรรมเนียมการออกวีซ่า

     ค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่าพำนักระยะสั้นอยู่ที่ 80 ยูโร รวมทั้งค่าบริการอื่นๆ ของศูนย์วีซ่าอีกประมาณ 500-800 บาท แต่ในบางกรณี อาจจะมีการลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม*



     *สำหรับพลเมืองของประเทศนอกสหภาพยุโรป ที่มีฐานะเป็นสมาชิกครอบครัวของพลเมืองสหภาพยุโรปหรือประเทศในความตกลงเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA Agreement) ที่ใช้สิทธิ์เดินทางโดยเสรี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

 

     *ยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี นักเรียน นักศึกษาระดับปริญญาโทและครูผู้ติดตามที่เดินทางด้วยวัตถุประสงค์ทางการศึกษาหรืออบรม และนักวิจัยที่กำลังทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ตามที่นิยามไว้ใน Recommendation 2005/761/EC สามารถติดต่อสถานทูตประเทศนั้นๆ เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้

====================

 

เรื่องสำคัญของการขอวีซ่าเชงเก้น 

 

     การขอวีซ่าเชงเก้น ผู้ยื่นจำเป็นที่จะต้องมายื่นคำร้องขอวีซ่าด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อสแกนลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการสมัครขอวีซ่าครั้งต่อไปภายในระยะเวลา 5 ปี และสามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนวันเดินทาง โดยต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าอย่างน้อย 15 วัน ก่อนการเดินทาง (เนื่องจากกระบวนการพิจารณาวีซ่าอาจใช้เวลาถึง 15 วัน หรือนานกว่านั้น แล้วแต่กรณี) ยิ่งช่วงเดือนเมษายน ตุลาคม และธันวาคม เป็นช่วงที่มีนักเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ควรวางแผนการขอวีซ่า เผื่อเวลาให้ดี อีกทั้งในบางประเทศจำเป็นต้องนัดหมายก่อนเข้ายื่นขอวีซ่า เช่น ออสเตรีย หรือเช็ก เป็นต้น รวมถึงบางประเทศต้องขอวีซ่าผ่านตัวแทนอย่าง VFS Global หรือ TLSContact เช่น สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรีย เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

 

     นี่เป็นหลักเบื้องต้นของการเตรียมตัวไปขอวีซ่าเชงเก้น ขอแค่เตรียมหลักฐานทุกอย่างถูกต้องครบถ้วน รับรองผ่านฉลุยแน่นอนครับ

====================