พักหลังมานี่ เมื่อชวนใครกลับไปเยี่ยมบ้านที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ก่อนนำชมสถานที่อื่น ๆ เป็นต้องประเดิมด้วยสะพานมิตรภาพ ไทย-มาเลเซีย ณ บ้านบูเก๊ะตา ก่อนเสมอ คล้าย ๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องนำเสนอไปเสียแล้ว สะพานมิตรภาพแห่งนี้ เป็นจุดที่ 2 เชื่อมต่อกับบ้านบูกิตบุหงา รัฐกลันตัน เป็นสะพานคอนกรีต 2 ช่องจราจร ยาว 120 เมตร กว้าง 16.9 เมตร ดำเนินการสร้างโดยกรมทางหลวงของไทย และกรมโยธาธิการ มาเลเซีย นอกจากเป็นหนึ่งในแผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย และยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียแล้ว ยังสร้างในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและมาเลเซียอีกด้วย มีการลงนามโครงการเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2547 มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ส่วนสะพานมิตรภาพ แห่งแรกตั้งอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก ภาพโดยผู้เขียน แม้มีสะพานใช้เป็นทางการ ชาวบ้านบางส่วนก็ยังนั่งเรือข้ามฟากเพื่อทำธุระ ซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือพบปะมิตรสหายอยู่ตามปกติ แม่น้ำที่เป็นพรหมแดนเขตนี้ ชื่อว่า แม่น้ำสุไหงโก-ลก เมื่อยังเด็กผมกับเพื่อน ๆ มักใช้ลำน้ำย่าน บ้านนูโร๊ะ ซึ่งห่างจากสะพานมิตรภาพไปทางตะวันออกประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นทั้งที่เล่น และที่หาเงิน...ในแม่น้ำความบันเทิง ไม่มีอะไรมากนอกจากดำผุดดำว่าย ส่วนใช้หากินนั่น นอกจากลากตาข่ายดักปลา ดำแว่นยิงปลาด้วยฉมวกแล้ว ยังมีการงมหอย และจับลูกปลาไปขาย อย่างหลังนี่สร้างรายได้ดีทีเดียว ปลาที่ตลาดนิยม คือ ปลาเม่น หรือปลาแรด ในภาษาทางการนั่นเอง ลูกปลาเม่นขนาดนิ้วก้อยเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว รับซื้อกันอยู่ถึงตัวละ 40 บาท สนุกเด็กซนอย่างเราละ ภาพโดยผู้เขียน ถึงตัวจะอยู่ในน้ำที่กั้นเขตแดน แต่เราไม่เคยข้ามไปเกินกว่าครึ่งแม่น้ำเลย เพราะกลัวทหารฝั่งมาเลเซียจับตัวไป เนื่องจากฝั่งนั้นมักมีทหารตั้งค่าย และลาดตระเวนอยู่บ่อย ๆ (ความเป็นจริงเขาคงไม่จับเด็กอย่างเราหรอก แต่ที่กลัวเพราะพ่อแม่ขู่มาอีกที) ครั้งหนึ่งพวกเราขนอาหาร และเครื่องดื่มไปนั่งพักผ่อนยังศาลาริมตลิ่ง (ฝั่งไทย) จู่ ๆ ทหารประเทศเพื่อนบ้านก็กู่ตะโกนข้ามฟากมา ฟังไม่ออกหรอก แต่จับลักษณะท่าทางแล้ว เหมือนเขาอยากได้เครื่องดื่มเย็น ๆ คงคอแห้งเนื่องจากอยู่เวรนาน ด้วยไม่คิดว่าเขาจะข้ามมา เราจึงกวักมือเรียก ทันใดนั้นทหารนายหนึ่งพลันว่ายน้ำข้ามมาหา เรายืนน้ำอัดลมให้ 1 ขวด ส่วนเขามอบเงินให้จำนวนหนึ่ง และรอยยิ้ม ผมเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เพื่อนฟังเสมอ เมื่อไปยืนบนสะพานมิตรภาพ ไทย – มาเลเซีย แห่งที่ 2 แล้วตบท้ายว่า สะพาน คือ ทางเชื่อมมิตรภาพในเชิงเศรษฐกิจ แต่มิตรภาพทางใจ เราใช้รอยยิ้มเป็นสะพาน ภาพโดยผู้เขียน