ฝันที่เป็นจริง และแล้วเราก็ได้ไปเที่ยวกว๊านพะเยาในฤดูหนาว ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่ได้นะเพราะริมกว๊านจะเย็นมาก ลมพัดแรงหนาวจับจิตมาก แต่ปัจจุบันฤดูหนาวแหละดีสุด ลมกำลังสบาย ภาพโดย Sakanaj. เราขับรถมาทางพหลโยธินตัดเข้าสุพรรณ ตรงไปชัยนาท ใช้เลี่ยงเมืองนครสวรรค์ เข้ากำแพง ตาก โผล่ลำปาง ตรงเรื่อย ๆ ไม่ต้องเลี้ยวที่ไหน เข้าพะเยา เลยไฟแดงมหาวิทยาลัยพะเยาไปเล็กน้อย ก็จะมีทางให้เลี้ยวซ้าย ตามป้ายไปกว๊านได้เลย ต่างจังหวัดขับรถสบายกว่าในกรุงเทพฯเยอะ เราพักโรงแรมแถวกว๊านพะเยา พอสาย ๆ ประมาณ 11 โมงก็ออกหาอะไรกิน แล้วก็ขับรถตรงไปนั่งเล่นริมกว๊าน ที่จอดรถเยอะมากโดยเฉพาะบริเวณริมกว๊านจะสามารถจอดได้ยาวจนสุดกว๊านเลย เรากับที่บ้านนั่งรับลมเย็น ๆ กันสักพัก น้องก็พากันเดินไปที่จุดขายตั๋วเพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปไหว้พระที่เกาะกลางทะเลสาบ ภาพโดย Sakanaj. ค่าตั๋วนั่งเรือคนละ 30 บาท เรือหนึ่งลำนั่งได้ 8-10 คน เรารอคิวประมาณ 15 นาที ทางเจ้าหน้าที่มีกฎให้ผู้โดยสารทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพ เรือที่นั่งไปเป็นเรือแจว ดังนั้นคลื่นในทะเลสาบจะไม่ใหญ่เหมือนต้องการให้เรานั่งเรือเล่นแบบสบาย ๆ ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อน ระหว่างนั่งเรือเราคิดว่าจะร้อนแต่ไม่เลยด้วยทะเลสาบเป็นพื้นที่โล่งทำให้รับลมได้รอบทิศจึงทำให้เราเย็นตลอดเวลาที่นั่งในเรือ ภาพโดย Sakanaj. ประมาณ 20 นาทีเรือก็มาถึงวัดกลางน้ำ วัดติโลกอาราม จุดไหว้พระตั้งอยู่กลางแจ้ง ซึ่งร้อนมากเพราะพื้นดูดความร้อนไว้ แต่เราก็เข้าไปจุดธูปไหว้พระ บริเวณโดยรอบวัดจะมีเหมือนเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนที่แตกแล้ววางไว้ให้เราได้ชม เดินเล่นไปแป๊บเดียวเราก็พากันไปอยู่ในศาลาที่พักเพื่อรอเรือลำต่อไปมารับ นั่งรอประมาณครึ่งชั่วโมงได้ เรือก็มารับเรากลับ ภาพโดย Sakanaj. ถามว่าที่กว๊านพะเยามีอะไรให้เราได้ดูมากหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ แต่ที่เรามาบ่อยครั้งก็เพราะบรรยากาศสบาย ๆ เราสามารถห่อข้าวมานั่งกินริมกว๊านได้ เราสามารถเดินเล่นรับลมธรรมชาติได้ และที่สำคัญทะเลสาบแห่งนี้ สงบ ไม่เสียงดังหนวกหู ยิ่งถ้าได้มาตอนเย็น ๆ นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน รับรองว่าติดใจและต้องมาซ้ำอย่างแน่นอน ภาพปกโดย Sakanaj.