สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพบกันอีกแล้วนะคะ ใครที่ติดตามอ่านบทความของเรามาตลอด วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเขาค้อกันค่ะ ไปติดตามกันได้เลย เส้นทางขึ้นไปบนเขาค้อ 🥰 เราเดินทางจากบุรีรัมย์-ไปเขาค้อ ระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร ทางขึ้นเขามีทางเรียบ ทางโค้งบ้าง บรรยากาศตลาดเส้นทางมีหมอกจางๆ มีภูเขาเขียวขจี มีรถผ่านสัญจรตลอดเส้นทาง พอถึงเขาค้อก็ได้ไปยังที่พักก่อน เก็บของเรียบร้อยเกือบถึงเวลาเย็นได้ออกมากินเนื้อย่าง คือเนื้อย่างบนเขาค้อ กินแล้วแบบได้วิวชิวมากค่ะ อีกทั้งเนื้อย่างอร่อยมาก ในราคาชุดละ 500 บาท อร่อยสมคำล่ำลือมาก กลิ่นไอของควัน ผสมผสานกับหมอกจางๆ อากาศ 17 องศา ฟินมากเลยค่ะ จากนั้นกินเนื้อย่างเสร็จเรียบร้อยได้เข้านอนอากาศเย็นมาก จากนั่นตื่นแต่เช้าตรู่มาดูหมอก ปรากฏว่าโชคไม่เข้าเท่าไหร่วันนั้น หมอกมีน้อยแต่ก็ยังมีพอให้เห็น บรรยากาศเหมาะแก่การมาพักผ่อน รับบรรยากาศธรรมชาติ รับโอโซนธรรมชาติ มันคือความสุขที่แท้จริง จากนั้นได้เดินทางไปยังทุ่งดอกเวอร์บีน่า ซึ่งมีค่าเข้าชมคนละ 10 บาท จะพบกับทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ และมีกังหันลมขนาดใหญ่ มีชิงช้า มีระเบียงชมวิว และมีร้านกาแฟอีกด้วย โดยรวมสวยมากค่ะ บรรยากาศที่ทุ่งดอกเวอร์บีน่า สวยงามมากค่ะ จากนั้นได้เดินทางไปยัง pino latte ตั้งอยู่บนภูเขาสูงจะมองเห็นวิววัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เป็นอีกจึดหนึ่งได้ได้ขมวิวสายหมอกและแสงแดด สถานที่นี้เป็นร้านกาแฟสไตล์โมเดิร์น ใครมาเขาค้อต้องแวะเก็บภาพประทับใจกันก่อนได้นะคะ บรรยากาศที่ร้านกาแฟ pino latte วิวสวยมากจ้า ตากนั้นได้เดินทางไปทำบุญไหว้ขอพรที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยความงดงาม อยู่บนทิวเขาเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเขาค้อแล้วต้องแวะมากราบไหว้บูชา วันนี้เราก็ได้ไปกราบไหว้บูชาขอพรเช่นกันค่ะ วิวที่พระธาตุผาซ่อนแก้มประทับใจมากค่ะ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับบ้านที่บุรีรัมย์ สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่ไปพักผ่อน รับโอโซนให้รางวัลชีวิต สถานที่ๆไปประทับใจมากค่ะ มีแต่สวยๆ มีโอกาสจะกลับไปอีกรอบ และจะมารีวิวให้เพื่อนๆได้ฟังอีกนะคะ สำรับการเดินทางครั้งนี้ขอจบเพียงเท่านี้ไว้พบกันใหม่ สวัสดีค่ะ❣️