รีเซต

4 เทคนิคเพื่อชาว Street Food อร่อยพร้อมสุขภาพดี

4 เทคนิคเพื่อชาว Street Food อร่อยพร้อมสุขภาพดี
Muzika
1 มกราคม 2563 ( 17:00 )
623

     เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะที่ไหนๆ ก็ต้องมีอาหารท้องถิ่นหากินง่าย หรือ Street Food เป็นจุดขายประจำแหล่งเสมอ ใครเป็นนักเดินทางที่ชอบสัมผัสวัฒนธรรมด้านอาหารล่ะก็คงแฮปปี้เป็นพิเศษแน่ๆ เดี๋ยวนี้จุดหมายปลายทางด้านการกินมีเยอะแยะมากมายครับ ตั้งแต่ที่ที่เราคุ้นเคยที่สุดอย่าง กรุงเทพฯ หรือประเทศเพื่อนบ้านอย่างฮานอย สิงคโปร์ หรือไกลหน่อยก็เซี่ยงไฮ้ ไทเป เป็นต้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นดินแดน สตรีทฟู้ด ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

 

 

     แต่เรื่องง่ายที่หลายคนมักมองข้ามไป อย่างการรักษาสุขภาพระหว่างการเดินทาง ก็นับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเลยทีเดียว เจ็บท้องป่วยไข้ขึ้นมาต้องลำบากหาหมอจะพาลเที่ยวไม่สนุกเอาครับ วันนี้เราเลยรวบรวมเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้เราเอ็นจอยกับการสำรวจอาหารท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่ แบบไม่ต้องกังวลว่าจะเสียสุขภาพมาฝาก ดังนี้

 

 

1. เตรียมข้อมูลก่อนการเดินทาง

 

 

     เริ่มจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับประเภทอาหาร วัตถุดิบ และเมนูขึ้นชื่อของจุดหมายปลายทางที่เราจะไปก่อน ใครที่กำลังดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับเมนูอาหารท้องถิ่นที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ผ่านกรรมวิธีแต่น้อย และมีส่วนผสมหลักเป็นโปรตีนไร้ไขมัน เน้นผัก และผลไม้ท้องถิ่นจะดีที่สุด นอกจากนี้อาจจะต้องขยันหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารเพื่อสุขภาพในแถบย่านที่พักไว้บ้าง เผื่อเก็บไว้เป็นตัวเลือกระหว่างการเดินทาง

 



2. ลองร่วมโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และอาหารในท้องถิ่น

     ปัจจุบันนี้มีบริการทัวร์พิเศษสำหรับสายกินโดยเฉพาะ ประมาณ Street Food Tour ที่จะมีการพาเดินตระเวนชิมของอร่อยในเมืองนั้นๆ ครับ ซึ่งเราจะได้กินแบบที่คนท้องถิ่นกินจริงๆ เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรม และบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ ส่วนใครที่มีอาการแพ้อาหาร หรือส่วนผสมบางอย่าง การเข้าร่วมโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และอาหารในท้องถิ่นถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะนี่คือโอกาสที่คุณจะได้สะสมความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบ และวิธีการทำอาหารจานโปรดของผู้คนในท้องถิ่น เพื่อดูว่ามีวัตถุดิบหรือกรรมวิธีใดที่เราควรหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษหรือไม่

 

 

     ผักผลไม้ตามฤดูกาลในพื้นที่นั้นๆ มักจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าผลไม้นำเข้า อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกร ร้านค้า และสิ่งแวดล้อมในชุมชนนั้นๆ อีกด้วย

 

 

3. ลองทำด้วยตนเอง

 

 

     หากคุณเป็นนักเดินทางสายสุขภาพ การลงมือทำอาหารด้วยตนเองระหว่างการเดินทางถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณสามารถเลือกใช้วัตถุดิบและควบคุมปริมาณอาหารได้ตามที่ใจต้องการ เช่น ถ้าคุณเป็นมังสวิรัติ แต่อยากกินผัดไทย คุณก็สามารถลองทำผัดไทยสูตรมังสวิรัติได้โดยการใช้เต้าหู้แทนส่วนผสมที่เป็นเนื้อสัตว์ และใช้ซอสถั่วเหลืองแทนน้ำปลา เป็นต้น สำหรับผู้ที่มีอาหารแพ้อาหารประเภทต่างๆ หรือไม่สามารถทานอาหารรสจัดได้ ก็สามารถลองปรุงอาหารจานโปรดประจำท้องถิ่นแบบที่มีรสอ่อนหรือไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถลิ้มลองรสชาติ และเมนูอาหารใหม่ๆได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียสุขภาพ นอกจากนี้ การลงมือทำอาหารด้วยตนเองในสถานที่ใหม่ๆ ยังช่วยสร้างความทรงจำ และความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสถานที่นั้นๆ เกิดเป็นประสบการณ์ผูกพันกับสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมท้องถิ่นในแบบของคุณเอง

 



4. อย่าลืมออกไปสำรวจตัวเลือกในละแวกอื่นๆ

     การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องหมดสนุกกับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะเมื่อเทรนด์การรับประทานอาหารและการดูแลสุขภาพได้กลายเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลก การหาร้านอาหารและร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในภูมิภาคเอเชียกลับกลายเป็นเรื่องง่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นักชิม และนักเดินทางที่รักสุขภาพสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อเดินทางสำรวจร้านอาหาร และร้านขายผลิตภัณฑ์ในชุมชน โดยสามารถแวะเวียนไปยังสถานที่เหล่านี้เพื่อทำความรู้จักกับผู้ผลิต และสินค้าเพื่อสุขภาพชื่อดังของท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับวัฒนธรรมและผู้คนในชุมชนที่มีความชอบคล้ายคลึงกันกับคุณ ทั้งนี้การเดินทางไปสำรวจละแวกต่างๆ ในเมืองจะเป็นไปได้ง่ายขึ้นหากคุณเลือกพักในบริเวณใจกลางเมือง เพราะนอกจากจะเป็นบริเวณที่มักจะมีร้านอาหารและร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหนาแน่นกว่าบริเวณอื่นแล้ว ยังอยู่ใกล้กับระบบขนส่งมวลชน ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เป็นไปได้โดยง่าย และสะดวกสบาย

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพจาก https://www.shama.com