ใครที่หลงรักสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาเที่ยว "ไต้หวัน" ถึงแม้จะเป็นเกาะเล็ก ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เพราะไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหนก็จะเห็นความงดงามของธรรมชาติ อีกทั้งยังได้พบกับวัฒนธรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น วัฒนธรรมของจีนและญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากนี้ไต้หวันยังได้ขนานนามว่าเป็น "Little Japan" แต่หากว่าค่าครองชีพถูกกว่าประเทศญี่ปุ่นมาก และนี่คือสิ่งที่คุณควรค่าแก่การมาเที่ยวไต้หวันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะอิ่มท้องแล้ว คุณยังอิ่มใจไปอีกด้วย การเดินทางในครั้งนี้ยังเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ใครที่อยากพาครอบครัว คู่รัก และเพื่อนก็ย่อมได้ และในครั้งนี้ เราจะพาคุณไปเที่ยว แหลมปี๋โถเจียว Bitou Cape ไต้หวัน การเดินทางก็ไม่ได้ยากอย่างที่ทุกคนคิด เพราะเราสามารถเดินไปเรื่อย ๆ แถมที่นั่นก็มีจุดพักชมวิวให้เราได้ถ่ายรูปสวย ๆ ค่อนข้างเยอะ ค่อย ๆ เดินและแวะถ่ายรูปก็จะสามารถคลายความเหนื่อยล้าได้ แต่ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำวิธีการเดินทางไปแหลมปี๋โถวให้ทุกท่านได้ทราบกันเบื้องต้นก่อนนะคะ เพราะการเดินทางไปที่นั่นก็มีหลากหลายวิธี พวกเราจะแนะนำให้เท่าที่ทราบ ภาพโดย Kat Thanatchaporn การเดินทางที่พวกเราศึกษามาก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี นั่นก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า TRA จากสถานี Taipei Main Station ไปลงสถานี Ruifang (รถไฟออกทุกครึ่งชั่วโมง) โดยเราสามารถเลือกขบวนรถไฟ ขบวนด่วนมาก ใช้เวลาเดินทาง 35 นาที (ราคา 76 NT) ขบวนด่วน ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที (ราคา 59 NT) และขบวนธรรมดา ใช้เวลาเดินทาง (ราคา 58 NT) หลังจากถึงสถานี Ruifang ให้เดินไปขึ้นรถบัสหมายเลข 856 (รถบัสสายนี้จะออกทุกครึ่งชั่วโมง) นั่งไปลงป้าย Bitoujiao G7 นั่งไป 7 ป้าย ทุกท่านก็จะถึง แหลมปี๋โถเจียว Bitou Cape การเดินทางโดยรถบัสสาย 1812 ซึ่งจะออกเวลาประมาณ 08.00 น. และ รถบัสสาย 1811 ซึ่งจะออกเวลาประมาณ 14.20 น. (ราคา 105NT) จากสถานี Taipei Main Station ไปลงป้าย Bitoujiao G7 เดินทางแค่ต่อเดียวถึงไม่วุ่นวายแต่ถ้าไปไม่ทันก็ตกรถนะจ๊ะ ที่นี่ตารางการเดินรถไฟรวมถึงรถบัสตรงเวลามาก ภาพโดย Kat Thanatchaporn พวกเราได้ขึ้นรถไฟขบวนด่วน ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที (59 NT) ภาพโดย Kat Thanatchaporn รถบัสหมายเลข 856 (รถบัสสายนี้จะออกทุกครึ่งชั่วโมง) ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ภาพโดย Kat Thanatchaporn รถบัสหมายเลข 856 (Golden Fulong Shuttle Bus) จะจอดทั้งหมด 12 ป้าย ซึ่งสถานีสุดท้ายคือ Fulong Visitor Center ภาพโดย Kat Thanatchaporn ซึ่งเราจะต้องไปลงที่ป้าย G7 Bitou ภาพโดย Kat Thanatchaporn ในที่สุดก็ถึงสักที ใช้เวลาเดินทางอีก 1.30 ชั่วโมง จะเหนื่อยกับการเดินทางเนี่ยแหละค่ะ 55+ ภาพโดย Kat Thanatchaporn หลังจากนี้จะต้องเดินด้วยเท้าน้อย ๆ ของพวกเราแล้วนะคะ ระยะทาง 850 เมตร ไม่มาก ไม่น้อย พอเดินสนุก ๆ (อย่าลืมพกน้ำขวดเล็ก ๆ ไปด้วยนะคะ) ภาพโดย Kat Thanatchaporn ที่สุดของการเซอร์ไพรส์นั่นก็คือ โรงเรียนประถมศึกษา Bitou Elementary School โรงเรียนที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เพราะข้างหลังโรงเรียนเป็นทะเล ส่วนข้างหน้าโรงเรียนก็เป็นภูเขา ภาพโดย Kat Thanatchaporn กิจกรรมยามว่างของคนในชุมชนที่นี่คือ "การตกปลา" เพราะอาชีพหลักของที่นี่คือ ชาวประมง ภาพโดย Kat Thanatchaporn เอาหละและเป้าหมายของเราในวันนี้ จะต้องเดินไปให้สุดขอบแหลมปี๋โถวไปเลยจ้า ดูจากแผนที่เราสามารถเดินไปจนสุดเส้นทางได้เลย เพราะสุดท้ายแล้วก็จะมาบรรจบที่ป้ายรถบัสที่เราจะต้องขึ้นกลับนั่นเองภาพโดย Kat Thanatchaporn ถ่ายมุมนี้มันดีต่อใจจริง ๆ สวยมากมาย อารมณ์เหมือนนวนิยายที่อยู่กลางเกาะ ภาพโดย Kat Thanatchaporn ถ้าคิดจะเดินแล้ว อย่าคิดหันหลังกลับ (เพราะเพื่อนไม่รอแล้วจ้า) นั่นพวกเธอเดินหรือวิ่ง ภาพโดย Kat Thanatchaporn และแล้วพวกเราก็บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภาพที่คิดคือ จะยืนถ่ายรูปหมู่สวย ๆ พร้อมกับธรรมชาติที่สวยงาม ท้องฟ้าที่ฟ้าสดใส คลื่นทะเลเบา ๆ สายลมชิว ๆ แต่นี่อะไรเนี่ย!! เจอทั้งฝนตก ลมกระโชกแรง (ถึงแม้จะดูพยากรณ์อากาศไปก่อนหน้าแต่ก็ยังหวังว่าคงจะไม่เป็นอะไร) อยากจะบอกทุกคนว่าพยากรณ์อากาศที่ไต้หวันแม่นมาก ก ล้านตัว ถ้าเขาบอกว่าวันนี้จะมีลม มีฝนตก อย่าตากผ้านอกบ้าน มีแดดออกสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ ก็เชื่อเขาไปเถอะ แม่นยิ่งกว่าดูดวง เพราะสามารถพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน ภาพโดย Kat Thanatchaporn สุดท้ายจุดจบของพวกเราก็หาอะไรร้อน ๆ กิน เพื่อคลายความหนาวและคลายความหิว ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่อไป ถึงไม่ได้ตามที่คาดหวัง แต่ก็ต้องขอบอกว่า "แผนการเดินทางที่เราได้เตรียมไว้นั้น หากไม่เป็นไปตามแผน ก็อย่าไปคิดมาก เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนมีทางออกในรูปแบบของมัน" ในที่สุดฉันก็ได้คำตอบแล้วว่า "ฉันมาแหลมปี๋โถเจียวทำไม" หากคุณอยากรู้คำตอบ คุณก็ลองเดินทางไปเที่ยว แหลมปี๋โถเจียว Bitou Cape ไต้หวัน ดูสิ