5 ที่เที่ยวฝรั่งเศส จาก Clair Obscur: Expedition 33 สัมผัสยุคทอง Belle Époque
นาทีนี้ถ้าไม่พูดถึงเกมที่มาแรงที่สุดแห่งปีคงไม่ได้แล้วครับ สำหรับ Clair Obscur: Expedition 33 ที่เพิ่งจะสร้างปรากฏการณ์ กวาดรางวัลใหญ่จากเวที The Game Awards มาหมาดๆ ชนิดที่เรียกว่ากวาดไปทั้งหมด 9 สาขา รวมถึง Game of the Year 2025 ที่เกมเมอร์ทั่วโลกต่างเทใจให้ โดยเฉพาะเรื่องความงามของกราฟิกที่เหมือนภาพวาดมีชีวิต และเกมเพลย์ที่โดดเด่น แต่นอกจากความสนุกแล้ว สิ่งที่ทำให้หลายคนหลงรักคือ "บรรยากาศ" ภายในเกมที่หยิบยกเอาความงดงามของฝรั่งเศสมาถ่ายทอดได้อย่างน่าขนลุก
วันนี้เราเลยจะขอพาทุกคนถอดรหัสงานศิลป์ในเกม แล้ววาร์ปไปเช็กอิน ที่เที่ยวฝรั่งเศส ของจริง ที่ให้ Vibe เดียวกับในเกม เผื่อใครอยากไปสัมผัสความขลังและความอลังการด้วยตาตัวเอง เตรียมจดลิสต์แล้วแพ็คกระเป๋าตามมาเลยครับ!
5 ที่เที่ยวฝรั่งเศส จาก Clair Obscur: Expedition 33
รู้จักยุค "Belle Époque" หัวใจหลักของเกมนี้
Public Domain
ก่อนจะไปเที่ยว ต้องเกริ่นก่อนว่าธีมหลักของ Clair Obscur นั้นได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากยุค Belle Époque (เบลล์ เอป็อก) หรือ "ยุคทองอันสวยงาม" ของฝรั่งเศส (ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1)
เป็นช่วงเวลาที่ปารีสเจริญรุ่งเรืองสุดขีด ทั้งศิลปะ สถาปัตยกรรม และแฟชั่น มีความผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับยุคอุตสาหกรรม และมีความเป็นแฟนตาซีนิดๆ ซึ่งในเกมได้นำธีมนี้มาบิดให้มีความดาร์ก และเหนือจริงมากขึ้น แต่สถานที่จริงที่เราจะพาไปนั้น บอกเลยว่าสวยคลาสสิกสุดๆ ครับ
1. Opéra Garnier (โรงอุปรากรปารีส) - ปารีส
Salvador Maniquiz / Shutterstock.com
ใครชอบฉากตึกสวยๆ ที่มีความวิจิตรตระการตาในเกม ต้องมาที่นี่เลย Opéra Garnier ต้นตำรับความหรูหราแห่งยุค Belle Époque ของแท้! ที่นี่คือมาสเตอร์พีซของสถาปัตยกรรมที่ประดับประดาด้วยทองคำ หินอ่อน และจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องลือ บันไดวนขนาดใหญ่ด้านในให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นตัวละครที่กำลังเดินสำรวจคฤหาสน์ลึกลับในเกม ใครเป็นสายถ่ายรูปสถาปัตยกรรม ห้ามพลาดเด็ดขาด
- จุดเช็กอิน: โถงบันได Grand Staircase และเพดานที่วาดโดย Marc Chagall
2. Mont Saint-Michel (มงแซ็งมีแชล) - นอร์มังดี
แม้ในเกมจะมีเกาะที่ตั้งของเสาหินลึกลับ โมโนลิธ (Monolith) แต่ในโลกความจริง ฝรั่งเศสก็มีวิหารกลางน้ำที่ดูเหนือจริงไม่แพ้กัน นั่นคือ Mont Saint-Michel วิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะหินกลางทะเล เวลาที่น้ำขึ้นจะเหมือนเมืองลอยน้ำที่ตัดขาดจากโลกภายนอก บรรยากาศความเก่าแก่ของกำแพงหินและตรอกซอกซอยแคบๆ ให้ฟีลลิ่งของการออกเดินทางสำรวจ (Expedition) แบบในเกมเป๊ะๆ ยิ่งถ้าไปช่วงหมอกลงนะ บอกเลยว่าขนลุก
- จุดเช็กอิน: ยอดวิหาร Abbey และจุดชมวิวช่วงน้ำขึ้น
3. Petit Palais (เปอตี ปาเลส์) - ปารีส
Pedro Costa Simeao / Shutterstock.com
กลับมาที่ปารีสกันต่อกับ Petit Palais พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ที่สร้างขึ้นเพื่อต้อนรับงาน World Fair (World Expo) ในปี 1900 (ช่วงพีคของยุค Belle Époque พอดี) ประตูทางเข้าสีทองอร่าม และสวนภายในอาคาร ให้บรรยากาศที่เงียบสงบแต่แฝงไปด้วยมนต์ขลัง สไตล์ศิลปะที่นี่มีความเชื่อมโยงกับกราฟิกในเกมที่เน้นความละเมียดละไม ใครอยากเสพงานศิลป์ และบรรยากาศย้อนยุคแบบฟรีๆ (โซนถาวรเข้าฟรี) ต้องจัด
- จุดเช็กอิน: ประตูทองคำหน้าอาคาร และสวนวงกลมด้านใน
4. ย่าน Petite France - สตราสบูร์ก (Strasbourg)
เปลี่ยนบรรยากาศจากความอลังการ มาสู่ความคลาสสิกกันบ้าง ที่เมือง Strasbourg แคว้นอัลซาส โดยเฉพาะย่าน Petite France ตึกรามบ้านช่องที่นี่ดูเหมือนภาพวาดสีน้ำมัน หรือภาพแกะสลักไม้เก่าๆ ซึ่งสอดคล้องกับงานภาพสไตล์ Gustave Doré ที่เป็นแรงบันดาลใจหลักของทีมพัฒนาเกม เดินเล่นแถวนี้จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกนิทานที่เวลาหยุดเดิน
- จุดเช็กอิน: บ้านไม้ทรงโบราณริมคลอง และมหาวิหาร Strasbourg
5. Les Passages Couverts (ทางเดินในร่มแห่งปารีส)
stu.dio / Shutterstock.com
ปิดท้ายด้วย Passages Couverts หรือตรอกทางเดินที่มีหลังคากระจกคลุม ซึ่งฮิตมากในช่วงศตวรรษที่ 19 ภายในตรอกเหล่านี้จะเต็มไปด้วยร้านขายของเก่า ร้านหนังสือเก่า และร้านของสะสมแปลกตา แสงที่ลอดผ่านหลังคากระจกลงมาทำให้เกิดแสงเงา (Chiaroscuro หรือ Clair Obscur ในภาษาฝรั่งเศส) ที่สวยงามและดูลึกลับสมชื่อเกม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปอาจมองข้าม แต่สำหรับแฟนเกมที่อินกับบรรยากาศย้อนยุค ที่นี่คือขุมทรัพย์ครับ
- จุดเช็กอิน: Passage des Panoramas หรือ Galerie Vivienne
ใครที่เล่น Clair Obscur: Expedition 33 จบแล้วยังมูฟออนจากความสวยงามของโลกในเกมไม่ได้ ลองวางแผนมาเที่ยวฝรั่งเศสตามรอยพิกัดเหล่านี้ดูนะครับ รับรองว่าจะได้สัมผัสเสน่ห์ของยุค Belle Époque ที่งดงามจนลืมหายใจ เหมือนได้เดินเข้าไปในฉากเกมจริงๆ เลยล่ะ
====================