สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น หลาย ๆ คน อาจจะนึกถึงดอกซากุระบานในหน้าฤดูใบไม้ผลิ หรือหิมะตกในฤดูหนาว แต่จริง ๆ แล้วญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สามารถไปได้ทุกฤดูกาลครับ โดยในแต่ละฤดูกาลจะมีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันออกไป ในบทความนี้ผมจะพาผู้อ่านทุกท่านไปเที่ยวทะเลสาบคาวากูจิโกะ หรือภูเขาไฟฟูจิในฤดูร้อนกันครับ ด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างทำให้ทริปฟูจิของผมในครั้งนี้ ไม่สามารถเลือกวันได้มากมายนัก ผมจะเจออะไรบ้าง ไปลุยกันเลยครับ สามารถเช็คสภาพอากาศ FUJI Mt. แบบสด ๆ ได้ในลิ้งนี้ครับ >> YouTube ครับ เดือนกรกฎาคมของญี่ปุ่น ในเมืองโตเกียว อุณหภูมิประมาณ 25 – 30 องศาเซลเซียส มีฝนตกปรอย ๆ และเมฆครึ้มเป็นช่วง ๆ นับว่าเย็นสบาย แต่ก็เป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยวอยู่บ้างเล็กน้อย ในการไปชมภูเขาไฟฟูจินั้นมีวิธีไปหลากหลายแบบ เช่น รถไฟ ซึ่งมีทั้งแบบต้องต่อขบวน และแบบวิ่งตรงถึงที่หมายเลย ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามความสะดวกสบาย แต่วิธีที่ผมเลือกในครั้งนี้ คือ ‘รถบัสของ Highway-Buses.jp’ ซึ่งจะวิ่งตรงจากสถานีชินจูกุ สู่สถานีคาวากูจิโกะ อันเป็นที่หมายของเรา ผมขอแจกแจงข้อดีที่ผมได้พบจากการใช้รถบัสดังนี้นะครับ ราคาค่อนข้างถูกที่สุด (2,000 เยน) จากการเปรียบเทียบกับวิธีอื่น ๆ วิ่งตรงสู่จุดหมายเลย ทำให้ผมสามารถนอนหลับยาว ๆ ตั้งแต่รถออกจากสถานีได้เลย แต่ข้อเสียของการเดินทางแบบนี้ คือ เราไม่สามารถกำหนดเวลาเดินทางได้แม่นยำมากนัก เนื่องจากระยะเวลาในการเดินทางนั้นขึ้นอยู่กับการจราจรในวันนั้นครับ แต่ทั้งขาไป และขากลับของผมในทริปนี้ใช้เวลาเท่า ๆ กับการเดินทางด้วยรถไฟครับ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนต้องการเดินทางไปฟูจิด้วยวิธีนี้ เข้าตามลิงค์ที่ผมแปะไว้ได้เลยครับ แนะนำให้จองก่อนนะครับ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นครับ แม้ในวันที่ผมมาจะมีฝนตก แต่ผู้คนก็ยังเลือกที่จะมายังป้ายที่ 22 เพื่อชมดอกลาเวนเดอร์ และทานไอศกรีม รถบัสมาถึงจุดหมาย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ตามกำหนดการครับ ถ้าเพื่อน ๆ มีแพลนจะมาฟูจิในช่วงนี้ แนะนำว่าควรเช็คสภาพอากาศก่อนนะครับ โดยในวันที่ผมไปฟูจิซังขี้อายไม่โผล่มาให้เห็นครับ แต่ในเรื่องแย่ ๆ ก็มักจะมีสิ่งดี ๆ ซ่อนอยู่ ดังนี้ครับ ดอกลาเวนเดอร์บาน โดยลาเวนเดอร์นั้นจะบานในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ทำให้ในฤดูอื่น ๆ เราจะเห็นเป็นแค่ไม้พุ่มเล็ก ๆ ไม่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมรสลาเวนเดอร์เข้ากับบรรยากาศมาก ๆ ดังนั้นสถานีที่ 22 ของสายแดง (Red Line) ผมแนะนำว่าควรแวะอย่างยิ่งครับ อุณหภูมิบริเวณรอบ ๆ ฟูจิจะลดลงต่ำกว่าในเมืองครับ (ช่วงที่ผมไปอุณหภูมิประมาณ 15 องศาเซลเซียส) ทำให้มีหมอกลงบาง ๆ เมื่อรวมเข้ากับความสวยงามของสถานที่แล้ว เราจะได้รูปที่สวยงามอีกแบบเลยครับ ในฤดูร้อน นักท่องเที่ยวหลายคนจะไม่เลือกเดินทางมาฟูจิด้วยเหตุผล คือ ไม่สวยงามเท่าฤดูอื่น ๆ ทำให้บริเวณฟูจิในช่วงนี้คนไม่แน่นมากนัก ซึ่งทำให้เราสามารถถ่ายรูปในมุมที่เราต้องการได้ โดยไม่ต้องต่อคิวยาว รวมถึงใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูกาลอื่น ๆ ครับ ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ คู่กับไอศกรีม ที่จะมีเฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ รอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าส่วนมากเป็นแนวชมธรรมชาติ ในทริปนี้ของผมจึงขอเป็นตัวแทนในการพาเพื่อน ๆ ไปทำกิจกรรมสนุก ๆ ที่อาจจะมองข้ามกันไปในฤดูกาลอื่น ๆ เช่น ตีเบสบอล หรือ ปั่นเป็ด เป็นต้น ขอบอกว่าสนุกมากครับ ยิ่งมากับกลุ่มเพื่อนแล้วจะเป็นการแบ่งปันความทรงจำที่ดีเลยครับ อย่างไรก็ตามในขากลับ ผมไม่ได้จองตั๋วมาก่อนล่วงหน้า จึงต้องไปจองที่สถานีคาวากูจิโกะ และโชคดีที่ยังมีที่ว่างสำหรับการเดินทางกลับ ซึ่งในฤดูอื่น ๆ อาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้ ปั่นเป็ด และตีเบสบอล 2 กิจกรรมที่มีที่ภูเขาไฟฟูจิ เมื่อรวมกับบรรยากาศสวยงาม แล้วกลายเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ด้วยข้อดีต่าง ๆ เหล่านี้ผมจึงเชื่อในคำพูดที่ว่า ‘ญี่ปุ่นไปฤดูไหนก็สนุก’ ถ้าหากเรามองไปยังข้อดี แต่ละฤดูก็จะมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นในทริปหน้า ให้โอกาสฤดูร้อนสักครั้งนะครับ 😊