หากใครมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง และวางแผนจะใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่ญี่ปุ่นแล้ว แน่นอนว่าคุณต้องวางแผนหาซื้อพาสต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและที่สำคัญเพื่อความประหยัดค่ะ ซึ่งระบบขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่นที่สำคัญคงจะเป็น รถไฟค่ะ ซึ่งรถไฟของญี่ปุ่นจะครอบคลุมทั้งประเทศ ซึ่งก็จะมีทั้งรถไฟบนดินและรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้ก็จะมีรถบัส รถแท๊กซี่ให้บริการอีก แต่แค่สถานีรถไฟ ญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อเรื่องความสลับซับซ้อน ชวนงง โดยเฉพาะในสถานีใหญ่ๆ ซึ่งเราควรจะวางแผนการเดินทางดีๆ ค่ะก่อนที่จะไปเลือกพาสต่างๆ เราต้องรู้ก่อนว่าสถานที่ที่เราจะไปคือที่ไหนบ้าง จะเที่ยวโซนไหน เมืองไหนของญี่ปุ่นบ้าง เพราะพาสของญี่ปุ่นมีหลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยว ครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นแบ่งเป็นทั้งหมด 8 ภูมิภาค ได้แก่ฮอกไกโด (Hokkaido)โทโฮคุ (Tohoku)คันโต (Kanto)ชูบุ (Chubu)คันไซ (Kansai)ชูโกกุ (Chugoku)ชิโคกุ (Shikoku)คิวชู (Kyushu ) และโอกินาว่า (Okinawa )และจะมีช่วงกำหนดเวลาในการใช้บัตร เช่น 7 วัน 15 วัน หรือ 21 วัน ซึ่งหากเราสามารถเลือกสถานที่ที่เราอยากไปเที่ยวได้แล้วเราก็จะสามารถเลือกพาสได้ตามภูมิภาคหรือจะเลือกพาสที่ครอบคลุมได้หลายภูมิภาค ซึ่งในแต่ละภูมิภาคก็จะมีบัตรที่ใช้เฉพาะอีกนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ภูมิภาค Hokkaido ก็จะมีบัตร KITACA และ SAPICA เป็นบัตรหลัก ,ภูมิภาค Kanto ก็จะมีบัตร SUICA และ PASMO เป็นบัตรหลัก , ภูมิภาค Chubu มีบัตร TOICA และ MANACA เป็นบัตรหลัก ,ภูมิภาค Kansai และ CHUGOKU ก็จะมีบัตร ICOCA และ PITAPA เป็นบัตรหลัก เป็นต้นค่ะ แต่วันนี้เราจะมาแนะนำการซื้อบัตร SUICA บัตรสารพัดประโยชน์ที่สามารถใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะได้ครอบคลุมและยังสามารถนำไปใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อได้อีกด้วย ซึ่งบัตรนี้จะเป็นบัตรหลักที่ใช้ในเขต Kansai นะคะ แต่ที่เด็ดคือ สามารถใช้ข้ามเขตได้ด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดินในเขตเมืองโอซาก้า นาโงย่า ฟุกุโอกะหรือซัปโปโร ได้อีกด้วยนะคะบัตร SUICA หรือ IC card บัตรนี้จะเป็นลักษณะเหมือนบัตรเติมเงินนะคะ เมื่อเราเติมเงินเข้าบัตรเราก็จะสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงินที่เรามีอยู่ ซึ่งบัตรนี้สามารถใช้ได้กับรถไฟของ JR ,รถไฟใต้ดิน รถบัส จ่ายค่า taxi ร้านสะดวกซื้อได้หมด โดยที่เราไม่ต้องพกเงินสด หาเหรียญหยอดกันยุ่งเลยค่ะ วันนี้เรามาซื้อบัตร SUICA ที่สนามบินค่ะ เนื่องจากเราเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไปลงที่นาริตะ พอผ่านกระบวนการของตม. ออกมาบริเวณที่รอผู้โดยสาร เราก็มองหาป้ายที่จะไปขึ้นรถไฟใต้ดินเลยค่ะ ซึ่งก็จะต้องลงบันไดเลื่อนไปชั้นใต้ดินนะคะ หลังจากนั้นก็มองหาตู้ที่เค้าเขียนว่า JR Tickets ; Suica pre-payment (Charge) โดยข้างๆ ตู้ก็จะมีเขียนคำอธิบายวิธีการซื้อให้ดูนะคะ ก็คือ การจ่ายนี้ต้องใช้เงินสดเท่านั้นนะคะ และให้ทำได้ทีละบัตร ส่วนบัตรสำหรับเด็กให้ไปทำที่ office นะคะมาค่ะมาซื้อบัตรกัน ขั้นตอนแรกสำหรับคนที่จะซื้อบัตรใหม่นะคะ ให้เรากดไปที่ Purchase new Suica หลังจากนั้นกดที่ Blank Suica และกดจำนวนเงินที่เราอยากจะเติมเข้าไปนะคะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ระบบจะตัดค่าบัตรไว้ 500 เยนนะคะ หมายความว่าหากคุณเติมเงินที่ 2000 เยน คุณจะใช้จ่ายผ่านบัตรได้แค่ 1500 เยนนะคะ แต่ตอนที่คืนบัตรก็จะสามารถได้คืนเงินที่เหลือพร้อมเงินประกันทั้งหมดนะคะ ไม่ต้องกังวลไป พอระบุจำนวนเงินไป ก็ใส่เงินเข้าไปในช่องใส่ธนบัตร หลังจากนั้นบัตรก็จะเด้งออกมา เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ และหากต้องการคืนบัตรก็จะมีตู้ข้างๆ ที่เขียนว่า Suica Refund ก็แค่เสียบบัตร กดความต้องการว่าจะคืนบัตร ระบบก็จะคำนวณเงินที่เหลือให้และจ่ายคืนให้เราตามจำนวนเลยค่ะ สะดวกสบายมากๆ อ่อ แต่นิดนึงนะคะ ถ้าจะคืนบัตรต้องคืนภูมิภาคที่เราซื้อมานะคะ ส่วนตัวเราก็ซื้อที่สนามบิน คืนที่สนามบินเลยค่ะ สะดวกสบายมากๆ เพราะก่อนจะขี้นรถไฟก็ผ่านตู้นี้ จะกลับขึ้นรถไฟกลับเดินออกมาก็จะต้องผ่านตู้นี้อยู่ดีค่ะ และอย่างที่บอกนะคะว่า นอกจากไว้ใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะแล้ว ยังสามารถไปใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Lawson , 7-11 และร้านค้าอื่นๆ เหมือนเป็นบัตรเดบิตไว้ใช้จ่ายสะดวกสบายมากๆค่ะปล.1. บัตร Suica มีอายุ 10 ปีนะคะ หากใครไม่อยากคืนก็สามารถเก็บไว้ เพื่อมาใช้ในการเที่ยวญี่ปุ่นคราวหน้าได้ค่ะ ปล.2. บัตรนี้ไม่สามารถใช้กับรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express และไม่สามารถใช้กับรถไฟ Shinkansen ได้นะคะ ต้องซื้อแยกต่างหาก ซึ่งหากใครเดินทางหลายภูมิภาคแนะนำซื้อพวก JR pass จะคุ้มกว่าค่ะ รูปภาพทั้งหมด By Psychiartist วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !