ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยนั้นจะมีประเพณีหรือกิจกรรมแปลก ๆ ให้ได้ยินอยู่เสมอ ทั้งนี้ล้วนขึ้นอยู่กับลักษณะทางภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของพื้นที่นั้น ๆ คอยเอื้ออำนวยด้วย มีกิจกรรมการวิ่งมินิมาราธอนสุดแปลกอย่างหนึ่งที่มีอยู่แห่งเดียวในประเทศไทยหรืออาจจะทั้งโลกก็ว่าได้ กิจกรรมนี้ต้องอาศัยช่วงจังหวะที่น้ำทะเลลดต่ำสุดในช่วงเดือนมิถุนายนขอทุกปี จนนักกีฬาสามารถวิ่งข้ามจากชายฝั่งไปยังเกาะกลางทะเลได้ กิจกรรมนี้เรียกว่า การแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ หรือหลังสวนมินิมาราธอน นั่นเอง เสื้อนักกีฬากิจกรรมวิ่งแหวกทะเลครั้งล่าสุด ปี 2562 เสื้อและอุปกรณ์นักวิ่งพร้อมบัตรคูปองอาหารครั้งที่ 12 วันนี้ผู้เขียนขอนำท่านผู้อ่านล่องใต้มายังอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร เพื่อชมบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจของกิจกรรมนี้กันนะครับ กิจกรรมการแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์นั้นจัดขึ้นปีละครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน เริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 การเลือกวันทำกิจกรรมจะอาศัยข้อมูลระดับน้ำจากหน่วยงานราชการ และใช้เส้นทางที่น้ำลดต่ำสุดเพียงจุดเดียวที่สามารถวิ่งลุยน้ำทะเลไปถึงเกาะพิทักษ์ได้ เมื่อกำหนดวันชัดเจนทางอำเภอหลังสวนก็จะมีการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการให้ประชาชนผู้สนใจจองเสื้อนักกีฬากันล่วงหน้า การปล่อยตัวนักกีฬาที่มาร่วมการแข่งขันวิ่งแหวกทะเลจะเริ่มจากจุดสตาร์ทบริเวณปากน้ำหลังสวนใกล้กับเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรจำลอง ซึ่งมีเต็นท์กองอำนวยการของเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกสถานที่จอดรถ และดูแลความปลอดภัยแก่นักกีฬาและประชาชนที่หลั่งไหลมาร่วมงานกันจำนวนมากทุกปี อย่างปีล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2562 ครั้งที่ 15 มีนักท่องเทียวมาร่วมงานประมาณ 15,000 คน ถือว่ามากกว่าทุกปีที่ผ่าน ๆ มา เต็นท์กองอำนวยการคอยบริการนักท่องเที่ยวที่บริเวณปากน้ำหลังสวน ผู้เขียนถ่ายบนเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรจำลองที่ปากน้ำหลังสวน จุดปล่อยตัวนักกีฬาการแข่งขันวิ่งมินิมาราธอนบริเวณปากน้ำหลังสวน บรรยากาศขณะวิ่งบนเส้นทางเลียบชายทะเลหลังสวน ระยะทางที่ทำการแข่งขันวิ่งมินิมาราธอนในช่วงแรกใช้ถนนเส้นทางเลียบชายทะเลหลังสวนซึ่งมีภูมิทัศน์ที่สวยงามระยะทาง 13 กิโลเมตรจนถึงบริเวณชายหาดทางข้ามไปเกาะพิทักษ์ ต่อจากนั้นก็จะวิ่งลุยน้ำทะเลที่มีระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตรเป็นระยะทางอีก 1 กิโลเมตรก็จะถึงเส้นชัยบนเกาะพิทักษ์ การวิ่งลุยน้ำทะเลในช่วงสุดท้ายนี้บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานด้วยระดับน้ำที่ไม่ลึกมาก บางช่วงก็จะมีสันทรายโผล่พ้นน้ำแหวกน้ำทะเลออกเป็นสองฝั่ง บนอากาศก็จะมีโดรนที่คอยบันทึกภาพและนักบินพารามอเตอร์บินโฉบไปมาสร้างบรรยากาศให้คึกคักเป็นอย่างมาก ผู้เขียนจำได้ว่าในปี พ.ศ. 2559 มีพารามอเตอร์เครื่องหนึ่งเกิดขัดข้องตกลงในทะเลนักนักกีฬากลุ่มใหญ่วิ่งกรูเข้าไปช่วยเหลือนักบินได้อย่างปลอดภัย นอกจากจุดปล่อยตัวการแข่งขันวิ่งมินิมาราธอนที่ปากน้ำหลังสวนแล้ว ยังมีการวิ่งแหวกทะเล "ฟันรัน” ระยะสั้นเพียง 3.5 กิโลเมตร โดยมีจุดปล่อยตัวตรงบริเวณศูนย์หมู่บ้าน หมู่ที่ 12 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวนและวิ่งเข้าสู่เส้นชัยที่เกาะพิทักษ์เช่นเดียวกัน บรรยากาศตอนวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ จุดเส้นชัยของการวิ่งมินิมาราธอนบนเกาะพิทักษ์ เกาะพิทักษ์ซึ่งเป็นเส้นชัยนั้นตั้งอยู่บริเวณอ่าวท้องครก หมู่ 13 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน อยู่ในชายฝั่งทะเลอ่าวไทยห่างจากชายฝั่ง 1 กิโลเมตร สมัยก่อนเรียกเกาะผีทักเพราะมีเรื่องเล่าจากชาวประมงที่ไปหาปลาตอนกลางคืนว่ามีคนโบกมือเรียกเมื่อแวะเรือเข้าไปก็ไม่เจอใครเลยเรียกว่าเกาะผีทัก ต่อเมื่อมีคนขึ้นไปอาศัยอยู่บนเกาะจึงเปลี่ยนชื่อเป็นเกาะพิทักษ์เพื่อความเป็นสิริมงคล บนฝั่งมีชุมชนเล็ก ๆ ประกอบอาชีพทำการประมงเป็นหลัก มีโฮมสเตย์ไว้คอยบริการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาพักทำกิจกรรมในช่วงวันหยุดพักผ่อนคือ ดำน้ำดูปะการังหรือตกหมึกในเวลากลางคืน ในวันทำกิจกรรมวิ่งแหวกทะเลประชาชนบนเกาะพิทักษ์จะร่วมกับตำบลบางน้ำจืดด้วยการจัดอาหารบนเกาะคอยต้อนรับกองทัพนักกีฬาและนักท่องเทียวด้วยอาหารทะเลหลากเมนู มีผลไม้พื้นเมือง รวมถึงรายการบนเวทีเพื่อมอบเหรียญและถ้วยรางวัลให้กับนักกีฬาในบรรยากาศที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ผู้เขียนถ่ายกับบรรยากาศตอนวิ่งแหวกทะเล จุดนี้มองเห็นเกาะพิทักษ์อยู่ไกล ๆ การแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ หรือหลังสวนมินิมาราธอนนั้น เป็นกิจกรรมเอกลักษณ์ภายในท้องถิ่นที่ชาวจังหวัดชุมพรภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ปีหนึ่งมีครั้งเดียวบรรยากาศของกิจกรรมเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอย่างสนุกสนานของนักกีฬาและนักท่องเที่ยวที่มาชม แม้ปีนี้มีการงดจัดกิจกรรมด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ก็ตาม แต่เชื่อว่าในปีต่อไปกิจกรรมการแข่งขันวิ่งแหวกทะเลสู่เกาะพิทักษ์ก็จะกลับมาสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับทุกคนเช่นเดิมแน่นอน ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน