เมื่อสิ้นสุดฤดูหนาว เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ตอกไม้หลากสีสันก็เริ่มแข่งกันเบ่งบานต้อนรับฤดูร้อนกันมากมาย หนึ่งในนั้นคือดอกไม้สีหวานอย่าง "ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์" และที่สวยงามมากๆคือ บนถนนสายสีชมพู ณ มหาวิทยาลัย เกษตรศาตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เราไปชมกันเลยค่ะก่อนที่จะไปชมความงามของของดอกไม้ชนิดนี้ เรามาทำความรู้จักกันสักหน่อยค่ะ ชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นต้นไม้ยืนต้นเขตร้อน มีต้นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมีชื่อเรียกอื่น ๆ ได้แก่ ชมพูอินเดีย, ธรรมบูชา, ตาเบบูยา และแตรชมพู มีการนำไปปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย มีลักษณะเป็นต้นไม้ขนาดกลาง สูงประมาณ 8-25 เมตร ใบประกอบรูปนิ้วมือ 5-7 ใบ ออกดอกเป็นช่อ ช่อละ 5-8 ดอก กลีบดอกมีทั้งสีชมพูอ่อน ชมพูสด และสีขาว ตรงกลางดอกสีเหลือง ดอกบานเต็มที่จะมีความกว้างประมาณ 5-8 เซนติเมตร โดยทิ้งใบในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งใช้ระยะเวลาบานประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนที่ดอกจะร่วงโรยไปโดยการนำมาปลูกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกําแพงแสนนั้น เป็นแนวความคิดของ ศ.ดร.วัฒนา เสถียร สวัสดิ์ เมื่อปี พ.ศ.2520 รองอธิการบดีวิทยาเขตกำแพงแสนคนแรก มีนโยบายปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อเป็นแนวกันลมและเพื่อเป็นร่มเงาให้ความร่มรื่นในอนาคต ท่าน ศ.ระพี สาคริก อธิการบดีในขณะนั้น จึงได้นำเมล็ดพันธุ์มาจากสิงคโปร์ มามอบให้ไปปลูกสองฟากถนนเริ่มต้นจากประตูชลประทานผ่านหน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จนถึงประตูฝั่งจันทรุเบกษา เป็นระยะทางยาวประมาณ 3กิโลเมตร ซึ่งกลายมาเป็นถนนสายสีชมพูในปัจจุบันนี้ และได้มีการปลูกขยายพันธุ์เพิ่มเติมในบริเวณต่างๆของมหาวิทยาลัยจนน่าจะมีจำนวนมากกว่าพันต้นทั่วมหาวิทยาลัยการเดินทางไปชมความงามของ ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ก็ไม่ยากเลย ตั้งGps ตามพิกัดนี้ค่ะ https://maps.app.goo.gl/PERTPSAuWa8GiXc18?g_st=ic และสามารถติดตามรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/tabebuiaroseakps เมื่อเลี้ยวรถเข้าจากถนน 346 เราจะเห็นต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ออกดอกสีชมพูต้อนรับอยู่ด้านหน้าเลย หาที่จอดรถเรียบร้อยเดินมาตรงทางเข้าถนนสายสีชมพูก็จะมีรถรางขับมารับให้ได้ชมดอกไม้กันแบบสบายๆ ต้องการลงตรงจุดไหนก็สามารถบอกคนขับได้ และเมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วไม่อยากเดินก็ให้รอรถรางจะมีบริการตลอดเส้นทาง ซึ่งพี่คนขับบอกว่ามีบริการเฉพาะในเทศกาลชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ประมาณสองสัปดาห์นี้เท่านั้น คนที่มีปัญหาเรื่องการเดินหรือผู้สูงอายุก็มาเที่ยวชมได้สบายๆเลยค่ะ เรานั่งรถไปได้สักนิดนึงก็อดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปชมดอกไม้สีหวานใกล้ๆ บางต้นออกดอกเป็นสีชมพูอ่อนๆ บางต้นก็ออกแทบจะเป็นสีขาว บางต้นก็เป็นสีชมพูสด แข่งกันอวดความงามกันเต็มที่บางต้นดอกเริ่มโรยก็จะร่วงลงบนพื้นดินใต้ต้น ทำให้ที่พื้นปกคลุมไปด้วยสีชมพูหวานเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยงามไปหมด เมื่อออกมายืนมองที่ถนนเห็นเป็นถนนสีชมพูยาวสุดลูกหูลูกตา โดยต้นไม้ที่นี่ปลูกไม่ห่างกันมากทำให้เมื่อดอกไม้บานพร้อมกันจึงดูเป็นสีชมพูหนาแน่นตลอดเส้นทาง ข้างๆถนนจะเป็นต้นไม้ที่ทอดกิ่งก้านซึ่งเต็มไปด้วยดอกสีชมพูมาชนกันจนกลายเป็นอุโมงค์ ยามที่มีลมพัดมาดอกไม้สีชมพูก็จะปลิวลงพื้นเหมือนใครโปรยลงมาอย่างสวยงาม เหมาะกับการถ่ายวิดีโอสวยๆไว้ดูเป็นอย่างยิ่งเลยไปข้างๆเป็นคูน้ำเล็กๆ มีกิ่งของต้นที่ปลูกอยู่ริมน้ำบางต้นทอดกิ่งลงเหนือน้ำและมีดอกไม้บางส่วนร่วงลงบนผิวน้ำมองคล้ายพรมสีชมพู เมื่อนั่งถ่ายรูปบริเวณริมน้ำก็จะได้รูปสวยๆพร้อมลมพัดเย็นสบายเลยทีเดียวสำหรับที่นี่มีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์มากกว่าห้าร้อยต้นปลูกเรียงรายกันอย่างสวยงาม มีอายุมากกว่า 40 ปี ต้นใหญ่ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "รุกข มรดกแผ่นดิน" โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประจำปี 2562 อีกด้วย ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม ถ่ายรูปสวยทุกมุมเลยจริงๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆหลายคนจึงเฝ้ารอคอยเวลาที่จะได้มาเก็บภาพที่นี่ ซึ่งจะมีเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้นในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปี แต่การชมดอกไม้ก็ไม่ควรโน้มกิ่งหรือเด็ดดอกไม้จากต้น เพื่อเก็บความงดงามไว้ให้คนอื่นๆได้ชื่นชมแล้วต้นไม้ก็ไม่เสียหายด้วยค่ะ รับรองเลยว่าใครได้มาชม ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ณ ม.เกษตร กำแพงแสน จะต้องได้รูปภาพสวยๆ เก็บไว้ทั้งในความทรงจำและเมมโมรี่การ์ดกันมากมายเลยทีเดียวค่ะรูปภาพหน้าปกและภาพประกอบทั้งหมดจัดทำและถ่ายภาพโดย Nooneeส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้