รีเซต

เทรนด์ดำน้ำ 2025 ดำน้ำเมืองไทยมาแรง! เกาะเต่า-สิมิลันติดลิสต์

เทรนด์ดำน้ำ 2025 ดำน้ำเมืองไทยมาแรง! เกาะเต่า-สิมิลันติดลิสต์
Muzika
29 เมษายน 2568 ( 10:09 )
15

     ใครที่ชอบท่องโลกใต้ทะเลต้องฟังทางนี้! อโกด้าเพิ่งเผยผลสำรวจล่าสุด ว่านักดำน้ำทั่วเอเชีย โดยเฉพาะคนไทย เริ่มหันมาปักหมุดจุดดำน้ำในประเทศไทยมากขึ้น ไม่ต้องบินไกลก็ได้สัมผัสความงามสุดอันซีนของท้องทะเลไทย ที่สวยไม่แพ้ใครในโลก สำรวจโดยอโกด้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จากนักดำน้ำ 850 คน ใน 11 ประเทศทั่วเอเชีย เช่น ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ

 

 

เทรนด์ดำน้ำ 2025 ดำน้ำเมืองไทยมาแรง! เกาะเต่า-สิมิลันติดลิสต์

ดำน้ำในไทยยังครองใจ! เกาะเต่า-สิมิลันสวยเกินต้าน

 

 

     จากผลสำรวจนักดำน้ำใน 11 ประเทศทั่วเอเชีย พบว่าแม้อินโดนีเซียจะยืนหนึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในฝัน แต่สำหรับนักดำน้ำชาวไทยแล้ว หมู่เกาะสิมิลัน และเกาะเต่า ยังเป็นท็อปพิกอันดับต้นๆ เพราะใกล้ เดินทางง่าย และโลกใต้ทะเลยังคงสมบูรณ์สวยงามมาก

     แถมเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม ก็ยังได้รับความนิยมด้วย เพราะแต่ละที่มีสไตล์การดำน้ำที่แตกต่าง และน่าสนใจไม่แพ้กัน

 

อินโดนีเซีย แหล่งดำน้ำในฝันของนักเดินทาง

 

1.อินโดนีเซีย แหล่งดำน้ำในฝันของนักเดินทาง

     อินโดนีเซียครองอันดับหนึ่งในฐานะจุดหมายปลายทางในฝันของนักดำน้ำชาวเอเชียด้วยความงดงามของแนวปะการัง และความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล อย่างไรก็ตาม นักดำน้ำชาวไทยยังคงชื่นชอบในแหล่งดำน้ำในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะสิมิลัน หรือ เกาะเต่า ซึ่งงดงามไม่แพ้ที่ใดในโลก ในขณะเดียวกันนักเดินทางชาวไทยก็ยังให้ความสนใจกับการดำน้ำในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งแหล่งดำน้ำแต่ละที่ต่างมอบประสบการณ์การดำน้ำที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดหมายปลายทางเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์อันล้ำค่าของโลกใต้ทะเลในภูมิภาคเอเชีย ที่ยังคงดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลกให้แวะเวียนมาอย่างต่อเนื่อง

 

2.ความสงบใต้ท้องทะเล คือแรงบันดาลใจหลักในการเดินทาง

     สำหรับนักดำน้ำจำนวนมาก ท้องทะเลคือพื้นที่แห่งความสงบที่ช่วยเยียวยาความเครียด เกือบหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสำรวจ (30%) ระบุว่า "การผ่อนคลาย" คือเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาออกไปดำน้ำ โดยเฉพาะนักดำน้ำจากฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทยที่ให้ความสำคัญกับเหตุผลนี้เป็นพิเศษ ในขณะเดียวกัน การได้สำรวจชีวิตใต้ทะเลก็เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญ โดย 24% ของนักดำน้ำระบุว่าความหลงใหลในสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลคือเหตุผลหลักที่พวกเขาเลือกออกผจญภัยในโลกใต้น้ำ

 

3.ราคาต้องคุ้มค่า แต่ก็พร้อมจ่ายมากขึ้น

     แม้ว่า “ความคุ้มค่า” จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนทริปดำน้ำ แต่นักเดินทางในปี 2568 กลับแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่พร้อมจะใช้งบประมาณมากขึ้นเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง อุปกรณ์ หรือที่พัก นักดำน้ำจำนวนไม่น้อยยอมเพิ่มงบเพื่อให้ได้ทริปที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความทรงจำที่คุ้มค่า โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 40% ระบุว่า พวกเขาใช้จ่ายกับทริปดำน้ำมากกว่าทริปท่องเที่ยวทั่วไปประมาณ 15–30%

 

4.ทริปดำน้ำส่วนใหญ่ใช้เวลา 4–7 วัน

     นักดำน้ำเกือบครึ่ง (48%) เลือกออกทริปที่ใช้เวลา 4–7 วัน ขณะที่อีก 41% นิยมทริปสั้นช่วงสุดสัปดาห์ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าทริปดำน้ำแบบกระชับแต่เข้มข้น กำลังตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ที่มีเวลาจำกัดแต่ยังอยากสัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำอย่างเต็มที่

 

5.แนวปะการังคือจุดดำน้ำในดวงใจของนักดำน้ำส่วนใหญ่

     การดำน้ำตามแนวปะการังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับนักสำรวจใต้น้ำ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจถึง 75% แสดงความสนใจในจุดหมายปลายทางเหล่านี้ ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์และปะการังสีสันสวยงามในเอเชีย ยังคงดึงดูดนักดำน้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวปะการังกลายเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่หลงใหลในโลกใต้ท้องทะเล

 

     เริ่มตั้งแต่วันที่ เมษายน 2568 อโกด้าเปิดตัวแคมเปญ Scuba Deals มอบส่วนลดเพิ่มอีก 10% สำหรับที่พักที่เข้าร่วมรายการในจุดหมายปลายทางดำน้ำยอดนิยมทั่วอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม นักเดินทางสามารถจองที่พักในราคาสุดคุ้ม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำได้ง่ายยิ่งขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.agoda.com/scubadeals

====================