"นครพนม" เมืองแห่งพระธาตุเจดีย์โบราณ มีพระธาตุที่งดงามและมีประวัติน่าสนใจ ให้นักท่องเที่ยว - ผู้แสวงบุญ ได้ไปเยี่ยมชม - สักการะถึง 8 องค์...แต่ถ้ามีเวลาท่องเที่ยวจริง ๆ (ไม่รวมเดินทางไป - กลับ และพักค้างคืน) 1 วัน จะทำอย่างไรให้สักการะพระธาตุได้มากที่สุด???...ผู้เขียนขอเอาประสบการณ์มาแชร์ค่ะ...แผนเดินทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นเดินทางสบายเพื่อผ่อนคลาย ไม่เน้นสมบุกสมบัน ตั้งต้นจาก "สกลนคร" ในตอนเช้า แล้วไปจบลงที่ "นครพนม" ในตอนเย็น ไปสักการะพระธาตุได้ 5 องค์ใน 1 วัน ได้เช็กอินทั้งพระธาตุสำคัญที่พลาดไม่ได้สำหรับสายท่องเที่ยว - สายบุญ และพระธาตุที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายมู - สายตามรอยพญานาคค่ะออกจากตัวเมือง "สกลนคร" ไปสู่ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก เพื่อความสะดวกรวดเร็ว เลือกใช้เส้นทางใหญ่คือ ถนนนิตโย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22) แล้วเลี้ยวขวาตรงถนนแยกเข้าตำบลวังตามัว รวมระยะทางประมาณ 54 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมายแรกคือ "พระธาตุมหาชัย"...เดินทางต่อ ไปสู่อำเภอเรณูนคร ระยะทางประมาณ 39 กิโลเมตร ก็จะถึง "พระธาตุเรณู"...ออกจากจุดนี้ ไปสู่อำเภอธาตุพนม ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร ก็จะถึง "พระธาตุพนม"...มุ่งสู่อำเภอเมืองนครพนม เลียบริม "แม่น้ำโขง" ไปตามถนนชยางกูร (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212) ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะถึง "พระธาตุมรุกขนคร"...เดินทางตามถนนชยางกูรต่อไป ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมายสุดท้ายคือ "พระธาตุนคร" ที่ใจกลางเมืองนครพนมค่ะ1. พระธาตุมหาชัย วัดธาตุมหาชัย อำเภอปากปลา"พระธาตุมหาชัย" สร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2495 พระธาตุองค์ปัจจุบันถูกสร้างครอบพระธาตุองค์เดิม แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2536...ผู้ริเริ่มและนำการก่อสร้างทั้งหมดคือ "หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ" พระเกจิชื่อดังสายญาณพญานาค ที่มีฉายาว่า "ลูกพญานาค" และ "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง"...ภายในพระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสาวกองค์สำคัญ ได้แก่ "พระอัญญาโกณฑัญญะ" "พระสารีบุตร" "พระโมคคัลลานะ" "พระอนุรุทธะ" "พระมหาสังกัจจายนะ" และ "พระอานนท์"...ใครสนใจทำบุญห่มผ้าพระธาตุก็ติดต่อได้ที่จุดบริการ - ประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีวัตถุมงคลของหลวงปู่คำพันธ์ให้เช่าบูชาด้วยค่ะ...รอบองค์พระธาตุก็จะเต็มไปด้วยระฆัง เครื่องส่งสัญญาณบุญตามความนิยมของชาวสายพญานาคค่ะที่ผู้เขียนสนใจไปสักการะ "พระธาตุมหาชัย" แห่งนี้ นอกจากด้วยเหตุผลที่ว่าพระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว พระอรหันตธาตุของพระสาวกแต่ละท่าน ชื่อเสียงของ "หลวงปู่คำพันธ์" และเรื่องราวตามนิมิตของหลวงปู่ที่ว่ามีพญานาคราชและบริวารมาช่วยการก่อสร้างและดูแลรักษาพระธาตุ ก็เป็นเหตุผลสำคัญด้วยค่ะ...ใน "วัดธาตุมหาชัย" มีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่คำพันธ์ ข้างในมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ ข้อความคำสอน และวัตถุมงคลเกี่ยวกับหลวงปู่และพญานาคมากมาย ซึ่งผู้เขียนก็ใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานพอ ๆ กับเวลาที่สักการะพระธาตุค่ะ...ผู้เขียนชอบใจประติมากรรมรูปสัตว์เทพผู้พิทักษ์ที่มีรูปร่างพิเศษ สีสันสะดุดตา อยู่รายล้อมพิพิธภัณฑ์...ที่ชอบที่สุดก็ประติมากรรมเทพตรงราวบันไดขึ้นลงพิพิธภัณฑ์ ที่ท่อนบนเป็นเหมือนเทพบุตรงดงาม ส่วนท่อนล่างเป็นนาคค่ะ2. พระธาตุเรณู วัดธาตุเรณู อำเภอเรณูนคร"พระธาตุเรณู" สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2461 เพื่อให้เป็นพระธาตุประจำเมืองเรณูนคร เป็นศูนย์รวมที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวเมือง และเป็นบริวารของ "พระธาตุพนม"...ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปมีค่า และของมีค่าทั้งของเจ้าเมืองและประชาชน ต่อมาในปี พ.ศ. 2459 ได้มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยค่ะ...ผู้เขียนอยากไปเยี่ยมเยือนที่นี่ เพราะได้ยินชื่อเสียงเรื่องรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนหวานละมุนละไมของพระธาตุมานาน พอไปเห็นแล้วก็ประทับใจมาก ๆ ค่ะหลังจากได้ไปเยี่ยมเยือนสักการะ พอพูดถึง "พระธาตุเรณู" นี้แล้ว ในใจผู้เขียนก็จะคิดถึงคำว่า "พระธาตุสีชมพู" เพราะลวดลายตกแต่งองค์พระธาตุเขาเน้นเฉดสีชมพู ทำให้พระธาตุดูนุ่มนวล เห็นแล้วสบายตา น่ารักน่าชม สมกับความเป็นพระธาตุประจำเมือง - ประจำใจของ "ชาวภูไท (ผู้ไท) เรณูนคร"ค่ะ..."วัดธาตุเรณู" แม้จะมีผู้คนแวะเวียนไปเยียมเยือนไม่ขาดสาย แต่องค์พระธาตุและสถานที่โดยรอบก็ได้รับการดูแลให้สะอาดสะอ้านและดูสงบร่มเย็นค่ะ3. พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม"พระธาตุพนม" ตาม "ตำนานพระอุรังคธาตุ" สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 8 เพื่อบรรจุพระอุรังคธาตุ (พระบรมสารริกธาตุส่วนหน้าอก) มี "พระมหากัสสปะ" พร้อมศิษย์อรหันต์อีก 500 รูป เป็นผู้นำการก่อสร้าง...เมื่อองค์พระธาตุล้มในปี พ.ศ. 2518 จึงมีการบูรณะใหม่ พร้อมบรรจุสิ่งของมีค่าในองค์พระธาตุเพิ่มจากของเดิมอีกมากมาย...ภายในตกแต่งไว้อย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะผนังพระไตรปิฎกทองคำ ที่ยิ่งทวีคุณค่าและความศักดิ์สิทธิ์แก่องค์พระธาตุ แต่เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสักการะในองค์พระธาตุได้ค่ะ...ถ้าใครต้องการห่มผ้าพระธาตุ ถวายพระพุทธรูปและของบูชาไว้ในองค์พระธาตุ ก็ติดต่อซุ้มอำนวยการอยู่ใกล้ ๆ องค์พระธาตุได้เลยค่ะ จะมีพระสงฆ์พาทำพิธีและมีเจ้าหน้าที่พาเข้าสักการะในองค์พระธาตุด้วยค่ะนอกจากองค์พระธาตุ ที่มีรูปทรงยิ่งใหญ่งดงาม เป็นต้นแบบของพระธาตุเจดีย์มากมาย และถูกนำไปใช้เป็นสัญลักษณ์มงคลต่าง ๆ แล้ว อีกสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้เขียนก็คือ "เสาอินทขีล" และ "ตัวอัสสมุขี" ที่แกะสลักจากหินทราย ตั้งอยู่ประจำทั้ง 4 ทิศ รอบกำแพงด้านนอกขององค์พระธาตุค่ะ...สิ่งเหล่านี้มาจากดินแดนพุทธภูมิ เช่น เมืองกุสินารา เมืองพาราณสี เป็นต้น นับเป็นปูชนียวัตถุหรือโบราณวัตถุที่มีมาคู่กับองค์พระธาตุ คาดว่าอายุมากกว่า 2,500 ปี เห็นแล้วก็บ่งบอกถึงความเก่าแก่โบราณและความขลังค่ะ...ทุกครั้งที่ผู้เขียนไปสักการะองค์พระธาตุ ก็จะได้เห็นว่า "วัดธาตุพนมวรมหาวิหาร" ไม่เคยว่างเว้นจากศรัทธาสาธุชนเลย และถ้ามีเวลา ผู้เขียนก็จะไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ ซึ่งรวมสิ่งของโบราณที่เกี่ยวกับประวัติที่มาของ "พระธาตุพนม" ไว้มากมาย รวมทั้งมีวัตถุมงคลของวัดให้เช่าบูชาด้วยค่ะ4. พระธาตุมรุกขนคร วัดมรุกขนคร อำเภอธาตุพนม "พระธาตุมรุกขนคร" นับเป็นพระธาตุรุ่นใหม่ และเป็นพระธาตุบริวารองค์ล่าสุดของ "พระธาตุพนม" สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2536 แต่ว่าก็ตั้งอยู่ใน "วัดมรุกขนคร" ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ในเขตพื้นที่เมืองเก่าแก่อายุประมาณ 300 ปี...ด้านบนขององค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถูกค้นพบพร้อมกับของมีค่ามากมายจากซากปรักหักพังภายในบริเวณวัดและใกล้เคียง...เราสามารถเข้าไปสักการะภายในองค์พระธาตุได้ เมื่อเข้าไปแล้วจะเห็นว่าด้านในถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามน่าเจริญตาเจริญใจมากค่ะองค์พระธาตุสร้างให้มีรูปทรงแบบ "พระธาตุพนม" ความพิเศษอยู่ที่ฐานของพระธาตุทั้ง 4 มุมมีรูปพญานาคราชองค์ใหญ่สีทองทั้ง 4 ตระกูล (พญานาค 1, 3, 5, 7 เศียร) ดูสวยงามมากและอลังการมาก ๆ ค่ะ...นอกจากนี้ "วัดมรุกขนคร" ยังมีตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาค มีศาลพญานาคผู้พิทักษ์รักษาสถานที่ และมีท่าน้ำพญานาค (ริม "ห้วยบังฮวก" ที่ไหลผ่านหมู่บ้านและข้างวัดลงสู่ "แม่น้ำโขง")...รับรองว่าวัดนี้ถูกใจนักท่องเที่ยวสายมูและสายตามรอยพญานาคแน่นอนค่ะ5. พระธาตุนคร วัดมหาธาตุ อำเภอเมืองนครพนมตามประวัติ "พระธาตุนคร" สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระอรหันตธาตุ พระพุทธรูป เครื่องลางของขลัง และสิ่งของมีค่าของชาวเมือง มี "พระธาตุพนม" องค์เดิมเป็นต้นแบบ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2465...แม้องค์พระธาตุมีองค์เล็ก แต่ก็มีองค์ประกอบต่าง ๆ วิจิตรอลังการ สมชื่อ "พระธาตุนคร" ค่ะ...จุดเล็ก ๆ ที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจมากคือ กระถางที่มีธูปเทียนปักอยู่เต็ม กับอ่างดินที่มีดอกไม้สักการะวางอยู่เต็ม อยู่ใกล้ ๆ กับรูปปั้นเทวดาแบบโบราณและพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ น่ารัก ๆ สีสันสดใส เป็นภาพที่เห็นแล้วรู้สึกสดชื่นค่ะข้าง ๆ องค์พระธาตุ ลึกเข้าไปในตัว "วัดมหาธาตุ" มีลานประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก พระพุทธรูปองค์ประธานมีสีเขียวสดใส พร้อมกับมีรูปพญานาคผู้พิทักษ์ ที่ทำรูปร่าง ท่าทาง และสีสัน ได้สมจริง ทั้งดูน่าเกรงขามและดูน่ารัก...ทั้งพระพุทธรูปและรูปพญานาคอยู่ท่ามกลางต้นไม้ดอกไม้ร่มรื่นสวยงาม เป็นภาพบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกทั้งขลังและเย็นตาเย็นใจค่ะถึงตัวเมือง "นครพนม" แล้ว ก็ได้เวลาพักผ่อนกับบรรยากาศสวย ๆ งาม ๆ ริม "แม่น้ำโขง"...หรือถ้าใครจะใช้สูตรเดินทางนี้แบบสลับ คือเริ่มจาก "นครพนม" ในตอนเช้า ไปจบที่ "สกลนคร" ในตอนเย็น ก็ได้นะคะ...สำหรับพระธาตุอีก 3 องค์ ที่อยู่ในรายการท่องเที่ยวสักการะ "พระธาตุจังหวัดนครพนม" ก็คือ "พระธาตุศรีคุณ" อำเภอนาแก (27 กิโลเมตร จาก "พระธาตุเรณู") "พระธาตุประสิทธิ์" อำเภอนาหว้า (59 กิโลเมตร จาก "พระธาตุมหาชัย") และ "พระธาตุท่าอุเทน" อำเภอท่าอุเทน (37 กิโลเมตร จาก "พระธาตุนคร")...จริง ๆ แล้ว ก็เป็นไปได้ไม่ยากเลยที่ใคร ๆ จะสามารถเดินทางสักการะพระธาตุให้ครบทั้ง 8 องค์ ภายใน 1 วัน แต่สำหรับสายหวานเย็นแบบผู้เขียนและครอบครัวนี่ไม่สามารถจริง ๆ ค่อยว่ากันใหม่ในวันต่อไปหรือทริปหน้าค่ะ.มรรษยวรินทร์ภาพปกและภาพประกอบที่ 2 ถึง 12 โดย มรรษยวรินทร์ภาพประกอบที่ 1 ใช้แผนที่ของ Google Mapsพิกัด พระธาตุมหาชัย วัดธาตุมหาชัย พิกัด พระธาตุเรณู วัดธาตุเรณูพิกัด พระธาตุพนม วัดธาตุพนมวรมหาวิหารพิกัด พระธาตุมรุกขนคร วัดมรุกขนครพิกัด พระธาตุนคร วัดมหาธาตุ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !