เมืองแพร่ ถ้าอยากไปโดนแน่ๆ แค่วันเดียวก็เที่ยวครบ
เพื่อนๆ ขาลุยทุกคน ใครที่ชอบเที่ยวภาคเหนือห้ามพลาด วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ เก็บกระเป๋าไปเที่ยว เมืองแพร่ กับแอดมินเพจ Kep Krapao ชิค ช้อป ชิม ชิลล์ และไปใช้ชีวิตช้าช้า ณ เมืองแพร่ จังหวัดที่หลายคนมองว่าเป็นแค่ทางผ่าน แต่สำหรับเรา ทางผ่านอะไรจะมีที่เที่ยวเยอะขนาดนี้ !
คือถี่ยิบๆ มีทั้งธรรมชาติ วนอุทยาน วัด โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ วัฒนธรรมอันดีงาม ผู้คนน่ารัก และของกินอร่อยเวอร์ ที่พูดมานี้ไม่ต้องตามเก็บเป็นอาทิตย์ๆ นะคะ เพราะแค่วันเดียวก็เที่ยวครบแล้ว
พูดมาซะขนาดนี้อย่าช้าค่ะ ป่ะ…เก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวเมืองแพร่กัน แล้วคุณจะตกหลุมรัก :”)
สำหรับใครที่ปลายทางไม่มีรถไปแพร่ มาลงลำปางเหมือนเราก็ได้นะ แล้วค่อยต่อเมล์เขียว (Green Bus) หรือรถตู้ที่มีทุกครึ่งชั่วโมงไปแพร่อีกที โดยรถตู้ราคา 80 บาทค่ะ อย่านั่งหลังสุดนะ โค้งเยอะมาก แทบอ้วก – – แต่ก็มาถึงจนได้ จากลำปางไปแพร่ จะใช้เส้นทางผ่าน อ.ลอง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะถึงเมืองแพร่แล้วค่ะ
เราโทรหาเพื่อนให้มารับ โดยครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถส่วนตัวกัน สะดวกที่สุด และจะได้เที่ยวหลายที่ ซึ่งเราจะเน้น อ.เมือง เป็นหลัก แต่ก่อนจะไปเที่ยว แวะเติมพลังกันก่อน หิวมากกกก ท้องร้องตลอดทางเลย วันนี้เจ้าถิ่นจะพาเราไปทุกซอกของเมืองแพร่ค่ะ ว่าใน 1 วัน เราจะไปที่ไหนได้บ้าง? เริ่มต้นด้วยที่นี่ “เตี๋ยวปู่คง” เป็นก๋วยเตี๋ยวห่อใบตอง ขายมานานกว่า 40 ปี ค่ะ
เมนูเด็ดที่มาแล้วต้องสั่ง คือ หมี่เหลืองแห้งหมูแดงลูกชิ้น ซึ่งเส้นบะหมี่ที่แพร่ทุกร้านจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนที่อื่นค่ะ คือ เส้นจะเป็นเส้นกลม ใหญ่กว่าปกติ และมีสีเหลืองเข้มกว่าบะหมี่ทั่วไป ราคาอยู่ที่ 30 บาท พิเศษ 40 ได้เยอะมาก แบบกินแล้วจุกท้อง เพื่อนเราเล่าว่า เช้าๆ จะมีแม่ค้ามารับก๋วยเตี๋ยวห่อใบตองไปขายต่ออีกที คือขายดีมาก กว่าเราจะได้กิน ต้องนั่งรอนานเลยทีเดียว ยังไงลองไปโดนกันนะคะ :”)
พิกัด : ซอยประชาอุทิศ 3 (ข้างศาลจังหวัดแพร่)
ร้านแรกผ่านไปแล้ว ถ้ายังไม่อิ่มเชิญต่อร้านสองค่ะ “ร้านก๋วยเตี๋ยวโบราณ” เราสั่งเล็กแห้ง คืออร่อยอ่า เส้นนุ่มมากกกก ที่นี่ยังมีข้าวคลุกกะปิ หมูสะเต๊ะ ข้าวมันไก่ และเครื่องดื่มอีกนะคะ
พิกัด : ใกล้ๆ วัดจอมสวรรค์
ออกเดินทางกันต่อเลย ใกล้ๆ ร้านก๋วยเตี๋ยว จะมี “วัดจอมสวรรค์” เป็นวัดไทยใหญ่ค่ะ สถาปัตยกรรมพม่า หลังคาจะซ้อนกันมีลดลายฉลุ ทำจากไม้สัก ใช้เป็นทั้งโบสถ์ วิหาร และกุฏิ
หลังจากไหว้พระเสร็จ สถานที่ต่อไปเรารอยคอ รอคอยมากก คืออยากไปช้อปเสื้อผ้าชิคๆ เดินทาง 15 นาทีจากวัดจอมสวรรค์ก็จะถึง “บ้านทุ่งโฮ้ง” ค่ะ ที่นี่มีชื่อเสียงในการทำผ้า “ม่อฮ่อม” หรือจะเขียนว่า “หม้อห้อม” ก็ได้ อาชีพหลักของชาวบ้านทุ่งโฮ้ง คือการทำผ้าหม้อห้อม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นจริงๆ ค่ะ สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนแล้ว และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดแพร่ จนได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP เชิงหัตถกรรม (OTOP Village Champion Handicrafts Tourism)
สืบเนื่องจากเดินช้อปจนอาหารย่อยหมดแล้ว หิวสิคะ เพื่อนเราเลยจัดให้ค่ะ พาไปกินขนมครก ตอนแรกนึกว่าร้านเล็กๆ ข้างทาง อืม…ก็ข้างทางแหละ แต่….ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดนะคะ เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมครกที่อร่อยที่สุดที่ในจังหวัดแพร่ “ขนมครกแม่หล่าย” ซึ่งขายมานานถึง 40 ปี ราคาขนมครกชุดละ 35 บาท มี 7 คู่ ตอนแรกเปิดกล่องออกมาหน้าตาไม่ค่อยหน้ากิน มันไม่กรอบเหมือนขนมครกทั่วไปอ่ะ แอบเละๆ นิดนึง แต่พอกินแล้วแบบ…ฟินเวอร์ หอมกะทิ หวาน มัน กลมกล่อมสุดๆ กลับไปซื้ออีกกล่องได้มั้ยเนี้ย ><
สถานีต่อไป “แพะเมืองผี” หลายคนอาจจะถามว่าไหนล่ะ “แพะ” เห็นมีแต่ผี (เรานี่แหละ…ผี ห้าาา) ขับรถออกจากร้านขนมครกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงแล้วค่ะ คือ ทำไมมันใกล้จัง แต่ละที่ที่ไป นี่อำเภอเมืองนะ เก๋มาก เราได้ยินชื่อที่นี่มานานมาก โคตรนานนน ในที่สุดก็ได้มาสักที ซึ่งแพะเมืองผีเกิดจากดินและหินทรายถูกกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นรูปร่างต่างๆ แพะ แปลว่า ป่าละเมาะ เมืองผี แปลว่า เงียบเหงา มีเนื้อที่ 167 ไร่เราจะเห็นหน้าผา เสาดิน และเส้นทางศึกษาธรรมชาติค่ะ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเรื่อยๆ เลย อากาศจะร้อนนิดนึง ดังนั้นมาเที่ยวช่วงเช้าเวิร์คสุด
เพื่อนเราพามาที่ “พระธาตุอินทร์แขวน” ค่ะ ที่นี่จะจำลองพระธาตุอินทร์แขวนจากประเทศพม่า เป็นทั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาโพธิวงศาจริยารม และพุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ต้องจอดรถไว้ข้างล่างแล้วเดินขึ้นเขาไปประมาณ 10 นาทีก็จะถึงค่ะ วิวด้านบนสวยมาก
หลังจากที่เหนื่อยกับการขึ้นลงเขาเสร็จแล้ว เพื่อนเราบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปเก็บ “เตา” !!!!! หืมมมม “เตา” คืออะไร ทำหน้างงอยู่ตลอดทาง เพื่อนเราขับรถออกจากพระธาตุขึ้นไปไม่ไกล ไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงที่หมาย
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ “เตา” สาหร่ายเมืองแพร่กันค่ะ “เตา” เป็นสาหร่ายน้ำจืด เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ ถ้าอยากรู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง เลี้ยงยังไง เก็บยังไง เก็บกระเป๋ามาดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ตำนานของเตาที่นี่ มีอยู่ว่า…เมื่อก่อนชาวบ้านเขาขุดบ่อเลี้ยงปลา แต่เลี้ยงแล้วไม่โอเค เลยปล่อยบ่อทิ้งไว้ 3-4 เดือน ก็พบว่ามีสาหร่ายเขียวๆ ขึ้นเต็มบ่อ และกินได้ เลยลองเก็บเอามาขาย และสร้างเป็นอาชีพ มีรายได้ให้แก่หมู่บ้านจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
ซึ่งการเลี้ยงเตาของคนที่นี่เริศมากกก เพราะเลี้ยงด้วยน้ำจากธรรมชาติที่ไหลจากยอดเขา อื้อหื้ม…คือเก๋ คือดีงาม และน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาจริงๆ คอนเฟิร์มค่ะ !! เตาเลยสะอาด และไม่มีสารเคมีตกค้างเหมือนเตาในที่น้ำขัง เช่น เตาในทุ่งนาที่อาจจะมียาฆ่าแมลงเจือปน หรือมีพวกพยาธิ ไส้เดือนติดมาเป็นของแถม บรึยยย – –
เตาที่เก็บได้ จะเหมือนเส้นผมเส้นเล็กๆ ค่ะ นุ่มๆ มีกลิ่นคาวนิดหน่อย เขาจะเอามาทำอาหาร พวกยำสาหร่าย ข้าวเกรียบเตาทอด สบู่ มาร์กหน้า ฯลฯ ซึ่งมีสารอาหารที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะคลอโรฟิล
*** ดอกจันทร์ตัวโตๆ ว่า นอกจากจะมีเตาแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธ์ติดอันดับ 7 ของประเทศไทยอีกด้วยค่ะ
ตามอ่านเที่ยวเมืองแพร่ใน 1 วันเต็ม เพิ่มเติมกันได้ที่ http://pantip.com/topic/35215275 และ แฟนเพจ https://www.facebook.com/kepkrapao
ติดตาม travel.truelife.com อีกช่องทางที่
ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และที่พัก คลิกที่ http://travel.truelife.com