เมื่อร่างกายอ่อนล้า จากการต่อสู้ทั้งภาระงานและภาระส่วนตัว ทุกคนก็ต้องการแหล่งธรรมชาติที่มาเพิ่มพลังให้กับร่างกายเรา วันนี้มีหนึ่งสถานที่ ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก ได้ครบทั้งธรรมชาติต้นไม้และธรรมชาติจากทะเล นั่นก็คือ.... โครงการแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี (Leam Phak Bia : Phetchaburi) ที่นี่มีอะไรที่มากกว่าธรรมชาติ ? โครงการแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุ เป็นโครงการศึกษาวิจัย และพัฒนาสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยตั้งอยู่ที่ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 1,135 ไร่ เป็นแหล่งที่สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 1 ใน 5 ของเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี โดยน้ำเสียจะถูกส่งมาตามท่อความยาวกว่า 18 กิโลเมตร ตามจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเข้าสู่ระบบบำบัดที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีชั้นสูง และเป็นยังมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่นี่มีเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียตามแนวพระราชดำริที่ได้นำมาใช้ในแหลมผักเบี้ยมีทั้งหมด 4 ระบบ ได้แก่ 1. ระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย เป็นระบบที่อาศัยการกักพักน้ำเสียไว้ในระยะเวลาที่เหมาะสมกับความสกปรกของน้ำ เติมออกซิเจนด้วยการสังเคราะห์แสงของแพลงก์ตอน และสาหร่าย อาศัยแรงลมช่วยในการเติมอากาศเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลายสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ และกักพักน้ำในแต่ละบ่อเป็นเวลา 7 วัน น้ำเสียแต่ละบ่อจะไหลล้นจากด้านบน และไหลลงสู่ด้านล่างของบ่อถัดไป 2. ระบบพืชและหญ้ากรองนาเสีย เป็นระบบที่ให้พืช หญ้าอาหารสัตว์ ช่วยดูดซับธาตุอาหารจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ในดิน โดยมีระยะเวลาในการขังน้ำเสีย 5 วัน สลับปล่อยแห้ง 2 วัน 3. ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม เป็นระบบที่ใช้กลไกการบำบัดเช่นเดียวกับระบบพืช และหญ้ากรอง จะแตกต่างกันที่วิธีการ คือ จะเติมน้ำเสียลงสู่ระบบอย่างต่อเนื่องตลอดวัน โดยอัตราการไหลของน้ำเสียเท่ากับปริมาณน้ำเสียใหม่ที่สามารถผลักดันไล่น้ำเสียเก่าออกจากระบบหมดในเวลา 1 วัน 4. ระบบแปลงพืชป่าชายเลน ระบบนี้จะให้ธรรมชาติบำบัดด้วยตัวของมันเองตามระยะเวลาการขึ้นลงของน้ำทะเลในแต่ละวัน อาศัยระบบรากของพืชป่าชายเลนช่วยปล่อยก๊าซออกซิเจนเติมให้กับน้ำเสียและจุลินทรีย์ในดิน สำหรับสัดส่วนในการผสมระหว่างน้ำเสียและน้ำทะเลจะมีสัดส่วนมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับค่าความสกปรกของน้ำเสีย จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวแหลมผักเบี้ย โครงการแหลมผักเบี้ย ไม่ได้เป็นโครงการที่ใครมาแล้วจะเบื่อกลับไป แต่จะได้รูปภาพสวย ๆ ได้ชื่นชมธรรมชาติที่งดงาม และมีคุณค่าในการบำบัดน้ำเสีย เมื่อใครมาที่นี่หากใครมีกำลังแรงพอไหว และยังสุขภาพดี ขอแนะนำการปั่นจักรยานแบบชาวบ้าน ในราคา 20 บาท/ 3 ชั่วโมง ไม่แพงเลย แถมถ้าใครมาถ่ายรูปก็ยังใช้มาทำเป็นพร็อพถ่ายรูปได้อีกด้วย แต่หากใครที่มากับญาติผู้ใหญ่ หรือขี้เกียจออกกำลังกายเพราะกินมาอิ่ม ๆ ก็แนะนำให้ขึ้นรถรางของทางโครงการ เส้นทางรถรางจะขับรอบโครงการแหลมผักเบี้ย แวะจอดตามจุดต่าง ๆ แต่แวะไม่นาน ถ้าใครต้องการแวะจุดใดให้ลงที่จุดนั่น เมื่อจะกลับก็มานั่งรอที่จุดจอดรถรางเพื่อรอรถรางวนกลับมา เราได้เลือกเป็นปั่นจักรยาน เพราะต้องการชมบรรยากาศต้นไม้และหญ้าสีเขียว (แนะนำให้เอาหมวกกันแดดมาด้วย และทาครีมกันแดดมาเลย) เมื่อปั่นจักรยานไปรอบโครงการตามป้ายลูกศรที่มีตลอดทาง ก็จะเห็นบ่อบำบัดน้ำเสียที่ใหญ่มาก และมีโซนต้นไม้ที่ปลูกตามแนวกั้นขอบเขตของแต่ละบ่อ ไม่รอช้าเราไปที่โซนป่าชายเลนและสะพานไม้กันเลย จุดเด่นของที่นี่คือ "โซนป่าชายเลนและสะพานไม้" เมื่อถึงจึดสำคัญที่ใคร ๆ ก็ต้องแวะ นั่นก็คือ "โซนป่าชายเลนและสะพานไม้" ก็จะพบกับสะพานไม้ที่ลึกเข้าไปในป่าชายเลน โดยสองข้างทางของสะพานไม้จะมีต้นไม้ตลอดทาง เมื่อเดินเข้าไปตามสะพานไม้จะพบว่า มีบางจุดที่น้ำทะเลขึ้นมาไม่ถึง หรืออาจขึ้นมาได้นิดเดียว ตรงนี้จะเห็นรากต้นไม้โผล่ออกมาจากดิน หากสังเกตดูดี ๆ จะเห็นปูไต่ขึ้นตามรากต้นไม้ที่โผล่ขึ้นมา ตัวปูไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป ซึ่งสิ่งนี่เป็นตัวบ่งบอกว่าเราได้มาสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริงแล้ว บางจุดที่เดินก็มีต้นไม้สูงใหญ่จนปกคลุมหัวเราเลย หรือบางจุดเดิน ๆ ไปก็ต้องระวัง เพราะกิ่งต้นไม้ที่ยื่นเข้ามาในทางเดิน เหมือนเรากำลังเล่นพจญภัยในป่าธรรมชาติ เมื่อเงียบเสียงเราจะสัมผัสได้ถึงความสงบร่มรื่นของป่าชายเลน หากใครเดินเหนื่อยมากพอแล้วจะมีจุดพักเป็นซุ้มศาลาที่พักข้างสะพานไม้ ให้เราได้พักหายใจและดื่มน้ำที่เตรียมมา หากพร้อมแล้วก็เดินต่อไปให้สุดทางเพราะมีสิ่งที่สวยงามรออยู่ เดินเข้ามาจนถึงสุดทางเดิน ระยะทางจากต้นทางประมาณ 1 กิโลเมตร เราจะได้รับลมที่ปะทะร่างกาย และเสียงคลื่นทะเลที่รอต้อนรับอยู่ ซึ่งปลายทางสะพานไม้ที่เดิน จะยื่นเข้าไปในทะเล ช่วงที่น้ำทะเลขึ้นจะสวยที่สุด เพราะถ่ายรูปออกมาจะเต็มไปด้วยน้ำทะเลและต้นไม้ที่ถูกน้ำทะเลท่วมราก จุดนี่เป็นจุดที่ทำให้ใครหลาย ๆ คน หายเหนื่อยจากการเดินเข้ามาเลย เพราะได้นั่งพักริมสะพานไม้ เจอลมทะเลพัดแรง ๆ และนั่งมองทะเลกับท้องฟ้า หลังจากพักผ่อนจุดนี้มาพอสมควรแล้วก็ได้เวลาถ่ายรูปกับธรรมชาติ และเดินทางกลับ เพื่อพร้อมที่ไปสู้กับงานในเมืองใหญ่ ก่อนเดินทางกลับสามารถแวะซื้อของฝากขึ้นชื่อ คือ สาหร่ายพวงองุ่น ที่จัดชุดมาให้พร้อมทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดในราคากล่องละ 50 บาท ท่องเที่ยวธรรมชาติ ตามรอยพ่อหลวงในรัชกาลที่ 9 ณ โครงการแหลมผักเบี้ย 𝙇𝙤𝙘𝙖𝙩𝙞𝙤𝙣 : โครงการแหลมผักเบี้ย, เพชรบุรี 𝙊𝙥𝙚𝙣 : จ-อา 6.00-18.00 น. 𝙈𝙖𝙥 : https://goo.gl/maps/Mj7Aoeb1PuTupcAn6 • 𝙁𝙊𝙇𝙇𝙊𝙒 𝙈𝙀 • 𝙁𝙖𝙘𝙚𝙗𝙤𝙤𝙠 : สายเที่ยวสายแดก 𝙔𝙤𝙪𝙩𝙪𝙗𝙚 : สายเที่ยวสายแดก 𝙄𝙣𝙨𝙩𝙖𝙜𝙧𝙖𝙢 : om.paisit